เทคนิคจัดการความเครียด เพิ่มพลังบวก รับปีใหม่อย่างสดใสด้วยหลัก 4R

เทคนิคจัดการความเครียด เพิ่มพลังบวก รับปีใหม่อย่างสดใสด้วยหลัก 4R

เทคนิคจัดการความเครียด เพิ่มพลังบวก

รับปีใหม่อย่างสดใสด้วยหลัก 4R

ปีเก่าผ่านไปแล้ว หากนึกย้อนดู ตลอดปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะใคร ก็ต้องเคยพบกับความเครียดอย่างหนัก ทั้งจากหน้าที่การงาน การเงิน ความสัมพันธ์ การใช้ชีวิตต่างๆ  โดยความเครียดเหล่านี้  กดดันให้เราตกอยู่ในความวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว และทำให้รู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ ส่งผลให้เกิดความคิดแย่ๆ ที่กลายเป็นพลังลบฉุดชีวิตเราให้แย่ลง  และความเครียดไม่ได้ทำร้ายแค่ตัวของคนเครียดเท่านั้น แต่ยังเผื่อแผ่ไปถึงคนรอบข้างได้อีกด้วย แบบนี้คงไม่ดีแน่

เมื่อปีใหม่มาถึง เราจึงอยากชวนทุกคนมา สร้างภูมิคุ้มกันให้จิตใจแข็งแกร่ง เปี่ยมด้วยพลังบวก ให้ทุกๆ คนพร้อมก้าวผ่านเข้าสู่ปีใหม่ เริ่มต้นสิ่งดีๆ แบบง่ายๆ ด้วย เทคนิคจัดการความเครียด 4R

 

เช็คอาการเครียด

  • รู้สึกเพลียๆ ไม่มีเรี่ยวแรงตลอด
  • นอนไม่ค่อยหลับหรือรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา
  • น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างผิดสังเกต
  • อารมณ์และความรู้สึกขึ้นลงเร็ว หงุดหงิดง่าย
  • ไม่อยากพบปะพูดคุยกับใคร อยากอยู่คนเดียว เก็บตัว
  • ไม่มีสมาธิ หรือความสามารถในการคิด การจดจ่อหรือการตัดสินใจในการทำงานลดลง

 

 

เทคนิคจัดการความเครียด 4R

เมื่อพบว่าเริ่มมีอาการเหล่านี้ หากปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย และส่งผลต่อสภาพจิตใจได้ในระยะยาว ลองใช้เทคนิค 4R ง่ายๆ ในการประเมินและรับมือกับความรู้สึกเครียดที่เกิดขึ้น  มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

 

  1. Recognize (ตระหนักรับรู้)

เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังเครียดกับแรงกดดันสูง ให้ลองหยุดพัก ดื่มน้ำเย็นๆ เติมความสดชื่น สูดหายใจให้เต็มปอด มองไปรอบๆ เพื่อพักสายตาหรือลองงีบหลับสัก 15-30 นาที ก็ช่วยได้ ถ้ารู้ว่ากำลังจะทำงานไม่เสร็จตามเวลา ให้จัดลำดับความสำคัญของกำหนดส่งงานอย่างเหมาะสม งานไหนต้องเร่งรีบให้ทำก่อน งานไหนไม่เร่งด่วน ให้ยืดกำหนดเวลาเสร็จออกไป และสุดท้าย ต้องเตือนตนเองเสมอให้มีสติ อยู่กับปัจจุบัน อย่าเพิ่งนึกถึงอดีต และไม่กังวลกับอนาคตจนเกินไป เพื่อให้รับมือกับสถานการณ์
ได้ดียิ่งขึ้น

  1. Release (ระบาย)

เมื่อเกิดความเครียด ลองหายใจเข้าลึกๆ นับ 1-4 และหายใจออกยาว ๆ อย่างช้า ๆ โดยนับ 1-8 รวมทั้งลองเปิดใจพูดคุยกับคนใกล้ชิดที่คุณไว้วางใจ หรือเขียนระบายความรู้สึกออกมา จะช่วยให้ใจเย็นและรับมือได้อย่างมีสติ

  1. Refresh (ปรับเปลี่ยนตนเองให้คิดบวกและสดใส)

เรามักเป็นทุกข์เมื่อเกิดปัญหา แต่หากปรับมุมมอง ลองมองปัญหาให้เป็นเรื่องท้าทาย และค้นหาสิ่งดีๆ ท่ามกลางปัญหา ก็สามารถเปลี่ยนปัญหาให้เป็นโอกาสได้ หากมีเวลาให้ลองมองสิ่งรอบตัว ชื่นชมดอกไม้ กลิ่นดิน แสงแดด ฝน ต้นไม้ ตลอดจนสิ่งดีๆ เล็กๆ น้อยๆ เช่น เล่นกับสัตว์เลี้ยง หรือฟังเพลงโปรด ออกกำลังกาย เพิ่มความกระฉับกระเฉง หรือออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้าง

  1. Reset (เริ่มตั้งความคาดหวังและแนวทางใหม่)

เมื่อรู้สึกสับสน ชีวิตยุ่งเหยิงนัก ให้หันกลับมาทบทวนเป้าหมาย และแนวทางในชีวิตอีกครั้ง บันทึกเป้าหมายที่เราต้องการลงในสมุดให้เห็นภาพชัดเจน พร้อมให้กำลังใจตนเองด้วยประโยคดีๆ เช่น “ไม่เป็นไร เอาใหม่ เราทำได้” หรือ “แล้วทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี” เพื่อสร้างพลังบวกให้เราต่อสู้กับอุปสรรค และพร้อมรับปีใหม่อย่างเข้มแข็ง

 

นอกจากนี้ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ร่างกายเผชิญความเครียดได้ดีกว่า โดยเฉพาะเวลาเครียดร่างกายจะมีการผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้น

 

การทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสามารถช่วยได้ เช่น ส้ม ฝรั่ง กีวี นอกจากรสชาติเปรี้ยวจะทำให้สดชื่นแล้วยังมีวิตามินซีสูง หรือเมล็ดทานตะวันและเมล็ดอัลมอนด์ มีวิตามินอีสูงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ

การทานผลไม้บางชนิดก็สามารถช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อได้ เช่น กล้วยหอม เพราะมีแร่ธาตุแมกนีเซียม และโพแทสเซียมที่สำคัญต่อการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้ดี

ที่ลืมไม่ได้คืออาหารเช้า เพราะอาหารเช้ามีส่วนสำคัญมากในการที่จะให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอในตอนเช้า เพื่อพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่ต้องเจอในแต่วันและทำให้เรารู้สึกสดชื่นมีพลังงานไปจนถึงช่วงบ่าย 

 

สิ่งสำคัญคือ ครอบครัว ถือเป็นกำลังใจสำคัญอย่างมากในการช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและความเครียดที่อาจเกิดขึ้นกับสมาชิกในบ้าน การสนับสนุนซึ่งกันและกันด้วยการให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ หรือชวนกันออกไปทำกิจกรรมง่ายๆ เช่น ทานข้าวร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตา ก็จะทำให้สามารถปรับอารมณ์และเติมเต็มความรู้สึกดีๆ ให้คลายความเครียดลงได้เป็นอย่างดี

 

 

คำแนะนำโดย คุณณัชชา แสงสวัสดิ์ นักโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด

 

 

บทความเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

 

 

 

 

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.