ถ้าจะไปให้ถึงความสำเร็จ ต้องมี ความมุ่งมั่น ไม่ใช่มีแรงจูงใจ

ถ้าจะไปให้ถึงความสำเร็จ ต้องมี ความมุ่งมั่น ไม่ใช่อาศัยแรงจูงใจ

แรงจูงใจไม่ได้เป็นผลดีต่อการชนะอุปสรรคในการพัฒนาตนเอง การมี ความมุ่งมั่น ต่างหากที่จะเป็นแรงผลักดันให้ไปสู่เป้าหมาย ทำไมถึงมองว่าแรงจูงใจไม่ดี ทั้งที่ใคร ๆ ก็พยายามหาแรงจูงใจเพื่อพาตัวเองไปถึงเป้าหมายกันทั้งนั้น ขอยกตัวอย่างว่าถ้าแคร์รอตสามารถรักษาโรคมะเร็งให้หายได้ แต่ก็ไม่ได้เห็นว่าจะมีคนหายจากโรคมะเร็จหลังจากกินแคร์รอต แครอตทำให้คุณมีความหวังที่จะหายจากโรคร้ายนี้ แต่ตามจริงแล้วมันไม่ได้ช่วย มันกลายเป็นความหลอกลวง แรงจูงใจก็ไม่ต่างจากเจ้าแคร์รอตจอมลวงโลกนี้เลย นั้นเรามาลองทำความเข้าใจเรื่องความมุ่งมั่นว่ามีผลดีต่อการประสบความสำเร็จอย่างไรกันดีกว่า

ก้าวแรกเล็ก ๆ ของการสร้างความมุ่งมั่น ทำให้แรงจูงใจชัดเจนขึ้น โดยไม่ต้องหวังพึ่งแรงจูงใจเพียงอย่างเดียว ถ้าคุณลงมือทำทันที แรงจูงใจก็จะตามมาเป็นแรงเสริม การลงมือทำเลยทันที (ซึ่งเป็นความมุ่งมั่น) ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้ดีกว่าแรงจูงใจ

ความมุ่งมั่นพึ่งพาได้

ความมุ่งมั่นพึ่งพาได้เป็นอย่างมาก หากคุณสามารถบังคับตัวเองให้ทำอะไรก็ได้ ความมุ่งมั่นนั่นย่อมไว้ใจได้ แต่คุณต้องบังคับตัวเองให้ลงมือทำได้จริง ๆ อย่างหนักแน่น ประโยชน์ที่ตามมาอีกสองข้อยิ่งตอกย้ำว่าความมุ่งมั่นช่วยเราได้จริง ๆ

ความมุ่งมั่นช่วยให้เรายิ่งแกร่งขึ้น

นักศึกษาคนหนึ่งใช้ความมุ่งมั่นเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นเวลานานถึง 2 สัปดาห์ คือการลดน้ำหนัก ผลออกมาว่าด้วยความมุ่งมั่นที่ทุ่มเทและมีวินัยช่วยให้น้ำหนักของนักศึกษาคนนี้ลดลง การกระทำของนักศึกษาแสดงให้เห็นว่า ความมุ่งมั่นทำให้เราปรับปรุงตัวเองได้

ความมุ่งมั่นทำให้เราเดินตามแผนที่วางไว้ได้

หากหวังพึ่งแรงจูงใจเพียงอย่างเดียว เชื่อเลยว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้จะไม่เป็นไปตามขั้นตอน หรือแผนที่วางไว้ การยึดแรงจูงใจในการทำให้เกิดความอยากทำขึ้นมา ทำให้ต้องรอคอยแรงจูงใจให้เกิด ไม่ต่างจากต้นไม้ที่แห้งแล้งที่รอคอยน้ำฝน ซึ่งกว่าจะมาต้องหมดฤดูแล้งเสียก่อน การรอแรงจูงใจเป็นอะไรที่คาดเดายาก ถ้าใช้ความมุ่งมั่น คุณสามารถกำหนดขั้นตอนและแผน ไม่ว่าในตอนนั้นคุณจะมีแรงจูงใจหรือไม่ก็ตาม แต่ความมุ่งมั่นจะทำให้เราสามารถคงเส้นคงวาทำกิจกรรมนั้นไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน

การสร้างความมุ่งมั่นสามารถทำให้เราเสถียรสิ่งที่อยากทำได้อย่างต่อเนื่อง เราสามารถวางแผนกำหนดเวลาได้เลย โดยไม่ต้องกลัวว่า ไม่มีแรงจูงใจจะเขียนต้นฉบับ ซึ่งทำให้เราเสียเวลาที่งานจะเดินไป หากมีความมุ่งมั่นแล้วเขียนงานอย่างต่อเนื่อง ภายในไม่ถึงสัปดาห์ ต้นฉบับของเราก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ที่มา : คิดให้เล็กลง แล้วลงมือทำซะ เขียนโดย สตีเฟน ไกส์ แปลโดย กัณฑ์อเนก จารุรักษา