ที่ผ่านมาเรามักไปอ่านเจอบทความ หรือหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา หรือแม้แต่ฟังนักพูดที่สร้างแรงบันดาลใจหลายๆ คน ที่ส่วนใหญ่มักจะบอกว่าอยากให้ทุกคน “รักตัวเอง” แต่เชื่อหรือไม่ว่าจิตใจของตัวเราเองนี่แหละมันแปลก เราไม่สามารถที่จะสั่งการปุ๊บปั๊บ เหมือนการกดสวิตซ์ไฟแล้วให้การรักตัวเอง เกิดขึ้นได้ทันทีแบบนั้นได้เลย ทั้งๆ ที่เรารู้กันดีว่าการรักตัวเองเป็นเรื่องที่ดีและสมควรทำ แต่บางครั้งเราก็ “เผลอ” คิดลบ เผลอมองโลกในแง่ร้าย หรือเผลอตำหนิติเตียนตัวเอง ลงไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เราไม่รักตัวเองแบบที่ควรจะเป็น
ข้อสงสัยที่ว่า เราอยากรักตัวเอง แต่ทำไมบางครั้งเราถึงไม่รู้สึกรักตัวเองเลยนะ? นั่นเพราะเรามีอาการ “เผลอ” ต่างๆ ที่เข้ามาแทรกความรู้สึกของเรานั่นเองค่ะ เมื่อเราเผลอคิดแบบนั้นลงไปความคิดลบๆ ก็จะหลั่งไหลเข้ามาในใจในความคิดของเรา ทำให้เราไม่รักตัวเอง เรามาลองสังเกตดูกันค่ะว่า อาการ “เผลอ” ที่ว่าเรามีอยู่หรือเปล่า ถ้ามีก็เลิกเผลอได้แล้วค่ะ หันมารักตัวเองดีกว่า
“เผลอ” ไม่มั่นใจในตัวเอง
เมื่อลองเงี่ยหูฟังดีๆ บางครั้งเราอาจได้ยินเสียงเล็กๆ ในหัวกระซิบมาว่า “เราดีพอแล้วหรอ” “เราคู่ควรกับสิ่งนี้แล้วหรอ” “เราไม่น่าทำสิ่งนั้นได้แน่ๆ” หรือ “เราเนี่ยนะ” นั่นคือเสียงกระซิบของความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง หากเราเงี่ยหูฟังเสียงกระซิบนี้บ่อยๆ เข้าทุกวัน ก็จะทำให้เราเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง จนกลายเป็นความรู้สึกไม่กล้าที่จะมีความสุขได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ยกตัวอย่าง ถ้าเรามีความรัก แทนที่จะมีความสุขกับชีวิตคู่อย่างเต็มที่ คนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองก็มักจะมีคำถามขึ้นมาบ่อยๆ ว่า แฟนเราเป็นคนดีมาก เป็นคนจริงใจมาก เราคู่ควรกับคนดีๆ แบบนี้จริงหรือ?
หรือหากเป็นด้านการงานก็จะเกิดความรู้สึกว่า งานเราดีแล้วหรือ? สิ่งที่เราทำคนอื่นจะชอบไหม? เขาจะคิดยังไงกับเรา หรือบางคนก็อาจจะรู้สึกว่า เราคู่ควรกับตำแหน่งผู้จัดการแล้วหรือ? เมื่อได้เลื่อนตำแหน่งก็จะเกิดความรู้สึกหวาดกลัว ไม่กล้าใช้ตำแหน่งหรืออำนาจบริหารจัดการงานอย่างที่ตัวเองเคยวาดฝันเอาไว้ รู้สึกไม่เป็นอิสระ กลัวคนอื่นจะคิด จะวิจารณ์ตัวเองไปต่างๆ นานา เจ้าความคิดลบๆ ความเผลอไม่มั่นใจตัวเองเหล่านี้แหละค่ะ ที่ทำให้คุณเริ่มไม่รักตัวเอง
“เผลอ” เปรียบเทียบ
ใครเคยเกิดความรู้สึกเหงาในช่วงวันหยุดบ้างคะ ทั้งๆ ที่เราก็อยู่บ้านแบบสบายๆ ได้พักผ่อนนอนอยู่บ้านมีความสุขดี แต่พอหยิบมือถือขึ้นมาดู เปิดเข้าไปในโลกโซเชียลทั้ง Facebook หรือ IG แล้วเห็นภาพเพื่อนฝูงที่กำลังสังสรรค์ เฮฮาปาร์ตี้ หรือถ่ายรูปไปท่องเที่ยวในที่สวยๆ แล้วเราก็รู้สึกเอามาเปรียบเทียบกับตัวเองที่เป็นอยู่ และเมื่อเริ่มเอามาเปรียบเทียบก็นำมาซึ่งความรู้สึกลบหรือด้อยกว่าขึ้นในใจ โดยที่เราเองอาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเราเผลอเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นไปแล้ว
