ไทสัน ฟิวรี (Tyson Fury) เตรียมบริจาคเงิน 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 333 ล้านบาท) จากการชกกับ ดิออนเทย์ ไวเดอร์ แชมป์โลก WBC รุ่นเฮฟวี่เวท เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาในลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้งคู่เสมอกันด้วยคะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ นั่นหมายความว่าไทสันชิงเข็มขัดแชมป์ WBC จากดิออนเทย์ไม่สำเร็จ
ก่อนวันชกจริง ไทสันเคยประกาศมาก่อนแล้วว่า เขาจะได้ค่าตัวเป็นเลขเจ็ดหลักจากไฟท์นี้ และจะบริจาคเงินทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ให้กับผู้ยากไร้ และเขากำลังมีแผนจะสร้างบ้านให้คนเร่ร่อนอีกด้วย
นอกจากนั้นนักชกเจ้าของฉายา Gypsy King ยังบอกอีกว่า ตัวเขาเองไม่ได้ใช้เงินมากมายอะไรนัก เขาไม่เคยสนใจที่จะเป็นเศรษฐีร้อยล้านหรือมหาเศรษฐีพันล้าน เขาเป็นนักมวยไม่ใช่นักธุรกิจ และเขาก็น่าจะเดินบนเส้นทางเดียวกับนักชกอื่น ๆ คือ อยู่แบบพอมีพอกินไปจนบั้นปลายชีวิต ตายไปก็เอาเงินติดตัวไปด้วยไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงคิดจะนำเงินไปทำสิ่งดี ๆ โดยการช่วยเหลือคนที่ช่วยตัวเองไม่ได้
ด้วยความที่ไทสันต้องต่อสู้กับปัญหาทางสุขภาพจิตควบคู่ไปกับการดื่มหนักและใช้ยาเสพติด เขาจึงมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือคนที่อ่อนแอ และมีชีวิตอยู่อย่างไร้คนเหลียวแลเพราะความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ไทสันยังบอกอีกว่า เมื่อเขากลับบ้านที่อังกฤษ เขาจะสร้างบ้านพักให้คนเร่ร่อนสัก 2 – 3 แห่ง และตั้งกองทุนสำหรับผู้ติดสุราและสารเสพติด
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เขาทำมาตลอด จนกระทั่งเขามาชกที่แอลเอ ก็ยิ่งช่วยให้เกิดความมุ่งมั่นมากขึ้น และเขาจะทำมันต่อไปให้มากกว่าเดิม ที่นี่ช่วยเปิดโลกให้เขาได้มองสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น และเขาจะจากไปในฐานะคนที่ดีกว่าเดิม
ไทสันระบายความรู้สึกต่อไปว่า ที่นี่มีคนเร่ร่อนระเกะระกะอยู่ตามถนนมากมาย มากกว่าที่เขาเคยเห็นมาในชีวิต เขาพักอยู่ที่ย่านดาวน์ทาวน์ในแอลเอ ซึ่งถ้าเดินไปตามถนนสัก 5 นาทีก็จะพบคนไร้บ้านมากมายอาจจะเป็นพันคนเลยก็ได้
เขาให้ความเห็นในฐานะคนนอกว่า สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทั่วโลก แม้แต่ในอังกฤษบ้านของเขาก็เช่นกัน
ไทสัน อดีตแชมป์โลกหลายสถาบันผู้ไม่เคยแพ้ใคร ปัจจุบันอายุ 30 ปี แต่งงานมีลูกแล้วสี่คน และภรรยากำลังอุ้มท้องคนที่ห้า เขาให้เหตุผลที่นำเงินมาบริจาคทั้งหมดโดยที่ไม่ได้ให้ครอบครัวที่เขารักว่า เขาเชื่อว่าลูก ๆ ควรหาเงินด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง จะได้ภูมิใจในตัวเอง และจะได้ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เพราะเงินที่เขาหามาได้จากการชกมวยคือเงินที่ได้จากเลือดโดยแท้ การใช้เงินของคนอื่น…เป็นเรื่องง่าย ถ้าเป็นเงินที่ได้จากการทำงานหนักด้วยตัวเอง ลูก ๆ จะได้รู้สึกเสียดายและมองเห็นคุณค่า
ลูก ๆ ของเขาจะต้องสร้างทางชีวิตด้วยตัวเอง โดยไม่อาศัยชื่อเสียงของพ่อเป็นใบเบิกทาง ดูจากตัวอย่างลูกคนรวยมากมายที่ไม่ทำอะไรเลยเพราะพ่อแม่ปรนเปรอให้ทุกอย่าง ต้องการอะไรก็ได้มาอย่างง่ายดาย
ไทสันย้ำว่าตัวเขาเองก็ทำงานมาตั้งแต่เด็ก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาอยากได้เขาต้องทำงานเพื่อแลกมันมา
ย้อนไปในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 ไทสันเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้ชกมวยเพื่อเงิน เขาชกเพราะรักกีฬามวย แถมยังสารภาพว่า เขาเป็นคนจน เงินในแบงค์ก็มีนิดเดียว หนำซ้ำยังรับเงินสงเคราะห์สำหรับผู้ว่างงานอีกด้วย เขาก็แค่ลูกจ้างรับงานเป็นครั้งคราว เขาไม่ได้เงินจากการชกมวยเลย ฟังแล้วก็ไม่ต้องสงสารเขา เพราะเขาไม่ได้รู้สึกแย่หรือว่าลำบากอะไร
ค่าตัวที่ได้จากการชกมวย เขาจะแบ่งครึ่งหนึ่งให้ทีมงาน อีกครึ่งหนึ่งบริจาคให้การกุศลหรือให้กับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะเขาคิดว่า คนเราไม่ควรหาเงินจากการชกหน้าผู้อื่น “ผมชกเพราะรักการชก” และเขาจะชกมวยต่อไปจนถึงอายุ 50 หรือจนกว่าจะชกไม่ไหวอีกต่อไป
ไทสันช่วยเหลือคนมากมายด้วยเงินที่ได้จากการชกมวย เขาสร้างบ้านพัก ช่วยคนเร่ร่อนไม่ต้องนอนข้างถนนอีกต่อไป เขาบริจาคเงินเข้ามูลนิธิช่วยเหลือเด็ก ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพราะ “ตายไปคุณก็นำเงินติดตัวไปไม่ได้”
เรียบเรียง ชนาฉัตร
ภาพ The Independent, mirror.co.uk, The Telegraph