สารพิษตกค้าง ผักและผลไม้ ประจำปี 2562
สารพิษตกค้าง ผักและผลไม้ ตกค้างเกินมาตรฐาน 41 เปอร์เซ็นต์ พบผักในห้างสรรพสินค้าแย่กว่าตลาดสด เเถมไทยเเพนยังตรวจพบสารพิษไม่อนุญาตให้ใช้ตกค้างอื้อ 12 ชนิด
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ไทยเเพนเปิดผลตรวจสารพิษตกค้างในผักผลไม้ ประจำปี 2562 นางสาวปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้แถลงผลการตรวจผักและผลไม้ประจำปี 2562 โดยร่วมมือกับองค์กรภาคีต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยงานราชการ เช่น เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ องค์กรผู้บริโภค และภาคประชาสังคม ในจังหวัดต่างๆ
โดยเก็บตัวอย่างทั้งหมด 286 ตัวอย่างจากห้างค้าปลีก ตลาดสดทั่วไปในกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่น ยโสธร สระแก้ว จันทบุรี ราชบุรี และสงขลา ครอบคลุมผัก 15 ชนิด และผลไม้ 9 ชนิดที่นิยมบริโภคทั่วไป โดยส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO-17025 ในประเทศสหราชอาณาจักร พบว่า ผักผลไม้มีสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานสูงถึง 41%
ผักที่พบสารพิษตกค้างเกินค่ามาตรฐานมากที่สุด
- ผักกวางตุ้ง
- คะน้า
- กระเพรา
- ผักชี
- พริก
- กะหล่ำดอก
- ผักชี
โดยพบ 10, 9,8,7,7,7 ตัวอย่างจาก 12 ตัวอย่างตามลำดับ
ผลไม้ที่พบการตกค้างมากที่สุด
- ส้ม
- ชมพู่
- ฝรั่ง
- องุ่น
โดยพบสารพิษตกค้างเกินมาตรฐาน 12,11,7,7 ตัวอย่างจากการสุ่มตรวจ 12 ตัวอย่างตามลำดับ และถ้าเปรียบเทียบระหว่างผักและผลไม้ที่ปลูกในประเทศกับผลไม้นำเข้าพบว่า ผลไม้นำเข้าพบการตกค้าง 33.3% แต่พบสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานสูงถึง 48.7% ที่ผลิตในประเทศ
ข้อมูลที่น่าสนใจคือเมื่อเปรียบเทียบผักผลไม้ที่ขายให้ห้างค้าปลีกซึ่งประชาชนต้องซื้อในราคาสูงกว่าผักผลไม้ในตลาดทั่วไปหลายเท่านั้น การเฝ้าระวังและตรวจวิเคราะห์ในปีนี้พบว่าผักผลไม้ในห้างค้าปลีกมีสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานมากกว่าตลาดสด โดยพบมากถึง 44% (พบ 52 ตัวอย่างจาก 118 ตัวอย่าง) ในขณะที่ในตลาดสดพบ 39% (66 จาก 168 ตัวอย่าง)
ข่าวดีสำหรับประชาชนทั่วไปคืออัตราการตกค้างของผักและผลไม้ในปี 2562 นั้นลดลงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับผลการเฝ้าระวังในปี 2560 ซึ่งไทยแพบพบการตกค้างเกินมาตรฐาน 46% และผักผลไม้ที่ได้ตรารับรองคุณภาพ GAP, GMP พบการตกค้างเหลือ 26% เท่านั้น ส่วนผักผลไม้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของรัฐ “Organic Thailand” ยังคงต้องปรับปรุง เพราะไทยแพนพบการตกค้างของสารพิษ 3 ตัวอย่างจาก 6 ตัวอย่าง ในขณะที่ตรารับรองเกษตรอินทรีย์อื่น เช่น USDA, EU, Bioagricert, มกท.(สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์) สุ่มไม่พบสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานเลย
ไทยแพนยังพบด้วยว่าสารพิษกำจัดศัตรูพืชที่ตกค้างมากที่สุด
- สารฆ่าเชื้อรา คาร์เบนดาซิม (carbendazim) ซึ่งไม่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ในสหรัฐอเมริกานานกว่าทศวรรษ เพราะมีผลต่อระบบสืบพันธุ์ แต่กลับพบการตกค้างในผักและผลไม้ถึง 57 ตัวอย่าง
- รองลงมาคือไซเปอร์เมทริน
- อิมิดาคลอร์ฟริด
- เอซอกซิสโตรบิน
- และคลอร์ไพริฟอส
