อาหาร ตัวช่วยเอาชนะ โรคหลอดเลือดสมอง
หากจะชวนคุยเรื่อง โรคหลอดเลือดสมอง หรือ สโตรก (stroke) คนที่ไม่ได้ดูแลสุขภาพอย่างเคร่งครัดอาจเห็นเป็นเรื่องไกลตัว แต่ถ้าพูดเสียใหม่ว่า เจ้าโรคนี้ก็คือตัวการของอัมพฤกษ์อัมพาตที่ทำให้คนตายทั้งเป็น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นโรคที่กำลังมาแรงแซงโค้งขึ้นสู่การเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตคนไทย เราจึงมาแนะนำเทคนิคการกินอาหารสู้โรคนี้กันค่ะ
ปรับอาหารต้านสโตรก
เดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคุณผู้อ่านชีวจิตต่างรู้ดีว่าอาหารไขมันสูง รสจัด และฟาสต์ฟู้ดไม่เป็นมิตรต่อสุขภาพและอาจเป็นปัจจัยให้เกิดโรคสารพัด ไม่ว่าจะเป็นเบาหวานซึ่งทำให้หลอดเลือดเปราะ ไขมันในเลือดสูงทำให้เกิดก้อนพลัคไขมันเกาะที่หลอดเลือดจนตีบหรืออุดตัน และแล้วก็ถูกสโตรกโจมตีในที่สุด
ทว่าแม้จะรู้ข้อเสียของอาหารบางประเภท แต่ไม่สามารถตัดตอนพฤติกรรมการกินเดิมๆได้ หากไม่อยากเพิ่มความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นสโตรก ก็ได้เวลาเปลี่ยนพฤติกรรมการกินที่แย่ๆต่อไปนี้เสียใหม่
อาหารหลักสามมื้อคือข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ฯลฯ
เนื้อสัตว์จากหมู วัว เป็ด ไก่ เหล่านี้มีไขมันมากพอที่จะเพิ่มปริมาณไขมันในเส้นเลือดให้เกิดตีบตันขึ้นมาได้ ยิ่งเป็นของโปรดที่กินเป็นประจำ ยิ่งเท่ากับสะสมเชื้อเพลิงให้เกิดการระเบิดในสมองเร็วขึ้น
หนังสือ Food: Your Miracle Medicine โดย ฌอง คาร์เปอร์(Jean Carper) แนะนำแหล่งโปรตีนจากเนื้อปลาที่ดีกว่าเนื้อสัตว์ใหญ่ ทั้งยังดีต่อระบบไหลเวียนโลหิตว่า การกินปลาที่มีไขมันมากช่วยให้ร่างกายได้รับโอเมก้า – 3 ซึ่งทำหน้าที่มหัศจรรย์หลายอย่างเกี่ยวกับเลือด และมีส่วนทำให้เกิดสโตรกน้อยลง
การวิจัยที่เนเธอร์แลนด์พบว่า การกินปลาแม้เพียงเล็กน้อยช่วยลดโอกาสการเป็นสโตรกได้ โดยพบว่าคนอายุ 60 – 69 ปีที่กินปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งจะป่วยเป็นสโตรกน้อยลงใน 15 ปีข้างหน้าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่กินปลาเลย
ยิ่งไปกว่านั้น การศึกษาที่มีอย่างต่อเนื่องในประเทศญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า คนที่กินปลามากๆจะไม่ค่อยเสียชีวิตถ้าเกิดป่วยเป็นสโตรกขึ้นมา นักวิจัยพบว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านชาวประมงที่กินปลาวันละสองขีดครึ่ง (250 กรัม) มีอัตราการเสียชีวิตด้วยสโตรกน้อยกว่าคนที่กินปลาวันละ 85 กรัม 25 – 40 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ยังพบว่า การมีโอเมก้า – 3 อยู่ในกระแสเลือดแม้จะมีอาการของโรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้นแล้ว สามารถช่วยให้มีอาการน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น
ไม่ชอบกินผัก สุกก็แหวะ สดก็บอกว่าเหม็นเขียว
พฤติกรรมการไม่กินผักเช่นที่ว่าพบได้บ่อยๆจากคนใกล้ตัวซึ่งทำให้ขาดโอกาสในการได้รับวิตามินเกลือแร่ที่หลากหลายครบถ้วน และทำให้ขาดโอกาสที่จะห่างไกลโรคอย่างสโตรกไปด้วย แต่สำหรับผักที่นำมาฝากนี้ ไม่ว่าจะสุกหรือสดก็กินอร่อยแถมยังป้องกันสโตรกได้
ฌอง คาร์เปอร์ได้เล่าถึงการศึกษาของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่พบว่ากินแครอทครั้งละหนึ่งหัวครึ่งเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจได้40 เปอร์เซ็นต์ช่วยลดความเสี่ยงการป่วยเป็นหลอดเลือดสมองลง 2 ใน 3 เมื่อเทียบกับการกินเดือนละครั้งหรือน้อยกว่านั้น
