แจก สูตรน้ำสลัด เปรี้ยวอมหวาน จากส้ม

สูตรน้ำสลัด สลัดผักผลไม้น้ำสลัดส้ม

เขาบอกว่าการกินอาหารสุขภาพให้ได้ยั่งยืน ต้องอร่อย และรสชาติมาจากธรรมชาติ เพราะถ้าไม่อร่อย ใครจะอยากทานบ่อยๆ จริงไหม วันนี้แอดมาแจก สูตรน้ำสลัด ที่อร่อยได้ประโยชน์ แถมรสชาติเปรี้ยวอมหวานที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น นั้นคือ สลัดผักผลไม้ ที่น้ำสลัดทำมาจากส้ม

สูตรน้ำสลัด

ส่วนผสม น้ำสลัด

น้ำส้มคั้น 2 ผล
น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือชมพู 1/2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ต 1/4 ถ้วย
เปลือกส้มหั่นฝอย 1/2 ช้อนชา

ส่วนผสม สลัดผัก

ผักกาดแก้ว หั่นฝอนปริมาณตามชอบ
เบบี้แครอตและมะเขือเทศเนื้อคว้านเมล็ดออก หั่นเต๋าปริมาณตามชอบ
อะโวคาโด แอปเปิ้ลเขียว และแอปปิ้ลแดง หั่นเต๋าปริมาณตามชอบ
ส้มแกะหั่นชิ้นเล็ก และเลมอน หันแว่นเล็กปริมาณตามชอบ
เซเลอรี หั่นเต๋าปริมาณตามชอบ
มิกซ์เบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ หรือทับทิม ปริมาณตามชอบ
ผักสลัดชนิดต่างๆ ปริมาณตามชอบ
มะเขือเทศเชอร์รี่สีแดงและสีเหลือง ปริมาณตามชอบ

วิธีทำ

ผสมน้ำมันมะกอก โยเกิร์ต น้ำเลมอน และน้ำส้มคั้น คนให้เข้ากัน
ปรุงด้วยเกลือชมพู ตีให้เข้ากัน ตามด้วยพริกขี้หนู พริกไทยป่น และเปลือกส้ม คนให้เข้ากัน พักไว้
จัดจานสลัด วางผักและผลไม้ทุกชนิดลงชาม ราดน้ำสลัดน้ำส้ม ที่เตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟ

ประโยชน์ของ ส้ม

ส้มอุดมด้วยวิตามินซี ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน รวมถึงเป็นสารอาหารสำคัญในการสังเคราะห์คอลลาเจน และสารต้านอนุมูลอิสระในส้ม ยังช่วยลดการเกิดโรคติดต่อเรื้อรังอย่าง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจ เป็นต้น ส้มยังมีสารฟลา
โวนอยด์ ที่มีส่วนช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล เอซดีแอล (HDL) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดดี และลดระดับแอลดีแอล (LDL) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีในเลือด

ส้มยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยในการควบคุมความดันโลหิต รวมถึงเป็นผลไม้ที่โซเดียมต่ำ ช่วยให้ร่างกายควบคุมความดันโลหิตได้อย่างสมดุล และช่วยลดความดันเลือดในคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงอีกด้วย

เคล็ดลับเก็บส้มให้สดใหม่

วิธีเก็บส้มให้สดใหม่อยู่ได้นานเป็นเดือน คือ นำส้มมาก่อกระดาษหนังสือพิมพ์ทีละลูก จากนั้นแพ็กใส่กล่อง หรือถุงพลาสติกอีกที มัดปากถุงให้แน่น แล้วนำไปแช่ตู้เย็นในช่องแช่ผัก

อีกวิธีคือ เช็ดทำความสะอาดลูกส้ม แล้วใส่เรียงไว้ในกล่องถัง หรือภาชนะที่มีฝาปิดสนิท จากนั้นวางไว้ในอุณหภูมิห้อง