มองอย่างเข้าใจ ไม่ว่า “คิดบวก” หรือ “คิดลบ” ก็เป็นผลดีได้ ถ้าใช้ถูกกับสถานการณ์
คนเรานั้นมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา วาจา หรือนิสัย รวมไปถึงความคิดต่างๆ ที่อยู่ในจิตใจและสมอง อย่างเช่นบางคนอาจเลือก “คิดลบ” เพื่อให้ตนเองตื่นตัวและพร้อมรับมือกับปัญหา ขณะที่บางคนก็พร้อมที่จะ “คิดบวก” เอาไว้ เพื่อให้ตนเองมีความหวังว่าจะเกิดเรื่องราวดีๆ ขึ้นมา หลังจากเจอปัญหานั้นและสามารถผ่านมันได้
แน่นอนว่าไม่ผิดอะไรที่จะเลือกมองโลกในแบบที่ตัวเองเชื่อ เพราะการเลือกมองในแต่ละมุมอาจจะเกิดจากประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาของคนๆ นั้น ซึ่งแตกต่างกันไป ไม่ผิดหรอกว่าจะมองโลกในแง่ใด เพราะมองแบบไหนมันก็เป็นประโยชน์ได้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับในแต่ละสถานการณ์มากกว่า
บางสถานการณ์ การมองโลกในแง่ดีและคิดบวกเข้าไว้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ขณะที่ในบางสถานการณ์การคิดลบหรือมองโลกในแง่ร้าย เพื่อคิดถึงกรณีเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้น ก็อาจจะกลายเป็นประโยชน์มากกว่าได้เช่นกัน ดังนั้นวันนี้เราจะนำข้อดีของการมองโลกทั้งสองแบบ มาบอกกันว่ามีอะไรบ้าง
มองในแง่ดี (คิดบวก)
– ทำให้คนรอบข้างรู้สึกดี
– มองเห็นประโยชน์จากปัญหาที่เกิดขึ้น
– ลดความเศร้าและความเครียด
– มีความเชื่อมั่นและความหวัง
– ก้าวผ่านและมูฟออนได้ไว
มองในแง่ร้าย (คิดลบ)
– ยอมรับความจริงได้ง่าย
– ไม่เข้าข้างตัวเอง
– ความคาดหวังน้อยลง
– เป็นเหตุเป็นผล
– เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาได้ดี
ข้อดีหรือประโยชน์ของการมองโลกในแต่ละด้านตามที่บอกไป มันอาจจะไม่จริงสำหรับทุกคนก็ได้ เพราะเป็นเพียงแค่การยกตัวอย่างจากประสบการณ์ที่ผ่านมาเท่านั้น มันอาจจะเปลี่ยนไปตามความคิดและประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาของแต่ละคน
สิ่งสำคัญก็คือเราไม่จำเป็นจะต้องมองแต่ด้านใดด้านหนึ่งหรือมองเพียงด้านเดียว เราสามารถมองอย่างสมดุลระหว่างคิดบวกกับคิดลบได้ การสร้างสมดุลเอาไว้ จะช่วยให้เราสามารถเลือกใช้แนวทางที่เหมาะสมสำหรับสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
- Revenge Bedtime Procrastination ไม่ได้ “นอนไม่หลับ” แต่เลือกที่จะไม่นอน
- เอาใจใส่คนอื่นและเรื่องรอบตัวมากเกินไป สุดท้ายเรานั่นแหละจะ “เหนื่อยใจ”
- สมดุลชีวิตขาดหาย! ลองทำตาม 5 วิธีง่ายๆ เพื่อกลับมามีความสุขอีกครั้ง
- 5 วิธีเติมพลังบวกให้กับตัวเอง ก้าวเข้าสู่วัน ทำงาน ยังไงให้มีความสุข
- 5 คำพูดดึงสติ ในเวลาที่เราหมดแรงจะก้าวต่อไป