เรียกสติ

5 Step เรียกสติ ให้กลับคืนมา อย่างรวดเร็วทันใจ

5 Step เรียกสติ ให้กลับคืนมา อย่างรวดเร็วทันใจ

การใช้ชีวิตโดยขาดสติ แม้ชั่วขณะ ก็สามารถทำให้เพื่อนๆ ตัดสินใจในสิ่งที่ผิดพลาดได้ วันนี้เรามีเทคนิคการ เรียกสติ กลับคืนมา นำมาฝาก  เพียง 5 อย่างง่ายๆ นำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

1.รู้ตัวว่ากำลังโกรธ โมโห เสียใจ เมื่อเจอเรื่องไม่พอใจ

เมื่อไหร่ที่คุณ “รู้ตัว” ว่าตัวเองกำลังโกรธ โมโหเสียใจเมื่อได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ คำนินทา หรือพบเจอเรื่องราวที่ไม่น่าพอใจ และไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองแสดงอารมณ์ร้ายๆ นั้นออกมา นั่นแปลว่าคุณมีสติดีเยี่ยม สามารถตามอารมณ์ของตัวเองทันแต่สำหรับใครที่เผลอสติขาดผึงอยู่บ่อยๆ ลองฝึก “รู้ตัว” ทุกครั้งเมื่ออารมณ์ร้ายๆ ผุดขึ้นในใจ แล้วคุณจะรู้ว่า อารมณ์ เหล่านั้น จะค่อยๆ ดับลงไปได้เองอย่างไม่น่าเชื่อ!

  1. รู้ตัวว่ากำลังดีใจ เมื่อได้ยินคำชม หรือเจอเรื่องถูกใจ

หากคุณ “รู้ตัว” ว่าตัวเองกำลังสุขสุดขีด ดีใจเหมือนตัวลอยได้ หรือรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังพองโต เมื่อได้ยินคำชมเชยหรือเจอเรื่องราวถูกใจ นั่นแปลว่า คุณยังมีสติและความสามารถมากพอที่จะไม่ปล่อยให้ตัวเองหลงระเริงไปกับเรื่องราวน่ายินดีเหล่านั้น รู้ไหมว่า การมีสติรู้ตัวว่าตัวเองกำลังดีใจหรือสุขใจจะช่วยให้คุณเข้าใจสัจธรรมข้อหนึ่งได้ว่า ความสุขนั้นไม่เที่ยง ความสุขเป็นของชั่วคราว เกิดขึ้น แล้วเดี๋ยวก็หายไป

3.รู้ตัวว่ากำลังเดิน กิน นั่ง ยืน นอน หรือทำกิจกรรมต่างๆ

หากคุณรู้ตัวเสมอว่าตัวเองกำลังเดิน กิน นั่ง ยืน นอน หรือทำกิจกรรมต่างๆ เช่น อาบน้ำก็รู้ว่าอาบน้ำ ขับรถก็รู้ว่าขับรถ ล้างจานก็รู้ว่าล้างจาน นั่นแปลว่า คุณมีสติรู้ตัว อยู่กับปัจจุบันขณะ ไม่เหม่อลอย คิดพะวงถึงเรื่องอื่นๆ ซึ่งการมีสติรู้ตัวกับทุกๆ อิริยาบถเช่นนี้ นอกจากจะช่วยให้คุณตั้งอยู่ในความไม่ประมาทแล้ว ยังช่วยให้จิตใจของคุณเบาสบาย เพราะไม่มี “ขยะ” ที่รกรุงรังสมองให้ต้องแบกรับอีกด้วย

  1. รู้ตัวว่ากำลังคิดถึงอดีตและพะวงถึงอนาคต

หากคุณรู้ตัวว่ากำลังเผลอครุ่นคิดถึงอดีต หรือกำลังพะวงในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต นั่นแปลว่า คุณมีสติรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้อยู่กับปัจจุบันขณะ ซึ่งการรู้ตัวเช่นนี้บ่อยๆ จะช่วยให้คุณสามารถดึงตัวเองออกมาจากเรื่องฟุ้งซ่านน่าปวดหัวนั้นได้ง่าย ไม่ปล่อยให้ตัวเองหลุดไหลไปกับความคิดปรุงแต่งเหล่านั้นแต่สำหรับใครที่ชอบเผลอคิดถึงอดีตและอนาคตบ่อยๆ แม้จะดึงตัวเองกลับมาได้ แต่ไม่นานก็วกกลับไปคิดเรื่องเดิมซ้ำๆ อีก ขอให้ลองคิดเรื่องที่เป็นกังวลอยู่นั้นให้จบ เมื่อไหร่ที่ความคิดเดิมผุดขึ้น มันก็จะหายไปเองได้อย่างง่ายดาย

5.รู้ตัวว่ากำลังหายใจเข้าและออก

เมื่อไหร่ที่คุณรู้ตัวว่า ตัวเองกำลังหายใจเข้าและออกอยู่ รู้ว่าลมหายใจนั้นสั้นหรือยาวแค่ไหน นั่นแปลว่า คุณมีสติรู้ตัวแบบสุดๆ คุณสามารถอยู่กับปัจจุบันขณะได้ แม้มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นตรงหน้า แต่สำหรับใครยังรู้สึกว่าตัวเองสติหลุดกระเจิงบ่อยๆ ลองฝึกปล่อยวางความคิดรกรุงรังในหัวแล้วกลับมาอยู่กับที่พึ่งที่ดีที่สุดของคนเราซึ่งก็คือ “ลมหายใจ” เช่น ขณะทำงานระหว่างที่กำลังวุ่นวายกับความคิดว่าอยากทำงานให้ดีให้เสร็จ ก็ให้กลับมาอยู่กับลมหายใจบ่อยๆเท่านี้คุณก็จะกลายเป็นคนมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลาแล้ว

ขอให้ใช้บททดสอบเหล่านี้เพื่อดูว่าเราสามารถควบคุมอารมณ์ไม่ให้วูบวาบไปตามสิ่งที่มากระทบและเรียกสติมาช่วยได้ทันหรือไม่…หากเผลอก็ถือว่าสอบตก ต้องรีบสอบซ่อมและทำให้ดีกว่าเดิมในครั้งต่อไป

::: มินู Goodlifeupdate :::


บทความน่าสนใจ

เทคนิครับมือทุกปัญหาดราม่าในที่ทำงาน

วิธีดูแลตัวเองฉบับง่าย สำหรับสาว(ทำงาน)เวลาน้อย

5 วิธี สร้างกำลังใจในการทำงาน

13 สิ่งผิดพลาด ที่คนส่วนใหญ่ชอบทำตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน

20 เคล็ดลับที่ คนแก่ ขอแชร์ให้คนอายุน้อยทำตาม

Posted in MIND
BACK
TO TOP
A Cuisine
Writer

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.