กินแคลเซียม แบบไหน ดีต่อสุขภาพ ประโยชน์จัดเต็ม
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักและ กินแคลเซียม กันเป็นประจำ ไม่ว่าจากอาหาร หรือกินในรูปแบบอาหารเสริม แต่รู้ไหมว่า เจ้าสารอาหารนี้มีเงื่อนไขการดูดซึมพอสมควร แถมคนไทยก็มีภาวะพร่องแคลเซียมกันเยอะ ทำให้ในปัจจุบัน มีผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุน และข้อเสื่อมมากมาย วันนี้ผู้เขียนมีข้อมูลน่าสนใจ เกี่ยวกับการเลือกกิน แคลเซียมจากข้าวโพด และสารอาหารจำเป็นมากฝากกันค่ะ
ทำไมแคลเซียมถึงสำคัญ
แคลเซียม เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย และพบมากที่สุดในร่างกายด้วย มีอยู่ในกระดูกและฟัน แต่กลับเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จึงต้องได้รับจากการกินอาหารผ่านการย่อยและดูดซึม บทบาทสำคัญของแคลเซียม คือเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง ซึ่งเป็นโครงสร้างใหญ่ของร่างกาย และยังเป็นตัวช่วยในการผลิตฮอร์โมนสำคัญ ๆ ในร่างกายอีกด้วย
แต่ในปัจจุบัน ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ เช่น การออกไปทำงานแต่เช้ามืด ทำให้ร่างกายเสียโอกาสการได้รับแสงแดด ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญให้ร่างกายผลิตวิตามินดี (ที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้อีกนั่นแหละ) จึงขาดตัวช่วยในการดูดซึมแคลเซียมที่ทรงประสิทธิภาพไป บางรายที่ดื่มกาแฟพร้อม ๆ กับการกินแคลเซียม คาเฟอีนในกาแฟ อาจไปยับยั้งการดูดซึมแคลเซียมได้
และสาเหตุเหล่านี้เอง ทำให้แคลเซียมจากอาหารที่เรากินเข้าไป มีไม่เพียงพอต่อร่างกาย และทำให้ร่างกายพร่องแคลเซียมได้ง่าย ทางเลือกที่ตอบโจทย์ก็คือการเลือกกินแคลเซียมในรูปแบบอาหารเสริม ซึ่งสะดวกกว่า
โดยข้อมูลจากโรงพยาบาลกรุงเทพ ระบุว่า ในหนึ่งวัน ร่างกายควรได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม ดังนี้
- อายุ < 40 ปี 800 mg / วัน = นม 3 – 4 แก้ว
- วัยทอง (~50 ปี) 1000 mg / วัน = นม 4 – 5 แก้ว
- ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์, อายุ > 60ปี 1200 mg / วัน = นม 6 – 7 แก้ว
- ผู้หญิงมีโอกาสกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนมากถึง 30 – 40% ส่วนผู้ชาย 10%
- 10 ปีแรกหลังหมดประจำเดือน กระดูกจะบางลงเร็วมาก เกิดจากการขาดฮอร์โมนเพศหญิงหรือเอสโตรเจน การเสริมแคลเซียมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน
แคลเซียมหาจากไหนได้บ้าง
หากต้องการได้รับแคลเซียมจากอาหาร สามารถหาได้จาก นม, กุ้งแห้ง, กะปิ, ปลาเล็กปลาน้อย, ปลาสลิด, หอยนางรม, ผักใบเขียวที่มีลักษณะแข็ง (คะน้า, ใบยอ, ใบชะพลู), งาดำ ฯลฯ และหากต้องการกินในรูปแบบอาหารเสริม ในปัจจุบันมีแคลเซียมเสริมพร้อมรับประทานมากมายหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งมีทั้งแคลเซียมเดี่ยว ๆ และแคลเซียมที่ผสมสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยในการดูดซึม
แต่กระนั้น หากเลือกแคลเซียมที่ไม่มีคุณภาพ ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อร่างกายได้ อาทิ ท้องอืด ท้องผูก จากการกินแคลเซียมที่ดูดซึมได้ไม่ดี หรือกินแคลเซียมที่มีปริมาณไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้เสียเงินโดยใช่เหตุ
ซึ่งในปัจจุบัน มีแคลเซียมสกัดจากข้าวโพด ชื่อ แคลเซียมแอลทรีโอเนต ที่มีคุณภาพดี มีส่วนประกอบของสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เหมาะสำหรับดูแลกระดูกและฟัน ป้องกันภาวะกระดูกพรุนและข้อเสื่อม ลองมาดูรายละเอียดกันเลย
แคลเซียมจากข้าวโพดดีกว่าอย่างไร
ปัจจุบันมีการค้นพบแคลเซียมชนิดใหม่ ได้จากอาหารธรรมชาติ เช่น แคลเซียมจากข้าวโพด ชื่อ แคลเซียมแอลทรีโอเนต จัดเป็นเป็นวิตามินแคลเซียม ได้จากกระบวนการผลิตวิตามินซีในข้าวโพด เป็นแคลเซียมที่วงการแพทย์ anti-aging (เวชศาสตร์ชะลอวัย) ให้การยอมรับมากที่สุด เพราะมีงานวิจัยสากลรับรอง และมีการอ้างอิงในฐานข้อมูลใหญ่ทางการแพทย์ (pubmed) รวมถึงได้การรับรองความปลอดภัยจาก European Food Safty Autority (EFSA) มีคุณสมบัติการละลายน้ำดี และการดูดซึมดีมาก 90-95% ไม่ตกค้างในร่างกาย ไม่ต้องอาศัยกรดในกระเพาะอาหารช่วยในการดูดซึม ไม่ต้องใช้วิตามินดีช่วยในการดูดซึม จึงกินเวลาใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องกินหลังอาหารเหมือนแคลเซียมรุ่นเก่า