พระเอกคือเบต้าแคโรทีนที่ช่วยเข้าไปยับยั้งคอเลสเตอรอลไม่ให้กลายเป็นพิษหรือก่อตัวเป็นพลัคไปเกาะหลอดเลือดได้
นักวิจัยชาวเบลเยียมจากมหาวิทยาลัยบรัสเซลส์ที่นำเลือดของคนไข้80 คนมาวิเคราะห์หลังจากมีอาการของโรคหลอดเลือดสมองกำเริบภายใน 24 ชั่วโมง พบว่า ผู้ป่วยที่มีระดับเบต้าแคโรทีนสูงมีแนวโน้มว่าจะรอดชีวิตมากกว่า และความเสียหายที่เกิดกับระบบประสาทจะน้อยกว่า และอาการจะหายสนิทด้วย
ชอบกินขนมหวาน น้ำหวาน เค้ก ไอศกรีม เป็นชีวิตจิตใจ
ใครเห็นขนมหวาน น้ำหวาน เค้ก ชูครีม ช็อกโกแลต ไอศกรีม แล้วน้ำลายสอ ต้องซื้อมากินให้สมใจอยาก ต้องบอกว่าร้ายกว่าข้อไหนๆ เพราะนอกจากจะได้ไขมันทั้งไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ที่เป็นอันตรายต่อหลอดเลือดสุดๆแล้ว ยังได้น้ำตาลที่ทำให้เส้นเลือดเปราะหรืออาจลามไปไกลถึงเป็นเบาหวานซึ่งเป็นปัจจัยก่อสโตรกตัวเอ้
รู้อย่างนี้แล้ว เปลี่ยนมากินผักผลไม้ตามคำแนะนำของฌอง คาร์เปอร์กันดีกว่า
เขาแนะนำผักผลไม้หลากหลายชนิดที่มีคุณอนันต์ในการป้องกันสโตรกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้ที่อุดมด้วยโพแทสเซียม หากกินทุกวันจะช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองได้ 40 เปอร์เซ็นต์
ผักผลไม้แต่ละชนิดต่อไปนี้จะช่วยเพิ่มโพแทสเซียมให้คุณผู้อ่านอีกวันละ 400 มิลลิกรัม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองลงได้40 เปอร์เซ็นต์ เลือกได้ตามใจชอบค่ะ
ผักโขมปรุงสุก 1/2 ถ้วย
น้ำเอนไซม์มะเขือเทศหรือน้ำส้ม 1 ถ้วย
น้ำส้มคั้นสด 1 ถ้วย
แคนตาลูป 1/4 ลูก
มันเทศปรุงสุก 1/2 ถ้วย
กล้วยหอม 1 ผล
ไม่รู้จะกินอะไร ไปฟาสต์ฟู้ด
ชีวิตเร่งรีบในแต่วันทำให้หลายคนฝากท้องไว้กับอาหารฟาสต์ฟู้ดใกล้ที่ทำงาน เพราะเร็ว ถูกปาก แต่ไม่อยากจะบอกเลยค่ะว่า อาหารที่นำมาปรุงให้เรากินกันนั้นเกือบทุกอย่างเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมาแล้วหลายขั้นตอน ซึ่งแต่ละขั้นตอนมักใช้เกลือปริมาณมากมายมหาศาล
เชื่อหรือไม่คะว่า การศึกษาของ National Heart, Lung and Blood Institute ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ถ้าคนอเมริกันกินเกลือวันละน้อยกว่าหนึ่งช้อนชา ผลรวมความดันโลหิตของชาวอเมริกันจะลดลงจนสามารถลดจำนวนผู้ป่วยสโตรกทั้งประเทศลงได้ถึง 11 เปอร์เซ็นต์
นายแพทย์หลุยส์ โทเบียน จูเนียร์ ผู้เชี่ยวชาญโรคความดันโลหิตสูง จากมหาวิทยาลัยมินนิโซตา ได้อธิบายเรื่องเล็กๆ อย่างการกินเกลือที่กลายเป็นเรื่องใหญ่ว่า เพราะการบริโภคเกลือไม่ว่าจะเป็นทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัว มีผลต่อการโน้มน้าวให้เกิดการขาดเลือดแบบชั่วคราว (mini stroke) และยังทำลายเนื้อเยื่อสมอง
ฌอง คาร์เปอร์จึงแนะนำว่า เราสามารถลดการกินเกลือลงได้ โดยกินอาหารธรรมชาติที่ปรุงสดๆ ไม่ปรุงรสจัดหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูป
จบเรื่องอาหารการกิน วิถีชีวิตที่ต้องปรับอย่างเร่งด่วนอีกอย่างหนึ่งคือ การขาดการออกกำลังกายและกิจกรรมที่ช่วยให้ได้ออกแรงเสียบ้าง จะช้าอยู่ไย ไปออกกำลังกายกันต่อค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
กินน้ำมัน ดาวอินคา ป้องกันโรคหลอดเลือด
กินคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหลอดเลือด
วิธีป้องกัน โรคหลอดเลือดแดงตีบแข็ง
พูดหลายภาษา รักษา โรคหลอดเลือดสมอง