ในยุคที่คนให้ความสนใจกับการดูแลสุขภาพอย่างทุกวันนี้ ถ้าให้นึกถึงเทรนด์อาหารสุขภาพที่มาแรงที่สุด เชื่อได้ว่า มัทฉะ และโพรไบโอติก จะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่แวบขึ้นมาในความคิด เพราะได้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ ลดการอักเสบในร่างกาย และรู้กันไหมคะว่า ทั้งมัทฉะ และโพรไบโอติกต่างก็มีประโยชน์ด้าน จิตใจด้วยนะคะ
มัทฉะ จากพิธีการ สู่ Morning Routine เพื่อสุขภาพ
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงประโยชน์ต่างๆ ของมัทฉะ แอดอยากพาทุกคนไปทำความรู้จัก และความแตกต่างของ มัทฉะ และชาเขียวกันเสียก่อน เพราะแม้ว่าทั้งสองจะเป็นชาสีเขียวเหมือนกัน แต่ที่จริงแล้ว แตกต่างกันอย่างมากเลยค่ะ
ชาเขียว คือชาที่ผ่านการอบแห้ง แล้วนำไปบดหยาบ หรือบางทีก็ใช้ชงทั้งใบ ดื่มโดยแยกใบออก เหมือนการดื่มชาทั่วๆ ไป ที่เราไม่ได้ตัวใบชาเข้าไปด้วย แต่ถ้าเป็นมัทฉะจะเป็นอีกเรื่องเลยทีเดียวทั้งกรรมวิธีกว่าจะออกมาเป็นมัทฉะ และการดื่ม มัทฉะ จะเป็นการเก็บยอดใบชาอ่อน ผ่านการตากแห้งด้วยกรรมวิธีธรรมชาติ จากนั้นจะนำไปบดละเอียดจนกลายเป็นผงเล็ก ในส่วนของการดื่มนั้นก็จะชงผงเล็กๆ เหล่านั้นในน้ำและดื่มทั้งใบแบบนั้นเลย จึงไม่แปลกที่เรามักจะเจอผงชาที่ก้นแก้ว แต่การดื่มแบบนี้ทำให้ได้ประโยชน์ และรสชาติจากใบชาเต็มที่นั้นเอง
ประโยชน์ของมัทฉะ
1.ซูเปอร์ฟู้ดช่วยต้านอนุมูลอิสระ
อย่างที่บอกว่า ในการดื่มมัทฉะเราจะดื่มทั้งใบ จึงทำให้มีสาร EGCG (Epigallocatechin Gallate) สูงกว่าชาเขียวทั่วไปถึง 100 เท่า! ซึ่งจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้นตอการอักเสบ ความเสื่อมของเซลล์ และที่สำคัญคือต้นตอของโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และทำให้แก่ก่อนวัย
2 . กระตุ้นการเผาผลาญ
ในมัทฉะมีทั้งคาเฟอีนและ L-Theanine ที่จะค่อยๆ ทำงาน ทำให้ร่างกายสดชื่น โดยไม่ใจสั่น ต่างจากการดื่มกาแฟ ที่อาจทำให้ใจสั่นได้ และการทำงานร่วมกันนี้เอง ที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ
3. ดูแลหัวใจและหลอดเลือด
ช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL) และเสริมการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และภาวะหลอดเลือดอุดตัน
4. เพิ่มสมาธิ ช่วยผ่อนคลาย
อย่างที่บอกว่า มัทฉะ นอกจากเรื่องของสุขภาพกายแล้ว ยังช่วยเรื่องสุขภาพใจด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพราะสารอาหาร อย่าง L-Theanine ที่เป็นสารสื่อประสาท ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างปลอดโปร่ง มีสมาธิมากขึ้น นอกจากนั้นขั้นตอนการชงมัทฉะ ที่ต้องค่อยๆ ทำ ก็เป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่ช่วยเสริมสร้างสมาธิ ให้ได้จดจ่อ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีคุณภาพท่ามกลางเรื่องราววุ่นๆ ที่ทำให้เราสมาธิสั้นโดยไม่รู้ตัว
ดูแลสมองที่ 2 ด้วยซินไบโอติก
เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า “เพราะลำไส้คือสมองที่สอง” ของร่างกาย ทั้งนี้ก็เพราะว่าในลำไส้มีระบบประสาทเป็นของตัวเองในการทำงานต่างๆ นอกจากนั้นยังมีการสื่อสารกับสมองโดยตรง นอกจากนั้นแล้วสมดุลของลำไส้ยังส่งผลต่ออารมณ์ ความเครียด และภาวะซึมเศร้า และเพราะแบบนี้เองเราจึงต้องดูแลลำไส้ ที่เปรียบเสมือนสมองที่ 2 อย่างดี และการดูลำไส้ให้มีสุขภาพดี รักษาสมดุล ก็ต้องพึ่ง โพรไบโอติก หรือจุลินทรีย์ดี มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพแบบองค์รวม โดยเฉพาะในลำไส้และระบบภายในของผู้หญิง ด้วยหน้าที่ ที่หลากหลาย เช่น
