เต้าทึง ประโยชน์ แน่นๆ ถ้วยเดียวบำรุงทั่วร่าง

เต้าทึง เป็นของโปรดใครหรือเปล่าคะ อยากจะบอกว่าถ้าใครได้กินบ่อยๆ (แบบไม่หวานมาก) โชคดีมากเลยค่ะ เพราะ เต้าทึงประโยชน์ บำรุงได้ทั้งร่างกาย แถมยังช่วยลดไขมัน และความดันได้อีกด้วยค่ะ

เต้าทึงเป็นของว่างที่อุดมด้วยธัญพืชต่างๆ รากบัว พุทราจีน แล้วราดด้วยน้ำลำไยที่หอมหวานชื่นใจ และประโยชน์แน่นๆ เพราะวัตถุดิบแต่ละอย่างนั้นสรรพคุณมหาศาลเลยค่ะ

ถั่วทอง

หรือก็คือถั่วเขียวแกะเปลือกซีก ช่วยลดความดันโลหิต ขับพิษและบำรุงตับ รวมถึงลดอาการบวม บำรุงหัวใจ และกระเพาะอาหาร อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของแบคทีเรีย

รากบัว

ประโยชน์สูงมากจริงๆ ค่ะ เพราะในรากบัวอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กากใยที่สูง จึงทำให้อิ่มท้องได้นาน รวมถึงช่วยขัดล้างลำไส้ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย นอกจากนั้นรากบัวยังมีโพแทสเซียมในปริมาณที่สูง จนช่วยควบคุมความดันโลหิต เรื่องของการขับน้ำ ลดอาการบวด และทำให้ไตไม่ต้องทำงานหนัก รวมไปถึงช่วยผ่อนคลายความเครียดจากวิตามินบีในรากบัวได้นั่นเอง

พุทราจีน

เป็นผลไม้ที่อุดมด้วยประโยชน์มากมายเลย เนื่องจากมีทั้งวิตามินเอ และวิตามินซีสูงมาก ช่วยบำรุงได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสายตา ผิวพรรณ บำรุงเลือด บำรุงกำลัง รวมไปถึงช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

ช่วยในตำราแพทย์โบราณเองก็มีบอกไว้เช่นเดียวกันว่า พุทราจีน มีฤทธิ์ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น บำรุงกระเพาะ เสริมความงาม ทำให้ใจสงบ

แปะก๊วย

หนึ่งในสมุนไพรจากตำรับจีนที่เราคุ้นเคย ช่วยบำรุงสมอง ทำให้ความจำดี และยังช่วยกระตุ้นให้การหมุนเวียนของเลือดในร่างกายดีอีกด้วยนะคะ

ถั่วแดง

อีกหนึ่งถั่วที่เราคุ้นเคย จนหลายคนมองข้ามประโยชน์ทั้งที่มีมหาศาลคือ ช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการขาบวม ลดการเกิดฝีหนอง รวมไปถึงป้องกันการเกิดท้องร่วงได้ และที่สำคัญคือช่วยบำรุงหัวใจด้วยค่ะ

นอกจากเรื่องความแข็งแรงของสุขภาพ ใครที่กำลังอยากควบคุมน้ำหนัก ถั่วแดงก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ เลยล่ะค่ะ เนื่องจากถั่วแดงมีโปรตีนสูง ชนิดที่ว่ากันว่า อาจทดแทนโปรตีนจากสัตว์ได้ แถมยังมีไขมันอิ่มตัวที่ต่ำมาก จึงช่วยลดน้ำหนักได้ อีกทั้งยังช่วยดูดซับน้ำ ทำให้การย่อยและการดูดซึมอาหารช้าลง อิ่มได้นานขึ้น กินจุบจิบน้อยลง

ลูกเดือย

เป็นธัญพืชที่ไฟเบอร์สูง อีกทั้งยังอุดมด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย จึงช่วยบำรุงให้ร่างกายแข็งแรงได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้น ลูกเดือยยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายได้นะคะ

