วิธีแก้เครียด

ไม่ว่าใครก็ต้องมีความเครียด จะเครียดมาก เครียดเบาๆ มันก็ทำให้เราไม่สบายใจ ไม่สบายกายได้เหมือนกัน ดังนั้น การเลือกวิธีแก้เครียดที่เหมาะสมกับตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ จะได้ไม่เครียดหนักไปมากกว่าเดิม

มาดูกันว่ามีวิธีไหน ต้องทำอะไรถึงจะช่วยแก้เครียดได้บ้าง บางวิธีทำไม่ได้ ทำไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนนะคะ เลือกวิธีแก้เครียดที่เหมาะกับเรา!

วิธีแก้เครียด

4 วิธีเบาๆ ทำง่ายๆ แต่ได้ผล

ยอมแพ้เลย

มันเกิดขึ้นแล้วก็หมายความว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงยอมแพ้ ทำใจปล่อยไป เพราะยังไงแก้ไขไม่ได้  ดังนั้น บอกไปเลยว่า ‘ยอมแพ้ พอแล้ว’ แล้วมาเปลี่ยนความเครียดแบบนี้ไปพัฒนาตัวเองไม่ให้ผิดพลาดคราวหน้าดีกว่า

ลืมมันซะ

ถ้าลองสังเกตดู เวลาผ่านไปนานๆ เมื่อเราย้อนไปคิดถึงปัญหาเก่าๆ เราก็ไม่คิดว่ามันหนักหนาอะไรใช่ไหมล่ะ นี่ก็คือวิธีการเดียวกัน เพราะความเครียดส่วนใหญ่จะจางหายเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น บอกตัวเองให้หาอะไรอย่างอื่นทำ เล่นเกม ช็อปปิ้ง ดูหนัง อะไรก็ได้ที่ทำแล้วไม่ต้องคิดอะไรเยอะ เดี๋ยวก็ลืมความเครียดนั้นไปเอง

โทษคนอื่น

ยิ่งคิดยิ่งโทษตัวเอง ก็มีแต่เราเองที่รู้สึกแย่ ดังนั้น โทษคนอื่นไปเลย แต่…! ต้องโทษในใจหรือเล่าให้คนสนิทที่มั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่แพร่งพรายออกไป เพราะถ้าหลุดปากออกไปเรื่องเครียดเรื่องใหม่เพิ่มเข้ามาแน่นอน

ใช้เงินฟาดความเครียด

เปลี่ยนความเครียดเป็นสิ่งของ เป็นงานปาร์ตี้  แทนที่จะนั่งจมอยู่กับความคิด ลุกออกไปสังสรรค์ ไปช็อปปิ้ง ออกกำลังกาย  ไปร้องคาราโอเกะ ไปทำอะไรก็ได้ที่ชอบดีกว่า จำไว้ว่าเสียเหงื่อ เสียเงินให้ความเครียด ดีกว่าเสียน้ำตานะ

วิธีแก้เครียด

 4 วิธีจริงจัง ยากหน่อยแต่อย่างยั่งยืน

เผชิญหน้า สู้ความเครียด

กำจัดความเครียดด้วยการเผชิญหน้ากับมัน ไม่ว่าจะเครียดเรื่องงาน เรื่องคน เรื่องเงิน ก็แค่หันหน้าเข้าหามัน คุยกับคนที่เป็นต้นตอของความเครียด อาจจะฟังดูยากและดูเครียดกว่าเดิม แต่ถ้าหากไม่ลองเปิดใจคุยกันแล้วคงไม่มีวันแก้ปัญหาได้หรอก แต่แนะนำว่า การเผชิญหน้ากับคนๆ นั้น ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ก็ต้องคุยกันด้วยเหตุผลอย่าใช้อารมณ์นำเด็ดขาด

เรียนรู้จากความเครียด

ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น คือข้อมูลที่ล้ำค่า ดังนั้น เราต้องเปลี่ยนความเครียดและความล้มเหลวนั้นมาเป็นแหล่งข้อมูล เป็นบทเรียน เพื่อเตือนใจให้ตัวเองระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีก  ปัญหานี้จะมาอีกกี่ครั้งเราก็จะผ่านไปได้ แม้เจอเรื่องใหม่ๆ เข้ามา แต่บทเรียนเก่าๆ จะช่วยให้เราปรับตัวและเรียนรู้เพื่อเอาตัวรอดจากความเครียดไปได้

ฟังคำแนะนำโดยไม่อคติ

เวลาเครียดเรามักจะปรึกษาคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท คนรัก ครอบครัว บางคนก็มีประสบการณ์ช่วยแนะนำได้ บางคนก็อาจจะไม่เคยเจอแบบเรา แต่เขาสามารถให้คำแนะนำได้ บางคนอาจจะแค่อยากพูดอยากเล่าระบายความเครียด แต่ถ้าอยากหายเครียดอย่างจริงจัง สิ่งที่คุณต้องทำคือ เปิดใจฟังคำแนะนำเหล่านั้นโดยไม่อคติ ไม่พูดแทรก ไม่แย้ง ไม่พูดว่า “คุณไม่เข้าใจฉันหรอก”

เมื่อเปิดใจแล้ว คิดทบทวนถึงเหตุและผลที่เขาได้แนะนำ แล้วลองนำคำแนะนำไปปฏิบัติตาม ถ้าบางข้อทำไม่ได้ ก็ขอคำปรึกษาใหม่ บอกไปว่าเราติดขัดอย่างไร จะปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้าง จำไว้ว่าทางออกมีหลายทางเสมอ

มองโลกในแง่ดี

คิดเสียว่า “อะไรที่เกิดขึ้นมันดีแล้ว” ถึงแม้ตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ เราอาจจะเครียด รู้สึกแย่ แต่หลังจากนั้นอาจจะมีเรื่องดีๆ ตามมา เช่น หัวหน้าให้ย้ายแผนกโดยที่เราไม่เต็มใจ แม้เราต้องมาเริ่มต้นใหม่ แต่เมื่อไปแล้วก็พบว่างานใหม่มันสนุกกว่า ชีวิตดีกว่าเดิม จากที่เครียดๆ ก็กลายเป็นเรื่องดีๆ ที่ลงตัวไป เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ทุกสิ่งบนโลกล้วนแต่มีข้อดีและข้อเสียในตัว เราก็แค่ลองพยายามหาข้อดีของมันให้มากกว่าข้อเสีย หรือเปลี่ยนข้อเสียให้เป็นข้อดีที่ไม่เหมือนใคร เช่น งานใหม่ต้องเดินทางไกล แต่ข้อดีคือได้มีเงินเพิ่มขึ้นจนนั่งแท็กซี่ได้สบายๆ  คิดแบบนี้ความเครียดไม่มีแน่นอน