บางครั้งเราอาจเผลอมองชีวิตคนอื่นและเปรียบเทียบกับตัวเอง เช่น เพื่อนคนนั้นมีบ้านที่ใหญ่กว่า เพื่อนคนนั้นมีการงานและเงินเดือนที่เยอะกว่า จนเราลืมมองไปว่าเรามีอะไรอยู่บ้าง และสิ่งที่มีมันดีและวิเศษแค่ไหน นอกจากนี้บางคนอาจเผลอเปรียบเทียบไปถึงขั้นเอาเป้าหมายชีวิตของตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เช่น เคยฝันที่จะมีธุรกิจแบบรวยถึง 100 ล้าน เมื่อเห็นเพื่อนในวัยเดียวกันทำธุรกิจประสบความสำเร็จไปแล้ว ขณะที่ตัวเองยังเป็นพนักงานบริษัท หรือบางคนเห็นว่าคนอื่นรอบๆ ตัวมีแฟนหรือคนรักกันหมด แต่ตัวเองยังไม่มีใคร ก็จะเกิดความรู้สึกไม่ดี และไม่รู้สึกภูมิใจจนถึงขั้นไม่รักตัวเอง
“เผลอ” ลงโทษตัวเอง
อาการของคนที่ชอบโทษตัวเองมักจะเกิดคู่กันหรือพัฒนามาจากการจ้องมองหาแต่ข้อเสียของตัวเองนั่นล่ะค่ะ เพราะเสียงในหัวมักกระซิบบอกตัวเราเองว่า “ทำไมเราถึงทำไม่ได้ล่ะ” และรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่อง ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เรื่องนี้ก็เช่น ถ้าเราเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลแล้วฝันอยากจะชู๊ตลูกบาสฯ ให้เก่งแบบนักบาส NBA มืออาชีพ จึงพยายามหักชู๊ตลูกบาสเกตบอลลงห่วงวันละ 1,000 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะชู๊ตไม่ลง เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะเราอาจรู้สึกว่าตัวเองเป็นนักบาสที่แย่ ไม่ได้เรื่อง เกลียดตัวเอง ที่ทำไม่ได้ และไม่อยากแม้แต่จะกลับไปจับลูกบาสเกตบอลอีกเลย
“เผลอ” กลัวคนอื่นไม่รัก
คนที่มักเห็นคนอื่นสำคัญก่อนตัวเอง จะทำอะไรก็ตามใจคนอื่น ไม่แสดงความเห็นของตัวเอง เช่น เพื่อนๆ บอกว่าอยากกินอาหารเกาหลี ตัวเองก็ยอมตามใจไปทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองกินกระเทียมกับกิมจิไม่ได้ หรือไม่รู้สึกอยากกินอาหารเกาหลีเลย หากมองเผินๆ ก็ดูเหมือนเป็นคนรักเพื่อน เป็นคนง่ายๆ หรือเป็นคนที่คิดถึงคนอื่น แต่หากเก็บความรู้สึกตัวเอง หรือซ่อนความรู้สึกของตัวเองมากเกินไป สุดท้ายอาจกลายเป็นไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่กล้าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง ความรู้สึกนี้เกิดจากความรู้สึกที่ว่ากลัวว่าตัวเองแสดงความรู้สึกออกไปแล้วอาจไม่ถูกใจคนอื่น กลัวคนอื่นไม่รักจึงต้องเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปจึงกลายเป็นคนที่เย็นชากับความต้องการของตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร คนที่ตามใจคนอื่นทุกอย่าง ไม่กล้าขัดใจใคร ใครบอกให้ทำอะไรก็ทำตาม เชื่อเถอะค่ะว่าไม่มีความสุขนักหรอก