อีกทั้งลูกเดือยยังเป็น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ทำให้อิ่มท้อง แต่ร่างกายจะใช้เวลานานในการดูดซึมและย่อยสลาย หรือในบางครั้งก็ไม่ดูดซึม และไม่ย่อยได้เลย จึงไม่เกิดกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นน้ำตาล แต่กลายเป็นกากใยที่ช่วยขัดล้างลำไส้แทน

น้ำลำไย

นอกจากจะให้ความอร่อย หอมหวานชื่นใจแล้ว เขาก็มีประโยชน์ในด้านยับยั้งการอักเสบ นอกจากนั้นในน้ำยังมีสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูก ป้องกันการเกิดกระดูกพรุนได้อีกด้วย

ถ้วยเดียวประโยชน์เพียบขนาดนี้ ไม่กินไม่ได้แล้วเนอะ แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะคะว่า อย่าใส่น้ำตาลลงไปเยอะ เพราะแค่ความหวานจากน้ำลำไยก็ชื่นใจแล้ว ส่วนวิธีการทำเต้าทึงนั้นแสนง่ายคือ

เต้าทึง ทำง่าย อร่อย

ต้มลำไยสด หรือแห้ง กับน้ำ และมัดใบเตย (อย่าใส่น้ำตาลเพิ่มนะคะ อาศัยความหวานของน้ำตาลก็เพียงพอแล้ว
เมื่อลำไย บานและนิ่มได้ที่แล้ว ก็พักไว้ให้เย็น
ตักเครื่องต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ใส่ถ้วย พร้อมราดด้วยน้ำลำไย

วิธีต้มลูกเดือยให้อร่อย ใส่ใน เต้าทึง

วิธีการต้มลูกเดือยให้อร่อยนี้ แนะนำโดย อาจารย์นิพนธ์ ฉิมเฉลิม นักโภชนาการอิสระ ดังนั้นก็มั่นใจว่าได้ทั้งความอร่อย และคุณค่าจากลูกเดือยแน่นอนค่ะ

แช่ลูกเดือยทิ้งไว้ 6 ชั่วโมงถึง 1 คืน เพื่อให้เมล็ดดูดซับน้ำไว้จนอิ่มตัว (ถ้าไม่แช่น้ำ เวลาต้ม เมล็ดจะสุกยากหรือแข็งเป็นไต)
เทน้ำแช่ทิ้ง เติมน้ำสะอาดลงไป นำไปต้มจนลูกเดือยสุก โดยสังเกตว่าเมล็ดจะใส หรือตักเมล็ดขึ้นมาบี้ดู เนื้อจะนิ่ม
หากต้องการลดระยะเวลาในการต้ม สามารถใส่เบกกิ้งโซดาเล็กน้อยลงไปในน้ำต้ม จะช่วยให้เมล็ดสุกเร็วขึ้น
ปิดไฟ ใช้กระชอนตักเมล็ดขึ้น แล้วแช่ลงในน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็น เพื่อให้เมล็ดกระจายตัว ไม่เกาะกันเป็นก้อน จากนั้นยกกระชอนขึ้น สะเด็ดน้ำ ตักลูกเดือยใส่ถุงพลาสติกในปริมาณที่จะกินแต่ละวัน มัดปากถุงให้แน่น แล้วนำไปแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็ง

ลูกเดือย นอกจากใส่ เต้าทึง ก็หุงได้

นอกจากจะนำมาใส่ใน เต้าทึงได้แล้ว การต้มลูกเดือยไว้ ก็สามารถนำมาหุงรวมกับข้างได้ด้วย วิธีการง่ายๆ คือ เมื่อจะหุงข้าว นำลูกเดือยออกจากตู้เย็น หลังซาวข้าวกล้องเรียบร้อยแล้ว ใส่ลูกเดือยแช่แข็งลงไป ปิดฝาหม้อ กดปุ่มหุงข้าวได้ทันที ลูกเดือยจะกระจายตัวผสมรวมกับข้าวกล้อง และไม่ทำให้ข้าวแฉะ