จะรักใครก็รัก แต่อย่าลืมรักตัวเอง (ให้เป็น) จากแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต

จะรักใครก็รัก แต่อย่าลืม รักตัวเอง (ให้เป็น)

รักตัวเอง ให้เป็นก่อนดีกว่า เพราะถ้ารักตัวเองไม่เป็น จะไปรักคนอื่นได้อย่างไร

“พี่สาวของดิฉันแยกทางกับพี่เขย ทำให้หลานสาวของดิฉันเสียใจมาก ครอบครัวเราจึงตัดสินใจส่งหลานสาวและลูกสาวของดิฉันอีก 2 คน ไปเรียนต่อไฮสกูลที่สหรัฐอเมริกา เพราะเชื่อว่าโอกาสทางการศึกษาจะดีกว่า โดยไปอาศัยอยู่กับป้าของดิฉันซึ่งเจ้าระเบียบมาก จนบางครั้งเด็กทั้งสามคนกดดัน ดิฉันเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างวัย ทุกครั้งดิฉันได้แต่แนะนำทั้งลูกสาวและหลานสาวให้เลือกรับฟังแต่สิ่งที่ทำให้เราสบายใจ และละทิ้งสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์ การแนะนำค่อนข้างได้ผลกับลูกสาว แต่กับหลานสาวแล้ว ยิ่งเหมือนเพิ่มแรงกดดันให้เธอ สุดท้ายเมื่อเรียนจบไฮสกูล หลานสาวกลับมาเที่ยวบ้านและทะเลาะกับพี่สาวของดิฉัน เขาหนีไปอยู่กับพ่อ โดยบอกว่าอาจะส่งเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองไทย ก่อนไปเธอต่อว่าแม่มากมาย ทำให้พี่สาวของดิฉันเสียใจมาก

 “เวลาผ่านไปปีกว่า หลานสาวกลับมาหาแม่พร้อมบอกว่าอาไม่สามารถส่งเรียนได้ ทำให้ต้องดิ้นรนทำงานและพยายามเรียนต่อ ตอนนี้หลานสาวมีแฟนที่เราเห็นว่าไม่ได้เป็นผู้นำที่เข็มแข็ง  พี่สาวอยากให้หลานสาวกลับไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา จนเมื่อเดือนที่แล้ว พี่สาวตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็ง หลานสาวโทร. มาร้องไห้กับดิฉัน บอกว่ากลุ้มใจที่แม่ป่วย ดิฉันได้แต่เตือนสติว่า เรื่องแม่เจ็บป่วยเราช่วยกันดูแล แต่สิ่งที่อยากให้ทำคือกลับไปเรียนต่อ ตอนแรกเขาตัดสินใจกลับไปเรียนในเดือนธันวาคมนี้ ทำให้พวกเราดีใจมากเพราะการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพี่สาวโทร. มาร้องไห้ว่า หลานสาวไม่ไปเรียนแล้วเพราะแฟนมาร้องไห้คร่ำครวญไม่อยากให้ไป

“ เราทุกคนมองว่าผู้ชายรักแต่ตัวเองที่ต้องการยึดหลานไว้ ไม่มีความหวังดีต่ออนาคตของหลาน พี่สาวดิฉันพยายามเตือนสติลูกสาว  ปรากฏว่าเธอต่อว่าแม่ พูดจาลำเลิกว่าทุกวันนี้แม่อยู่ได้เพราะเงินทองของเธอเพราะฉะนั้น อย่ามายุ่งเรื่องเธอ พี่สาวดิฉันฟังแล้วปวดใจ

 “ดิฉันบอกพี่สาวว่าให้อภัยหลาน อย่าโกรธหลาน แต่พี่สาวเป็นทุกข์ ขอร้องดิฉันให้นำธรรมะชี้ทางสว่างให้หลานด้วย ดิฉันและสามีเชื่อมั่นในคำสอนของพุทธองค์ แต่ด้วยบุญและบารมีของดิฉันเองยังมีไม่พอ จึงนึกถึงคอลัมน์ของท่านแม่ชี ได้โปรดชี้ทางสว่างแก่หลานสาวให้ตระหนักถึงบาปบุญคุณโทษ จึงกราบเรียนมาเพื่อขอคำแนะนำค่ะ”

ธรรมะจากแม่ชีศันสนีย์  เสถียรสุต 

การหาใครสักคนมาเตือนสติหลานสาว คนคนนั้นคงต้องมีวิธีการพูดที่จะทำให้เด็กคนนี้กลับไปอ่านใจของตัวเองให้เป็นเพราะแม้กระทั่งการตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อหรือจะอยู่ เด็กยังละล้าละลัง ไม่มีความมั่นคงของจิตที่จะตัดสินใจอย่างคนที่จะพึ่งสติปัญญาของตัวเองได้

คุณซึ่งเป็นน้าอาจใช้วิธียกตัวอย่างคนในวัยใกล้เคียงกับเธอ ให้เห็นว่าการไม่ปล่อยให้ตัวเองไหลไปกับความรักหรือความหลง แต่รู้หน้าที่และบทบาทของการเป็นลูก หรือการกลับไปเรียน จะมีผลดีอย่างไร

ไม่ต้องพูดถึงความเกลียดชังในตัวผู้ชายคนนั้น ไม่ต้องไปบอกว่าเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะเท่ากับเป็นการเขี่ยหลานของเรากลับไปอยู่ในเรื่องนั้น ซึ่งไม่เกิดประโยชน์

เราต้องหาวิธีเร้ากุศลหลาน อย่าตัดสินหลานแบบเร้าอกุศล เด็กหนึ่งคนที่กำลังมีความรัก ถ้าเราท้าทายมาก เด็กจะเหวี่ยง จะวีนทันที วัยนี้เป็นวัยที่ถ้ารักใครก็จะหลงสุด ๆ  ถ้าเกลียดใครก็จะเกลียดสุด ๆ  ฉะนั้น อย่าทำให้เขาเกลียดเราที่พยายามทำให้เขาทำในสิ่งที่เราคิดว่าดี  แต่ให้บอกว่ามันจะมีผลดีอย่างไร หากกลับไปเรียนต่อ เขาจะพึ่งตัวเองได้ตลอดชีวิต  และทำให้เขาเห็นว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้แม่และญาติพี่น้องที่รักเขารู้สึกเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างไร

บอกเขาด้วยว่า ไม่ว่าเขาจะหาเงินเลี้ยงแม่หรือไม่ ความรักความกตัญญูของลูกที่มีต่อแม่ต่างหากที่หล่อเลี้ยงหัวใจแม่ ไม่ใช่เงิน ยิ่งในขณะที่แม่กำลังป่วยเป็นมะเร็ง ซึ่งมีเวลาอยู่กับเขาสั้นลงทุกวัน การที่เราจะอยู่อย่างรักตัวเอง พึ่งพาตัวเองได้ในระยะยาวในวันที่ไม่มีแม่แล้ว เป็นสิ่งที่ต้องทำเดี๋ยวนี้

ความรัก – ผู้ชายไม่ใช่เรื่องที่ขาดแล้วเราต้องตาย หาเมื่อไรก็ได้ ตอนนี้ทำเรื่องที่ควรทำ เรื่องที่ต้องทำ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสให้ทำ

รักตัวเองให้เป็นก่อนดีกว่า เพราะถ้ารักตัวเองไม่เป็น จะไปรักคนอื่นได้อย่างไร

เรื่อง แม่ชีศันสนีย์  เสถียรสุต

ที่มา : นิตยสาร Secret ฉบับที่ 181 คอลัมน์ Family Issue

บทความน่าสนใจ

รักตัวเองให้เป็น เพื่อรักคนอื่นได้อย่างไม่ทุกข์ บทความดีๆ จาก แม่ชีศันสนีย์

ผู้หญิงหัวใจแกร่ง บีม - วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