ทุกวันนี้เราแค่จะมีสุขภาพที่แข็งแรงดูเหมือนจะไม่พอแล้ว เพราะด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่มีส่วนช่วยทำให้หมุษย์มีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น คือ การมีสุขภาพที่ดีพร้อมๆ กับอายุที่ยืนยาว หรือ Longevity (ลองจิวิตี้) จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ใช่แค่เทรนด์การดูแลสุขภาพ แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ และยั่งยืน วันนี้เราจะมาดูกันว่าเราจะทำอย่างไรได้บ้างให้มี Longevity ที่ดี
การมี longevity ที่ดี ควรมีสุขภาวะทั้งกายและจิตใจให้แข็งแรง เช่น การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนฝูง ครอบครัว, ร่วมกิจกรรมเช่น อาสาสมัคร, ทำกิจกรรรมที่ได้ขยับร่างกาย อย่างการปลูกผักในครัวเรือน เพราะเป็นการออกกำลังไปในตัว และร่างกายยังได้แอคทีฟตลอดเวลา, รวมถึงการจัดการกับความเครียด อย่างการไปคอนเสิร์ต,ร้องเพลง เป็นต้น รวมถึงการกิจกรรมยามว่าง งานอดิเรกที่ทำให้เราผ่อนคลายทั้งกายและใจ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำลายสุขภาพอย่างการไม่ออกกำลัง หรือการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีนอกจากจะเพิ่มอายุขัยแล้ว ยังหลีกเลี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อีกด้วย และที่สำคัญหมั่นวางแผนชีวิ
Longevity คืออะไร สำคัญอย่างไร
Longevity ในความหมายตามดิกชันนารีของแคมบริดจ์กล่าวไว้ว่า “การมีชีวิตที่ยืนยาว” (living for a long time) แต่ในความหมายแสนสั้นนี้ยังมีความหมายระหว่างตัวอักษรอีกมากมาย นั่นคือ การมีชีวิตที่ยืนยาวบนพื้นฐานการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งทางกาย และทางใจ ไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
แล้วทำไมการมี Longevity ที่ดีจึงสำคัญ นั่นก็เพราะอย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าเทคโนโลยีการแพทย์ทำให้เรามีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น (Life Span) แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้มีสุขภาพที่ดีตลอดชีวิต (Health Span) เราจึงเห็นผู้สูงอายุ จำนวนมาก ที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่กลับป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ หรือที่แย่ที่สุดคือการเป็นผู้ป่วยติดเตียงยาวนานนับสิบปี การมี Longevity จึงเป็นการทำให้มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ช่วยเหลือ และดูแลตัวเองได้ตราบจนสิ้นอายุขัย หรือแย่ที่สุดคือระยะเวลาที่เจ็บป่วยจะไม่ยาวนาน ก่อนที่จะจากลาโลกนี้ไป

การจะมี Longevity ที่ดีได้นั้น คุณหมอแอมป์ – นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน และเวชศาสตร์วิถีชีวิต ได้เคยให้แนวทางในการดูแลสุขภาพเอาไว้ดังนี้คือ
- การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ เป็นอย่างน้อย
- นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 8-9 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงสารอันตราย ไม่ว่าจะจากสภาพแวดล้อม หรือสารตกค้าง และสารเคมีในข้าวของเครื่องใช้รอบตัว
- ดูแลสุขภาพจิตตัวเองให้ดีอยู่เสมอ
อาหาร ปัจจัยสำคัญของการมีชีวิตที่ยืนยาว
หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการมีชีวิตที่ยืนยาว คือเรื่องของอาหารการกิน ที่ต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ ควบคู่ไปกับการมีไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ดี โดยเฉพาะต้องใส่ใจเรื่องอาหารการกิน เราจะเห็นตัวอย่างที่ชัดเจนคือจากแหล่งบลูโซน หรือพื้นที่ที่มีผู้คนมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ที่กระจายอยู่รอบโลก แต่ทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่มีลักษณะการกินอยู่ที่คล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นแถบเมดิเตอร์เรเนียน หรือใกล้ไทยเราขึ้นมาหน่อยอย่างเกาะโอกินาวา ซึ่งเน้นการกินอาหารจากท้องทะเล ผ่านกรรมวิธีน้อย เน้นพืชผัก และเลี่ยงเนื้อแดง
สำหรับโอกินาวา ด้วยความที่เป็นเกาะแยกตัวออกจากแผ่นดินใหญ่ นอกจากอาหารทะเลแล้ว ยังมีวัตถุดิบเฉพาะตัวที่หาที่ไหนไมได้ และยังอีกทั้งเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้คนแข็งแรงสดใส จนกลายเป็นพื้นที่ที่ผู้คนมี Longevity ที่ดี ก่อนที่คำนี้จะเป็นที่นิยมเสียอีก เรียกได้ว่ามาก่อนกาลอย่างแท้จริงเลยทีเดียว

