ชวนรู้จักการกินแบบ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร สาขาวิชาโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์ ภาควิชาอา
ยุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า Intermittent Fausting (IF) เป็นวิธีควบคุมการกินอาหารอย่างหนึ่ง
ซึ่งเป็นวิธีช่วยในการลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ใช้หลักการง่าย ๆ โดย Intermittent Fausting (IF) มีช่วงเวลาที่กินอาหาร และช่วงเวลาที่อดอาหาร นั่นเอง
“การกินอาหารแบบ Intermittent Fasting หรือ IF เริ่มเป็นที่นิยมราว ๆ ปี 2012 จากหนังสือ The Fast Diet ของ Dr. Michael Mosley และหนังสือ The Obesity Code Unlocking the Secrets of Weight Loss you ของ Dr.Jason Fun”
ซึ่งเป็นการอดและกินอาหารตามตารางเวลาที่กำหนด โดยแบ่งออกเป็นรอบของช่วงการอดอาหาร (Fasting) และการไม่อดอาหาร (Feeding) ทำให้ร่างกายมีการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินลดลง การเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดเป็นไขมันลดลง และส่งผลให้การกักเก็บไขมันใต้ผิวหนังและน้ำหนักลดลง
การลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting นั้นอาจเป็นวิธีที่ได้ผล เพราะการอดอาหารและกินอาหารเป็นช่วง ๆ จะช่วยลดปริมาณของแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับ เนื่องจากความถี่ของการกินอาหารน้อยลง และยังช่วยเปลี่ยนแปลงระดับของฮอร์โมนที่ช่วยลดน้ำหนักในช่วงที่อดอาหารอีกด้วย
โดยจะช่วยลดระดับอินซูลิน (Insulin) เพิ่มการหลั่งโกร๊ธฮอร์โมน (Growth Hormone : GH) และนอร์เอพิเนฟรีน (Norepinephrine) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ส่งผลให้ร่างกายใช้ไขมันได้มากขึ้น
โดยระดับของฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงจากการอดอาหารในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ อาจกระตุ้นอัตราการเผาผลาญพลังงานให้เพิ่มสูงขึ้น ประมาณ 3.6-14 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งการลดน้ำหนักวิธีนี้ จะเน้นที่ช่วงเวลาของการกิน โดยไม่ได้เจาะจงชนิดของอาหารที่รับประทาน แต่อาจเน้นให้กินอาหารที่มีแคลอรีต่ำร่วมด้วย
โดยรูปแบบของ Intermittent Fasting นั้น อาจจัดได้หลากหลายช่วงเวลา ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล บางคนอดอาหารเป็นระยะเวลา 16 ชั่วโมง / วัน หรือบางคนอดอาหาร 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 2ครั้งก็มี ซึ่งการอดอาหารเช่นนี้ อาจทำให้รู้สึกหิวมากในระยะแรกที่ร่างกายต้องปรับตัว กับการไม่ได้กินอาหารเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตามในช่วงของการอดอาหารนั้น สามารถดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ได้
THE BENEFITS OF “IF”
ประโยชน์ของการทำ Intermittent Fasting
สรุปประโยชน์ของการทำ Intermittent Fasting หรือ IF ให้เห็นกันชัด ๆ ว่าดีต่อร่างกายอย่างไรบ้างดังนี้
- ปรับระบบการเผาผลาญให้ดีขึ้น โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร ระบุว่า เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะอดอาหารระดับอินซูลินจะลดลง (หากระดับอินซูลินสูงขึ้น จะทำให้มีการสะสมน้ำตาลไว้ที่ตับเกิดเป็นไขมันได้) ในขณะเดียวกันระดับโกร๊ธฮอร์โมนสูงขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น โดยไม่ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลงเหมือนการอดอาหารอย่างต่อเนื่อง
- ช่วยให้สมองปลอดโปร่งและห่างไกลอัลไซเมอร์ มีผลการวิจัยใน ค.ศ. 2016 พบว่า ระบบประสาททำงานได้ดียิ่งขึ้น เมื่อคนเราอดอาหาร (แต่ยังต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมต่อ) และใน ค.ศ. 2017 มีการทดสอบเพิ่มเติมว่า การทำ Intermittent Fasting สามารถช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ และลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ด้วย
- ช่วยให้มีอายุยืนยาว มีงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่าการลดจำนวนแคลอรีที่ร่างกายได้รับช่วยให้มีชีวิตยืนยาวขึ้นเช่นงานวิจัยของ Harvard T.H. Chan School of Public Health ที่ตีพิมพ์ เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2017 แสดงให้เห็นว่าการอดอาหารมีแนวโน้มที่จะทำให้ มีชีวิตยืนยาวขึ้น
เรื่อง กองบรรณาธิการ
ชีวจิต 533 – ฉบับพิเศษ 100 วิธี กิน อยู่ หยุดอ้วนถาวร
นิตยาสารรายปักษ์ ปีที่ 23 : 16 ธันวาคม 2563
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
บทความน่าสนใจอื่นๆ
VEGAN VS VEGETARIAN เคลียร์คัต “อาหารมังสวิรัติ” คืออะไร