ซึ่งเป็นสารพิษที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนการสมองของเด็ก พบ 54, 41, 39 และ 38 ตัวอย่างตามลำดับ
นอกเหนือจากนี้ยังพบสารพิษกำจัดศัตรูพืชที่ยกเลิกการใช้ไปแล้ว เช่น เมทามิโดฟอส ถึง 8 ตัวอย่าง พบสารพิษที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียน เช่น คาร์โบฟูราน 9 ตัวอย่าง เมโทมิล 10 ตัวอย่าง และสารซึ่งไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 มากถึง 9 ชนิด เช่น Boscalid, Ethirimol, Fenhexamid, Fluxapyroxad, Isopyrazam, Metrafenone, Proquinazid, Pyrimethanil, Quinoxyfen ซึ่งสาร 3 กลุ่มนี้ทั้งหมดล้วนผิดกฎหมายและเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ปล่อยให้มีการใช้ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ที่ปล่อยให้มีการตกค้าง
นางสาวปรกชลได้กล่าวถึงการดำเนินการต่อไปว่า ไทยแพนจะจัดเตรียมผลการตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวและประเด็นหารือไปเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ หลังจากมีการโปรดเกล้าแต่งตั้งแล้ว โดยจะเรียกร้องให้ทั้ง 2 กระทรวงเดินหน้ายุติการใช้สารพิษอันตรายร้ายแรง 3 ชนิด ได้แก่พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต โดยเร็วที่สุด และเสนอให้จัดการแก้ปัญหาสารพิษที่ตกค้างบ่อย และตรวจพบตกค้างเป็นอันดับต้นๆ เช่น สารคาร์เบนดาซิม รวมถึง แนวทางจัดการกับหน่วยราชการที่ปล่อยให้มีการจำหน่ายและใช้จนสามารถตรวจพบการตกค้าง
“ส่วนกรณีผักผลไม้ที่ขายในห้างค้าปลีก โดยเฉพาะส่วนที่พบว่ายังมีการใช้สารพิษร้ายแรงที่ประเทศไทยได้ห้ามใช้แล้ว ไทยแพนจะนำข้อมูลดังกล่าวไปมอบให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อให้มีการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดต่อไป” ผู้ประสานงานไทยแพนกล่าว
นางสาวพนมวรรณ คาดพันโน นักวิชาการสาธารณสุข ตัวแทนสมัชชาสุขภาพจังหวัดยโสธร ซึ่งเข้าร่วมวางแผนการเก็บตัวอย่าง และการตรวจวิเคราะห์ในครั้งนี้ยังได้แถลงเพิ่มเติมว่า
“ผลการตรวจวิเคราะห์ของไทยแพนในครั้งนี้เป็นการดำเนินการร่วมกันของหลายฝ่าย ภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมจะดำเนินการนำผลวิเคราะห์ไปหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดและผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าว เช่น การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ เปิดตลาดเขียวพื้นที่ และผลักดันให้เกิดธรรมนูญตำบล เพื่อจัดทำเขตปลอดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและยาฆ่าหญ้าเพื่อให้ผักและผลไม้ในพื้นที่ต่างๆปลอดจากสารพิษ และประชาชนมีสุขภาพที่ดีจากสิ่งแวดล้อมและอาหารที่ปลอดภัยมากขึ้น”
รู้แล้วต้องระมัดระวัง เพราะสารพิษตกค้าง ผักและผลไม้ หากกินมากเกินไปอาจส่งผลอันตรายต่อร่างกายในระยะยาวได้ ง่ายสุดก่อนซื้อผักผลไม้ควรล้างให้สะอาดก่อนทุกครั้ง
อ่านเพิ่มเติม ล้างผักผลไม้ให้ปลอดสารพิษ
6 วิธี ล้างผัก แบบนี้ปลอดภัยชัวร์
น้ำใบบัวบก ล้างผักสะอาดปลอดสารปนเปื้อน
กินผักสด VS ผักสุก อย่างไรดีต่อสุขภาพมากที่สุด
รวมวิธีเลือก ผักปลอดสารพิษ/ ผักไฮโดรโปนิกส์ /ผักออร์แกนิก ให้ปลอดภัยที่สุด
ผัก ไฮโดรโปนิกส์ สะอาดแน่ แค่ล้างด้วยวิธีนี้
อ้างอิง
เอกสารนำเสนอผลการตรวจสารพิษตกค้างในผักและผลไม้ประจำปี 2562
เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN)