5 ของดีใกล้ตัว บำรุงสุขภาพ ตามหลักอายุรเวท

หลักอายุรเวท เป็นเรื่องของการดูแลสุขภาพ เป็นศาสตร์ที่มีมาแต่โบราณ โดยแต่ละอารยธรรมก็มีวิธีดูแลที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมความเชื่อของตัวเอง ซึ่งศาสตร์ดังกล่าวก็เป็นอีกหนึ่งศาสตร์การดูแลและรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงที่มีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน   

แต่ก่อนที่เราจะไปดูว่าอะไรคือของดีใกล้ตัวที่ใช้ดูแลสุขภาพได้ เรามาทำความคุ้นกับ อายุรเวท กันก่อนค่ะ

หลักอายุรเวท คือ?

หลักอายุรเวท เป็นแนวทางการรักษาแบบโบราณ ที่เน้นการปรับสมดุลและการประสานระหว่างร่างกายกับสิ่งต่างๆ รอบตัวเรา โดยมีหลักการว่า “สรรพสิ่งรอบตัวเราล้วนเป็นอยู่กับเรา” ซึ่งอายุรเวชมาจากภาษาสันสกฤตว่า อายุส แปลว่าชีวิต และเวท แปลว่า ศาสตร์   รวมแปลว่าศาสตร์แห่งชีวิต (Science of Life) ซึ่งอายุรเวทมีพื้นฐานจากศาสนาฮินดู เป็นองค์รวมของวิชาการ ศาสนา และปรัชญา เป็นสาขาหนึ่งของพระเวท ซึ่งมีมามากกว่า 4, 000 ปี ในส่วนของสุขภาพ สุขภาพที่ดีได้แก่การปราศจากความเจ็บป่วย และมีชีวิตอย่างสมบูรณ์ทั้งทางกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ(ข้อมูลจาก: มหาวิทยาลัยศิลปากร)

การรักษาอายุรเวทถือเป็นรูปแบบทางเลือกของการแพทย์ และผู้ปฏิบัติงานของการรักษาโบราณนี้เชื่อว่าทุกอย่างในจักรวาล-ตายหรือมีชีวิตอยู่-มีการเชื่อมต่อ ถ้าจิตใจร่างกายและจิตวิญญาณของคุณอยู่ในความสามัคคีกับจักรวาลคุณมีสุขภาพที่ดี เมื่อสิ่งที่ขัดขวางความสมดุลนี้คุณจะมีแนวโน้มที่จะป่วย ในบรรดาสิ่งที่สามารถเสียสมดุลนี้เป็นข้อบกพร่องทางพันธุกรรมหรือเกิดการบาดเจ็บสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอายุและอารมณ์ของตัวเอง

หลักอายุรเวท

ความจริงเราต่างก็คุ้นเคยกับอายุรเวทกันอยู่แล้ว เพียงแต่อาจไม่รู้ตัว เช่น เมื่ออากาศเย็นเราก็จะสวมเสื้อผ้าเพิ่มความอบอุ่น ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ นั่นคือเรากำลังปรับสมดุลระหว่างความเย็นและความร้อน แต่ถ้าเราไม่ฟังและไม่ตอบสนองความต้องการของร่างกาย ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่สมดุล เช่น การเดินตากฝนโดยไม่มีร่มหรือเสื้อกันฝนทุกวัน เราก็จะเป็นหวัด ไอ และมีไข้   

หลักอายุรเวทถือเป็นวิทยาศาสตร์ที่สามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นเคล็ดลับการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานแบบง่ายๆ เพียงแต่เราต้องหมั่นสังเกตตัวเอง เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่เป็นอยู่ในตัวเอง เพียงเท่านี้ชีวิตก็จะมีความสุขได้ยาวนาน   

หลักอายุรเวท มีแนวคิดอย่างไร

หลักของอายุรเวท มีแนวคิดว่าในร่างกายของมนุษย์ทุกคนหล่อเลี้ยงและดำเนินไปด้วยสมดุลของธาตุทั้งห้า แบ่งออกเป็นสามสภาวะ คือ1. วาตะ ประกอบด้วยธาตุลมและอากาศธาตุหรือช่องว่าง อันหมายถึงการไหลเวียนต่าง ๆ ในระบบของร่างกาย และส่วนที่เป็นช่องว่างในร่างกาย, 2. ปิตตะ ประกอบด้วยธาตุไฟและน้ำ หมายถึงอุณภูมิในร่างกายและระบบการย่อยการเผาผลาญให้เกิดพลังงาน

3. กผะ ประกอบด้วยธาตุดินและน้ำ หมายถึงส่วนประกอบที่เป็นมวลร่างกายทั้งเนื้อหนังและของเหลวต่างๆสามอย่างนี้รวมกันเรียกว่า “ตรีโทษ” (Tridosha) เมื่อใดที่เราเกิดไม่สบายเจ็บป่วยขึ้นมา หมายความว่าสภาวะใด ๆ ในสามสภาวะอาจกำเริบหรือบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงต้องรักษาให้เกิดสมดุลปรกติดีอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ เรื่องของธาตุในร่างกายที่ว่านี้ก็เป็นพื้นฐานของแพทย์แผนโบราณไทยเช่นกัน หากมีธาตุใดธาตุหนึ่งน้อยไป มากไป หรือผิดปกติไป ก็จะทำให้เกิดโรค แพทย์แผนไทยเรียกภาวะ ที่ธาตุน้อยไปว่า “หย่อน” เรียกภาวะที่ธาตุมากไปว่า “กำเริบ” และเรียกภาวะที่ธาตุผิดปกติไปว่า “พิการ” เมื่อรู้ว่าธาตุใดหย่อน กำเริบ หรือพิการ ก็จะให้ยาแก้ได้

ของดีดูแลสุขภาพตามหลักอายุรเวท 

อย่างที่บอกไปว่าอายุรเวทเป็นศาสตร์การแพทย์โบราณของชาวอินเดีย ที่เน้นการรักษาด้วยสมุนไพรเป็นหลัก โดยแยกสมุนไพรออกเป็น 6 รสชาติ คือ ฝาด ขม เผ็ด หวาน เค็ม เปรี้ยว คราวนี้ก็ถึงเวลาหาสมุนไพรดีๆ ที่อยู่ใกล้ตัวจนถึงไม่ถึงกันค่ะ

แครอต เพิ่มความแข็งแรงของมดลูก

ในตำราอายุรเวทกล่าวไว้ว่า แครอตมีฤทธิ์บีบมดลูก ช่วยในการเร่งคลอด แต่ในการศึกษาปัจจุบันพบว่า ที่แท้จริงแล้วแครอตช่วยทำให้ผนังมดลูกแข็งแรง ทำให้มดลูกสะอาด และการกินแครอตเป็นประจำในช่วงท้ายๆของการตั้งครรภ์จะช่วยลดปัญหาดีซ่านในทารกได้

ตะไคร้หอม แก้ไข้

ในตำราอายุรเวทกล่าวว่า ตะไคร้หอมใช้แก้ไข้ ลดอุณหภูมิได้ โดยการดื่มเป็นชาตะไคร้ คือหั่นตะไคร้แล้วนำไปต้มดื่ม หรือจะต้มรวมกับขิงก็ได้เหมือนกัน แบ่งดื่มวันละ 3-4 ครั้ง ก็ช่วยได้แล้วค่ะ

หลักอายุรเวท

บอระเบ็ด แก้ไข้

เถาบอระเพ็ดเป็นส่วนที่ถูกนำมาใช้เป็นยาแก้ไข้ นอกจากนั้นยังช่วยในโรคทางเดินปัสสาวะ แก้อักเสบ และแก้อาการเกร็งได้อีกด้วย
วิธีการคือ หั่นเถาบอระเพ็ดขนาดประมาณ 1 ฟุต หั่นเป็นท่อน แล้วต้มในน้ำ 3 ส่วน จนเหลือเพียง 1 ส่วน ดื่มวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า – เย็น

อ้อย ขับเสมหะ

ไม่ว่าจะในตำราอายุรเวท หรือตำรับไทยล้วนแต่ใช้อ้อยในการขับเสมหะ โดยน้ำอ้อยจะช่วยขับเสมหะที่เหนียวข้น และลดอาการไอ และแก้เสียงแห้งได้อีกด้วย
วิธีการคือ นำอ้อยที่ยังไม่ปอกเปลือกไปเผาไฟจนเกิดฟองที่ปลายอ้อย จากนั้นลอกเปลือกออก หั่นเป็นท่อน แล้วเคี้ยวขณะอุ่นๆ หรือจะจิ้มเกลือก็ได้

ทับทิม ขับพยาธิ

วิธีการคือ ใช้เปลือกรากที่แห้งแล้วประมาณ 6 – 12 กรัม ต้มน้ำดื่ม จะช่วยขับพยาธิตัวกลมและตัวตืด หรือใช้เปลือกรากที่แห้งแล้วประมาณ 18 หรือ 25 กรัม นำมาตำให้ละเอียดแล้วต้มน้ำกิน(ข้อมูลจาก คอลัมน์ เรื่องพิเศษ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 473)

ทั้งนี้ อย่างที่ได้บอกไปว่าอายุรเวทเป็นการแพทย์ของธรรมชาติและของชีวิต ซึ่งมีปรัชญาอยู่ว่า เป็นการนำเอาหลักการและอำนาจของธรรมชาติเข้าไปอยู่ในจิตใจของคน แล้วสอนให้คนๆ นั้นรู้ถึงวิธีการนำเอาหลักการและอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของสุขภาพและการดำรงชีวิตอย่างสอดคล้องกับธรรมชาตินั้นมาปฏิบัติ

อายุรเวทให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารและยา เพื่อบำรุงรักษาร่างกาย ซึ่งเป็นแง่มุมหนึ่งของโยคะ และเข้ากันได้ดีที่สุดกับหะธะโยคะ ซึ่งกำหนดให้มีการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพทางกาย เพื่อความยืดหยุ่นและขจัดความตึงเครียด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

สูตรแก้ลมพิษ ด้วยสมุนไพร ทำได้ หายคัน

ประโยชน์ของกระเทียม สมุนไพรมหัศจรรย์ป้องกันสารพัดโรค

5 สมุนไพร ฟื้นฟูระบบย่อย

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.