นอกจากจะเป็นแคลเซียมจากอาหารธรรมชาติ ดูดซึมได้ดีแล้ว งานวิจัยยังพบว่าสามารถช่วยสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย เพราะมี แอลทรีโอเนต เป็น active metabolite ของวิตามินซี ทำหน้าที่เพิ่มปริมาณวิตามินซี ซึ่งจะช่วยกระบวนการสร้างคอลลาเจนที่กระดูกแข็ง และสร้างคอลลาเจนที่กระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ ทำให้กระดูกอ่อนที่ข้อต่อที่สึกกร่อนจากภาวะข้อเสื่อมได้รับการซ่อมแซม กระดูกอ่อนจึงทำหน้าที่สร้างน้ำเลี้ยงไขข้อตามปกติได้ ดังนั้นแคลเซียมแอลทรีโอเนต จึงได้ผลดีในการดูแลข้อเข่าเสื่อมด้วย และยังไม่พบผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ด้วย เพราะเป็นสารที่พบในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว
สารอาหารอื่นๆ ที่แนะนำควบคู่
สำหรับสารอาหารอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เหมาะกับการกินควบคู่กับแคลเซียม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึม และช่วยบำรุงกระดูก ได้แก่
กรดอะมิโน 5 ชนิด ช่วยกระบวนการสร้างคอลลาเจนที่กระดูกอ่อน และกระดูกแข็ง , ลดอัตราการเกิดภาวะกระดูกหัก , ช่วยรักษาภาวะกระดูกหักให้หายไวขึ้น
วิตามินบี 6 ควบคุมสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย รักษาโครงสร้างคอลลาเจนในกระดูก
แมงกานีส เพิ่มการสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในกระดูกอ่อน
โบรอน ได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก(WHO) ว่าสำคัญต่อความหนาแน่นของมวลกระดูก
สารสกัดจากงาดำ ลดการอักเสบที่เกิดขึ้นในกระดูก และข้อ ชะลอการเสื่อมสลายของกระดูก
สารสกัดจากเมล็ดถั่วเหลือง ช่วยรักษาภาวะปกติของกระดูก โดยลดการทำลายกระดูก และเพิ่มการสร้างกระดูก
วิตามินดี 3 ในรูป Active form เพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากอาหาร
ซึ่งสารอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ อาจหากินในชีวิตประจำวันให้ครบถ้วนยาก แต่เราก็สามารถเลือกกินในรูปแบบอาหารเสริมได้ สะดวก ประโยชน์ครบครัน โดยแคลเซียมและสารอาหารสำคัญเหล่านี้มีใน ENEL แคลเซียม (ENEL Calmag เอเนลแคลแม็ก) Calcium L- threonate แคลเซียมแอลทรีโอเนต สกัดจากข้าวโพด (Non-GMO) เข้มข้นสูงสุดตามงานวิจัย และได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาประเทศไทย ช่วยบำรุงกระดูกและข้อ เป็นสูตรงานวิจัยคิดค้นโดยเภสัชกรมหิดล ปลอดภัยด้วยสารสกัดจากอาหารธรรมชาติ 13 ชนิด สามารถกินต่อเนื่องได้อย่างมั่นใจ สารสำคัญในผลิตภัณฑ์อ้างอิงจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์และได้รับการยอมรับจากสากล
สรุปแล้ว
การจะกินแคลเซียมให้ได้ประสิทธิภาพ ควรเริ่มจากการบริโภคอาหารที่ครบถ้วนตามโภชนาการ หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟพร้อมแคลเซียม โดยแนะนำรับประทานห่างกันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หมั่นออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ เพิ่มการซัปพอร์ตข้อต่อต่าง ๆ ให้แข็งแรงอยู่เสมอ ร่วมกับรับประทานแคลเซียมจากข้าวโพดที่มีคุณภาพควบคู่ จะช่วยให้แคลเซียมไม่เสียเปล่า การดูแลกระดูกและข้อได้ผลดียิ่งขึ้น
“คิดค้นและพัฒนาสูตรโดย ภญ. มหิดล นวพร สุขเดโชสว่าง“
สนับสนุนข้อมูลโดยผลิตภัณฑ์ ENEL
👉 Line :@ENELThailand
👉 FB : ENEL Thailand เพจบริษัท https://www.facebook.com/ENELThailand/
👉website : https://www.enelthailand.com/
อ้างอิง :
บทความสุขภาพ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
บทความสุขภาพ โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา
———————