ผัก..ผลไม้สีเขียวที่นิยมนำมาทำสมูทตี้ มีอะไรบ้างนะ?
ผักปวยเล้ง (Spinach)
ได้ชื่อว่าเป็น “ราชาผักใบเขียว” ซึ่งมีทั้งเบต้าแคโรทีน วิตามิน ธาตุเหล็ก และโฟเลตสูง
ฤดูกาลเพาะปลูก : พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
วิธีเลือก : ใบสีเข้ม หนากรอบ ก้านอวบเขียว
ผักโคมัตสึนะ (Japanese Mustard Spinach)
มีแคลเซียมสูงกว่าผักปวยเล้งสามเท่า มีฤทธิ์ช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุน อีกทั้งยังอุดมด้วยวิตามินซีและแร่ธาตุหลายชนิด ที่ช่วยขับเกลือออกจากร่างกาย
ฤดูกาลเพาะปลูก : พฤศจิกายน – มีนาคม
วิธีเลือก : ใบสีเข้ม หนากรอบ ไม่มีรอยฉีกขาด
กะหล่ำปลี (Cabbage)
มีวิตามินสูงมาก หากรับประทานกะหล่ำปลีเพียง 2 ใบ ก็ให้วิตามินซีได้สูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของร่างกายที่ต้องการใน 1 วัน นอกจากนี้ยังมีวิตามินยู (Vitamin U) หรือเอส – เมทิลเมไธโอนีน (S-methymethionine) ซึ่งพบมากในพืชตระกูลกะหล่ำ มีฤทธิ์ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร และอาการเมาค้าง
ฤดูกาลเพาะปลูก : ปลูกได้ตลอดทั้งปี
วิธีเลือก : ใบกรอบอวบน้ำ สีเขียวสด หากซื้อแบบตัดแบ่งแล้ว ให้เลือกชิ้นที่มีแกนติดอยู่ ⅔ ของหัว
โหระพา (Basil)
ผักชนิดนี้อุดมด้วยเบต้าแคโรทีนที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน วิตามินอีช่วยชะลอการเสื่อมถอยของเซลล์ รวมถึงแร่ธาตุที่ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง กลิ่นหอมจากโหระพายังช่วยคลายอาการเวียนศีรษะ หน้ามือ และกระตุ้นความรู้สึกอยากอาหารด้วย
ฤดูกาลเพาะปลูก : เป็นผักสวนครัวที่ปลูกได้ตลอดทั้งปี
วิธีเลือก : ใบสีเขียวเข้ม สด และมีกลิ่นหอมชัดเจน
เซเลอรี่ (Celery)
กลิ่นเฉพาะตัวของผักชนิดนี้มีฤทธิ์ช่วยให้อารมณ์สงบ ไม่หงุดหงิดฉุนเฉียว ส่วนก้านและใบมีสารช่วยขับปัสสาวะ ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
ฤดูกาลเพาะปลูก : ตลอดทั้งปี
วิธีเลือก : ก้านอวบอ้วน ใบมีรอยหยักขนาดใหญ่ และม้วนเข้าด้านใน
พาสลีย์ (Parsley)
มีทั้งวิตามิมนซี เบต้าแคโรทีนวิตามินบี ธาตุเหล็ก และแคลเซียม อีกทั้งมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ จึงเหมาะสำหรับใช้ตกแต่งสร้างสีสันให้กับสมูทตี้
ฤดูกาลเพาะปลูก : ช่วงฤดูหนาวหรือทุกฤดูในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นประมาณ 18 – 25 องศาเซลเซียส
วิธีเลือก : ใบสีเขียวเข้ม มีรอยหยักเล็ก ๆ ปลายใบงุ้มเข้าด้านใน หากใบมีสีเหลืองหรือมีดอกบานแสดงว่าแก่แล้ว ไม่ควรใช้
กีวี (Kiwi)
เป็นผลไม้ทีวิตามินสูงมากกว่าส้มถึง 2 เท่า จึงช่วยให้ผิวสวยและป้องกันไข้หวัด นอกจากนี้ ยังมีเอนไซม์ที่กระตุ้นให้โปรตีนจากเนื้อสัตว์และเนื้อปลาแตกตัว จึงช่วยลดอาการจุกเสียด เนื่องจากอาหารไม่ย่อย
ฤดูกาลเพาะปลูก : ในเมืองไทยไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ
วิธีเลือก : ผลเป็นทรางกลมรีและมีขนอ่อน ๆ ทั่วเปลือก ถ้าต้องการดูว่าสุกหรือยังให้กดที่ขั้วหรือก้น หากมีรอยบุ๋มเล็กน้อยและรู้สึกแข็งนิด ๆ แสดงว่ากำลังสุกดี
อะโวคาโด (Avocado)
เป็นพืชที่ได้รับการขนานนามให้เป็น “เนยแห่งพงไพร” เพราะมีความหอมมันคล้ายเนย แต่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว จึงไม่ก่อให้เกิดคอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดหลอดเลือดตีบ และโรคหัวใจ
ฤดูกาลเพาะปลูก : ตลอดทั้งปี
วิธีเลือก : เปลือกและขั้วควรเชื่อมติดกันสนิท ถ้าผลมีสีดำ บีบแล้วแข็งเล็กน้อย แสดงว่าสุกดีแล้ว หากผิวมีรอยเหี่ยวหรือกดแล้วขั้วจมแสดงว่าสุกงอมเกินไป
ACuisine #เอควิซีน #CherryKitCook #Recipes
อยากกิน อยากฟิน อยากทำ อย่าลืมติดตาม A Cuisine (เอควิซีน)
📌Website: https://cheewajit.com/healthy-food
📌Messenger : http://m.me/AcuisineTH
📌Instagram : www.instagram.com/acuisine.th/
📌Pinterest : www.pinterest.com/AcuisineTH/