มาเป็น “ติ่งสุขภาพ” แบบเกาหลีกันเถอะ

หมอได้เล่าถึงมุมมองและนโยบายด้านสุขภาพจากหลากหลายประเทศ เพื่อให้ข้อมูลนั้นได้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย และปักษ์นี้ หมอขอเล่า ติ่งสุขภาพ คือการดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม และวิถีความเป็นอยู่ของคนในประเทศเกาหลีใต้กันบ้าง ซึ่งเกาหลีใต้้เป็นประเทศที่อยู่ในแถบเอเชียเหมือนบ้านเรา

ติ่งสุขภาพ

ประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ทั้งด้วยระบบเศรษฐกิจ ระบบความมั่นคงคง และระบบความปลอดภัยทางด้านสุขภาพของประชาชน สำหรับบ้านเรา กระแสและวัฒนธรรมของเกาหลีเป็นเรื่องที่โด่งดังมาก คนไทยเป็นแฟนคลับของดาราเกาหลีหลายคน จนเรียกตัวเองว่า “ติ่งเกาหลี” และนิยมทำตามเกาหลีอีกหลายเรื่อง เช่น การกินอาหาร การแต่งกายเป็นต้น จนจะเรียกได้ว่าเกาหลีคือไอดอลก็ไม่ผิด

เมื่อมองวัฒนธรรมและวิถีความเป็นอยู่ของเกาหลี มีหลายเรื่องที่เป็นข้อดีอยู่มาก หมอขอหยิบยกมาเป็นตัวอย่างให้ผู้อ่านได้รู้ข้อมูลกันค่ะ

โสมเกาหลีดีที่หนึ่งหรือไม่

โสมเป็นสมุนไพรจีนที่มีประวัติมายาวนานกว่าพันปีและมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ที่มีผลการวิจัยเป็นที่ยอมรับคือ โสมสายพันธุ์ทิเบตและโสมสายพันธุ์เกาหลี

โสมสายพันธุ์เกาหลีมีฤทธิ์ค่อนข้างอุ่น เนื่องจากประเทศเกาหลีใต้มีความชื้นในสภาพอากาศค่อนข้างสูงและอุณหภูมิต่ำ คนเกาหลีจึงนิยมนำโสมมาผสมกับเครื่องดื่มเพื่อชงดื่มเป็นชาในช่วงฤดูหนาว จากผลการวิจัยสรรพคุณของโสมพบว่า มีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) สูงซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในเรื่องการเผาผลาญพลังงาน ช่วยกระตุ้นการสูบฉีดเลือด ช่วยให้หลอดเลือดลื่นขึ้น ลดการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด เลือดไหลเวียนได้ดี

ขณะเดียวกันโสมยังมีโคคิวเท็น (CoQ10) ที่ช่วยเพิ่มระดับการทำงานของเซลล์ ทำให้คนที่กินแล้วดูมีพลัง มีกำลังวังชา สดชื่นกระปรี้กระเปร่า จึงเป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้ชาย ซึ่งส่งผลให้โสมมีราคาค่อนข้างสูง สำหรับคนไทยนิยมสั่งซื้อโสมมาจากเกาหลีเช่นกัน
ซึ่งความคิดของหมอนั้น ถ้าการหาซื้อโสมมากินในราคาที่แพงมากถือว่า ไม่จำเป็นค่ะ เราสามารถกินพืชผักสมุนไพรอื่นที่มีสารฟลาโวนอยด์และโคคิวเท็นทดแทนได้ เช่น กระเทียม มะนาว ชาเขียว พริกหยวก เป็นต้น

วัฒนธรรมการกินมีผลต่อสุขภาพ

อาหารเกาหลีส่วนใหญ่โดยรวมแล้วจะมีทั้งพืชผัก สมุนไพร แป้ง และโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของคนเกาหลี และด้วยวิถีชีวิตการอยู่ในสังคมที่มีการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจสูง คนเกาหลีกว่าครึ่งประเทศมีชีวิตการทำงานที่ค่อนข้างหนัก และในกลุ่มวัยรุ่นมีการแข่งขันด้านการศึกษา ด้วยเหตุปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้คนเกาหลีตื่นตัว กระฉับกระเฉง สามารถเผาผลาญพลังงานได้ดี ประชากรส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยมีภาวะอ้วนลงพุง เพราะย่อยอาหารและใช้พลังงานได้หมด แต่ละวันใช้พลังงานเยอะมาก นับเป็นข้อดีในส่วนนี้ซึ่งค่อนข้างตรงกันข้ามกับคนไทยที่มีความสโลว์ไลฟ์มากกว่า

“กิมจิ” อาหารมรดกแห่งชาติ

กะหล่ำปลีเผ็ดเกาหลี, อาหารอีสาน, ซอสร้อน

เมื่อเดือนธันวาคมปี 2558 องค์การยูเนสโกได้ประกาศรายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage) 20 รายการ โดยหนึ่งในนั้นมี “กิมจิ” รวมอยู่ด้วย ซึ่งถือเป็นมรดกวัฒนธรรมทางอาหารของโลก ทั้งนี้เราจะเห็นได้ว่า “กิมจิ” อยู่ในมื้ออาหาร
ของคนเกาหลีเป็นส่วนใหญ่

กิมจิคือผักดองที่มีรสเผ็ดแตกต่างกัน มักจะถูกจัดวางเคียงคู่ไปกับอาหารจานหลัก ถือเป็นอาหารประกอบ (Side Dish) ที่จะต้องมีทุกมื้อ กิมจิ ยังเป็นอาหารที่นิยมกินทุกวันและกินได้ตลอดทั้งปี กินได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงคนแก่

ถ้ามีโอกาสไปเกาหลี จะเห็นว่ามีการเสิร์ฟกิมจิตามร้านอาหารและโรงแรมทั่วไป หากขาดกิมจิไป นั่นหมายความว่าอาหารมื้อนั้นจะขาดคุณลักษณะของอาหารเกาหลีไปเลยทีเดียวกิมจิจึงเป็นอาหารประจำชาติที่นิยมกันทั้งประเทศ ส่งผลทำให้วัฒนธรรมทางด้านอาหารของที่นี่แข็งแรงมาก เพราะได้รับการอนุรักษ์ไว้ไม่ให้เลือนหายไป

ทางด้านประโยชน์ของกิมจินั้น จะเห็นได้ว่ามีวิตามินบี 12 วิตามินเคที่สามารถช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และยังมีแบคทีเรียดี (Probiotic) ช่วยเรื่องระบบย่อยและช่วยบำรุงการทำงานของลำไส้ เพราะทำให้ฮอร์โมน “เปปซิน” (Pepsin) หลั่งออกมา ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในการย่อยสารอาหารประเภทโปรตีนในกระเพาะอาหาร

ส่วนผักที่ใช้ทำกิมจิ มีทั้งผักกาดขาว กะหล่ำปลี หัวไชเท้า แครอต เพราะฉะนั้นประโยชน์ของการกินกิมจิในด้านสุขภาพถือว่ามีอยู่มากค่ะ
สำหรับคนไทยก็นิยมกินกิมจิกันตามซีรี่ส์เกาหลี ซึ่งในปัจจุบันสามารถพบเห็นกิมจิหลากหลายยี่ห้อตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปในบ้านเรา
เมื่อกินดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ลองซื้อหามากินได้ ไม่เสียหายอะไรนะคะ

รสเผ็ดจากพริกเกาหลีช่วยเผาผลาญ

บ้านเรานิยมกินอาหารหลายอย่างตามแบบอย่างหนังและซีรี่ส์ต่าง ๆ พบว่าอาหารเกาหลีที่มีรสเผ็ดจากพริกนั้นมีข้อดี โดยเฉพาะพริกของเกาหลีได้มีการศึกษาวิจัยพบว่า มีสารเทอร์โมเจนิก (Thermogenic) ซึ่งเป็นสารที่ให้พลังงานความร้อน ช่วยให้ระบบเมแทบอลิซึม (Metabolism) ของร่างกายทำงานได้ดี ช่วยเผาผลาญพลังงาน กระตุ้นความอยากอาหาร ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานร่างกาย
กฎหมายควบคุมไขมันทรานส์อย่างเคร่งครัด

ประเทศเกาหลีใต้มีกฎหมายเรื่องการควบคุมไขมันทรานส์ ที่เป็นส่วนประกอบของการทำขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ อย่างเคร่งครัดด โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตขนมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จำหน่ายต้องปฏิบัติตาม รัฐบาลยังรณรงค์ให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจเกี่ยวกับโทษของไขมันทรานส์อย่างถูกต้อง เข้าใจถึงความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น

ความเครียดสูงช่วยแอ๊คทีฟ

เนื่องจากเกาหลีใต้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดภาวะ Destructive Developments หรือการพัฒนาแบบก้าวกระโดดท้งั ด้านเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้ระบบอุตสาหกรรมทุกรูปแบบมีการแข่งขันกันสูง ประเทศเกาหลีใต้มีการพัฒนาสินค้าออกมาเป็นแบรนด์ประจำชาติมากมาย ทั้งกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มรถยนต์ สินค้ากลุ่มเทคโนโลยีการสื่อสาร เพราะฉะนั้นวิถีชีวิตประชากรเกาหลีจึงมีความเครียด มีความกดดันด้วยการแข่งขันกันทางสังคม ชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ รวดเร็ว กระตือรือร้นตลอดเวลา ถ้ามองในแง่ดีก็ถือว่าเป็นการแอ๊คทีฟไปในตัวส่งผลให้คนเกาหลีส่วนใหญ่ได้เคลื่อนไหวร่างกายตลอด ซึ่งเท่ากับการได้ออกกำลังกายไปในตัว