- รักษาสมดุลในลำไส้ ควบคุมแบคทีเรียก่อโรค ซึ่งเป็นต้นเหตุของลำไส้แปรปรวน ท้องผูก ท้องเสีย และลำไส้อักเสบ
- เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
- ช่วยในการย่อยและดูดซึมสารอาหารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า เนื่องจากโพรไบโอติกมีส่วนช่วยในการผลิตเซโรโทนิน (ฮอร์โมนแห่งความสุข)
- ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในช่องคลอด ลดปัญหาตกขาว กลิ่นไม่พึงประสงค์ และการอักเสบในระบบสืบพันธุ์ โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์หรือมีภาวะช่องคลอดแปรปรวนง่าย
แต่ทั้งนี้หากจะดูแลลำไส้อย่างครบวงจร เราจะมีเพียงโพรไบโอติกอย่างเดียวไม่ได้ แต่ยังต้องมีพรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารของเหล่าโพรไบโอติก ที่จะช่วยให้การทำงานของจุลินทรีย์ดีเหล่านี้เป็นไปอย่างสมดุล และเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่อาจไม่มีเวลาจะมาหาเติมทั้ง พรีไบโอติก และโพรไบโอติก จึงเกิดเป็น ซินไบโอติก ที่รวมทั้ง พรี และโพร ไบโอติกเข้าด้วยกัน อุดมทั้งจุลินทรีย์ดี และไฟเบอร์ ช่วยให้การทำงานของโพรไบโอติกมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
และด้วยความที่ในท้องตลาดตอนนี้มีทั้งมัทฉะ และซินไบโอติกมากมาย จนไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไร แอดก็มี 2 ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ
ตัวแรกคือ SU Matcha Green Tea มัทฉะ ที่มีสารออกฤทธิ์สำคัญครบถ้วน ที่ทั้งคนดูแลสุขภาพ และคนควบคุมน้ำหนักต้องการ ไม่ว่าจะเป็น
- EGCG
- L-Theanine
- คาเฟอีนธรรมชาติ
- โพลีฟีนอล
- คาเทชิน
จากส่วนผสมสำคัญ คือ
- SuperTea™ (GREEN TEA EXTRACT ) คือคาเฟอีนธรรมชาติ ≥ 98% จากใบชา Camellia sinensis ผ่านกระบวนการสกัดคุณภาพสูง ให้พลังงานอย่างสมดุล ช่วยกระตุ้นระบบประสาทโดยไม่ใจสั่น นอกจากนี้ ยังคงไว้ซึ่งสารสำคัญ ได้แก่ EGCG ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยเสริมการเผาผลาญ ลดไขมันเลว และชะลอวัยอย่างเป็นธรรมชาติ
- L-Theanine กรดอะมิโนจากใบชา ช่วยผ่อนคลาย ลดความเครียด เพิ่มสมาธิโดยไม่ทำให้ง่วง เสริมการทำงานของคาเฟอีน ให้สมองสงบแต่ตื่นตัวอย่างมีสมดุล
- INSTANT GREEN TEA POWDER ผงชาเขียวมัทฉะคุณภาพสูง ที่ยังคงคุณค่าสารโพลีฟีนอล และคาเทชินครบถ้วน
ส่วนซินไบโอติกนั้น บอกเลยว่าหาได้ค่อนข้างยาก เพราะส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่ โพรไบโอติกมากกว่า แต่ก็ไม่ยากเกินไป เพราะ Innu Biotic จาก SU JITORA ที่มีความหลากหลายของจุลินทรีย์ดีถึง 11 สายพันธ์ จุลินทรีย์แต่ละสายพันธุ์มี “บทบาท” และ “เป้าหมายการทำงาน” ที่ต่างกัน จึงช่วยเสริมฤทธิ์กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังมีเทคโนโลยี ที่ทำให้โพรไบโอติก มีอัตรารอดชีวิต และไปทำงานในลำไส้ได้มากกว่า
และอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มโพรไบโอติก คือ “ความปลอดภัยของสายพันธุ์โพรไบโอติก” ทุกสายพันธุ์ที่ใช้ใน INNU BIOTIC ได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก อย. อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นหัวใจของการเลือกใช้โปรไบโอติกอย่างมั่นใจ เพราะหากใช้สายพันธุ์ที่ไม่ผ่านการรับรอง แม้จะเป็นจุลินทรีย์ที่ดูเหมือนมีประโยชน์ ก็อาจกลายเป็นฝันร้ายก่อโรคอื่นๆ ตามมาไม่รู้ตัว และถึงแม้ว่าจะเลือกทานอาหารสุขภาพมากน้อยแค่ไหน ก็อย่าลืมทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายนะคะ