กิยไขมัน

กินไขมัน ให้ฉลาด หุ่นดี ไม่ทำร้ายสุขภาพ

เทคนิค กินไขมัน ให้สุขภาพดี

หลังๆ มานี้ ไขมันที่เคยถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายมาโดยตลอด กลายมาเป็นพระเอกในแวดวงอาหารสุขภาพ ด้วยงานวิจัยและข้อมูลสุขภาพที่อัพเดทมากขึ้น ทำให้เราได้รู้ว่า ไขมัน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยการดูแลสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์สายสุขภาพยุคใหม่ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธี กินไขมัน ที่ดีกับสุขภาพ กินยังไงไม่ให้อ้วน และที่สำคัญคือ กินยังไงไม่ให้ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด

ว่าด้วยไขมัน

“ไขมัน” เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ต้องได้รับในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับโทษ มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน เกิดโรคอ้วน หรือ มีปัญหาเรื่องไขมันอุดตันในหลอดเลือด และไม่เพียงแต่ปริมาณไขมันที่ได้รับเท่านั้นที่ส่งผลต่อร่างกาย เพราะชนิดของไขมันก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเลือกรับประทานไขมันชนิดที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้ร่างกายห่างไกลจากโรคต่าง ๆ ได้

กิยไขมัน

ชนิดของไขมัน

ชนิดของไขมัน แบ่งออกเป็น

  • คอเลสเตอรอล อยู่ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์ของสัตว์ เช่น นม เนย
  • ไตรกลีเซอไรด์ เป็นไขมันหลักที่เรารับประทานจากอาหาร แบ่งเป็น
    • ไขมันอิ่มตัว อาทิ ไขมันจากสัตว์ ไขมันจากนม เนย ชีส และจากพืชบางชนิด เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิเป็นต้น
    • ไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งนับได้ว่าเป็นไขมันดี ที่มีประโยชน์กับร่างกายของเรา
      • ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว คือไขมันที่ภายในโมเลกุลมีพันธะคู่อยู่ตำแหน่งเดียว พบได้ในน้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดชา
      • ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน คือไขมันที่ภายในโมเลกุลมีพันธะคู่อยู่หลายตำแหน่ง พบได้ในน้ำมันพืชทั่วไป เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันงา เป็นต้น

โดยทั่วไปในน้ำมันหนึ่งชนิด จะประกอบไปด้วยกรดไขมันหลายชนิดรวมกันแต่เรามักเรียกชนิดของไขมันตามองค์ประกอบหลักของไขมันนั้น

ประโยชน์ของไขมัน

แม้ว่าไขมัน ส่วนใหญ่จะคิดถึงแต่โทษที่ก่อโรคร้ายมากมายไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ความดันโลหิตสูง รวมถึงทำให้เส้นเลือดเสื่อมสภาพ นำไปสู่โรคอื่นๆ อีกมายมาก หรือแม้กระทั่งการไปสะสมที่ตับ จนเกิดเป็นไขมันเกาะตับ แต่ถึงอย่างนั้น ไขมัน ก็เป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้ด้วยเช่นกัน เพราะประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  • ให้พลังงานกับร่างกาย
  • ช่วยในการดูดซึมวิตามิน A D E K
  • ช่วยในการสร้างฮอร์โมนบางชนิด
  • ช่วยในการทำงานของสมอง
  • ช่วยในระบบเผาผลาญ (หากเลือกกินไขมันที่ถูกวิธี)

โทษของไขมัน

  • หากกินในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้เกิดน้ำหนักเกิน หรือ เกิดโรคอ้วนได้
  • ทำให้เกิดโรคบางอย่าง อาทิ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคอื่นๆ อีกมากมาย
  • ทำให้เกิดความเสื่อมของร่างกาย

ประเภทไขมันดี ที่ร่างกายต้องการ

ไขมันที่ร่างกายต้องการ คือไขมันดี หรือไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งตัวที่สำคัญคือ

  • โอเมก้า 3 เป็นไขมันที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท หัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ยังลดอาการติดเชื้อในร่างกาย พบได้มากในปลาทะเล ถั่ว และธัญพืช
  • โอเมก้า 6 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดความเสี่ยงของการที่เซลล์จะเสื่อม จึงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง การเกิดริ้วรอย แก่ก่อนวัย อีกทั้งยังลดอาการแทรกซ้อนของผู้ป่วยโรคเบาวหวาน ไม่ว่าจะเป็นอาการชาตามปลายมือ และปลายเท้า รวมถึงอาการผิดปกติในวัยทองอีกทอง โอเมก้า 6 พบได้มากใน ธัญพืช น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกคำฝอย

นอกจากในโอเมก้า 3 และ 6 แล้ว ไขมันดี ยังพบได้ในน้ำมัน น้ำมันคลีน (Clean Cuisine Oils)

น้ำมันมะกอกสกัดเย็น (Extra-Virgin Olive Oil)

น้ำมันมะกอกชนิดนี้ประกอบไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว สารแอนตี้ออกซิแดนท์ และฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยป้องกันคอเรสเตอรอลไม่ดีให้ออกจากหลอดเลือด เราไม่ควรทำให้น้ำมันชนิดนี้ร้อนจนเกินไป เพราะจะทำให้สารอาหารดีๆ หายหมด นอกจากนี้เรายังสามารถราดน้ำมันมะกอกชนิดนี้ลงบนผักที่จะนำไปย่างและอบเป็นการเพิ่มประโยชน์และรสชาติได้อีกด้วย

กิยไขมัน

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Extra-Virgin Coconut Oil)

เรามักใช้น้ำมันมะพร้าวชนิดนี้แทนเนยในการทำอาหารคลีน หรือนำไปใช้ในการอบอาหารต่างๆ ก็ได้ น้ำมันชนิดนี้จะไม่มีกลิ่นเมื่อน้ำไปใช้ปรุงอาหาร และสามารถทำให้อุณหภูมิสูงขนาดไหนก็ได้ โดยไม่เกิดการออคซิไดซ์ โดยปกติแล้วอาหารคลีนจะไม่มีการทอด แต่ถ้าหากจำเป็น เราจะเลือกน้ำมันมะพร้าวทอดอาหาร เพราะเป็นน้ำมันที่ทนความร้อนสูง

อย่างไรก็ตามน้ำมันมะพร้าวเป็นไขมันอิ่มตัว ดังนั้นเราจึงควรเลือกมาปรุงอาหารในระดับที่พอเหมาะเท่านั้น

น้ำมันถั่วแมคคาเดเมีย(Macadamia Nut Oil)

การที่น้ำมันชนิดนี้มีไขมันไม่อิ่มตัวในปริมาณมากที่สุดในบรรดาน้ำมันทั้งหมดเป็นสาเหตุทำให้น้ำมันถั่วแมคคาเดเมียเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง เรามักจะนำน้ำมันถั่วแมคคาเดเมียมาใช้คลุกเป็นน้ำสลัด คลุกกับถั่วและธัญพืชด้วยกลิ่มหอมแบบถั่วแมคคาเดเมีย นอกจากนี้น้ำมันถั่วแมคคาเดเมียยังมีจุดเกิดควันที่ความร้อนสูงประมาณ 425 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 218 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าน้ำมันมะกอก ทำให้น้ำมันชนิดนี้ลดอันตรายที่จะมีต่อหัวใจและสุขภาพของเราได้มาก

นอกจากน้ำมัน 3 ชนิดนี้แล้ว น้ำมันเมล็ดฝ้าย (Flax Oil) น้ำมันถั่ววอลนัต (Walnut Oil) น้ำมันเมล็ดกัญชา (Hemp Oil) และน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล (Truffle Oil) ก็ถือเป็นน้ำมันคลีนเช่นเดียวกัน โดย 4 ชนิดหลังนี้ เรามักจะใช้กับเมนูอาหารดิบ ใช้เป็นน้ำจิ้ม ใช้เป็นน้ำคลุกเมนูโปรด หรือใช้แต่งหน้าอาหาร

ใครสนใจดูแลสุขภาพแบบคลีน ก็ลองหาน้ำมันที่ให้ไขมันดีเหล่านี้มาคู่ครัวดู เพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นนะคะ

กินไขมัน ให้ที่ดีต่อร่างกาย

  • รับประทานไขมันในปริมาณที่พอดีกับความต้องการของร่างกาย
  • รับประทานไขมันธรรมชาติ โดยควรรับประทานไขมันไม่อิ่มตัวเป็นหลัก
  • ไขมันที่ดีที่สุดคือไขมันจากพืช ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในระยะยาว
  • ไขมันที่ควรหลีกเลี่ยงคือไขมันทรานส์ เพราะส่งผลเสียต่อร่างกายมากที่สุด

รู้จักกับไขมันทรานส์

ไขมันทรานส์ คือ การนำเอาไขมันไม่อิ่มตัวไปเติมไฮโดรเจนบางส่วนในระบบอุตสาหกรรม ทำให้สถานะของไขมันเปลี่ยนจากของเหลวไปเป็นของแข็ง ข้อดีคือทำให้ต้นทุนต่ำลง และสามารถเก็บได้นานขึ้น แต่ส่งผลเสียต่อร่างกายหลายประการ โดยเฉพาะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง ทำให้ระดับไขมัน LDL ในหลอดเลือดสูงขึ้น และลดระดับไขมัน HDL ให้ต่ำลง นอกจากโรคหลอดเลือดแล้วยังส่งผลต่อความจำ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอัลไซเมอร์ และทำให้แก่ก่อนวัยอันควร  แหล่งอาหารที่พบไขมันมันทรานส์ได้บ่อย คือ เบเกอรี่หรืออาหารที่มีองค์ประกอบของเนยเทียมหรือเนยขาวที่ผลิตโดยอาศัยขบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน   ในน้ำมันพืชที่เราใช้ในการประกอบอาหารทั่วไปไม่ได้มีองค์ประกอบของไขมันทรานส์


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

รู้จัก ไขมันดี ในอาหารคลีน

เต้าทึง ประโยชน์มากช่วยบำรุงทั่วร่าง แถมลดไขมัน ความดัน

แจกสูตรผักพื้นบ้าน ช่วยคุมไขมัน

ติดตามชีวจิตได้ที่

Instagram Cheewajitmedia
Facebook นิตยสารชีวจิต

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.