สำหรับวัตถุดิบสำคัญที่มีเฉพาะที่โอกินาวายกตัวอย่างเช่น มะระญี่ปุ่นโกยะ ที่ขมมากเป็นพิเศษ แต่อุดมด้วยวิตามินซีที่ทนต่อความร้อนได้ดี หรือสาหร่ายพวงองุ่นที่บ้านเราเพิ่งมากินกันเมื่อสักสิบปี แต่ที่โอกินาวานั่นกินกันมาเนิ่นนานมากแล้ว และนอกจากสิ่งเหล่านี้ ยังมีอีกหนึ่งแรพ์ไอเท็มที่จนถึงทุกวันนี้ ถ้าจะหากินก็ต้องเป็นแถบโอกินาว่าเท่านั้นอย่าง สาหร่ายโอกินาว่าโมซุกุ และ สาหร่ายเมะคะบุ ซึ่งเป็นสาหร่ายที่อุดมด้วยสาร “ฟูคอยแดน”
ฟูคอยแดน ความลับอายุยืนของชาวโอกินาวา
ฟูคอยแดน เป็นสารโพลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ที่อยู่ในสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล โดยเฉพาะสาหร่ายโอกินาว่าโมซุกุ และ เมะคะบุ โดยสาหร่ายโอกินาว่าโมซุกุ เป็นสาหร่ายที่มีงานศึกษาวิจัยมากมายว่าสามารถช่วยได้ทั้งเสริมภูมิต้านทาน ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง รวมถึงช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ จนได้ชื่อว่าเป็น “อาหารแห่งการมีอายุยืน”
สาหร่ายโอกินาว่าโมซุกุ เป็นสาหร่ายที่มีลักษณะเส้นบางๆ เหนียวหนึบ และมีเมือกเคลือบสาหร่ายซึ่งอุดมด้วยสารฟูคอยแดน และเป็นแหล่งรวมสรรพคุณดีๆ ของสาหร่ายโอกินาว่าโมซุกุไม่เพียงเสริมภูมิ แต่ยังลดความเสี่ยงการของเป็นมะเร็งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทั้งในแง่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ร้ายแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูเซลล์อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติต้านไวรัส และลดการอักเสบ

สาหร่ายเมะคะบุ เป็นอีกหนึ่งสาหร่ายที่ขึ้นชื่อเรื่อง คุณประโยชน์ ไม่เพียงอุดมด้วยสารฟูคอยแดนเหมือนอย่างสาหร่ายโอกินาว่าโมซุกุแล้ว ยังมีเบต้ากลูแคน แคลเซียม แมกนีเซียม ไอโอดีน และโพลีฟีนอล จึงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง ปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ ลดอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน รวมถึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาล และไขมันในเลือดได้อีกด้วย
จะเห็นได้ว่าสารฟูคอยแดน ซึ่งมีอยู่มากในสาหร่ายโอกินาว่าโมซุกุ และ สาหร่ายเมะคะบุ ซึ่งเป็นสาหร่ายที่นิยมกินในโอกินาวา มีคุณสมบัติที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้คนมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ หรือมี Longevity ที่ดีนั่นเอง เพราะสาหร่ายทั้ง 2 ตัวที่กล่าวไปข้างต้นนั้น ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงที่เป็นศัตรูของการมี Longevity ไม่ว่าจะเป็น
ในแง่ของการลดความเสี่ยงมะเร็ง
- กระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
- เหนี่ยวนำให้เซลล์ผิดปกติทำลายตัวเอง และเพิ่มการฟื้นตัวของเซลล์
- ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งเม็ดเลือดขาว
- ยับยั้งการสร้างเส้นเลือดที่นำอาหารไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง
ในแง่ของการลดความเสี่ยงโรค NCDs
NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น
- มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
- ช่วยควบคุมน้ำตาล
- ควบคุมไขมันในเลือด
- เสริมภูมิคุ้มกัน
- ต้านอนุมูลอิสระ
สารฟูคอยแดน กับการประยุกต์ใช้
หลายคนกำลังคิดว่าแล้วเราจะหาสาหร่ายนี้กินได้ที่ไหน แอดบอกเลยว่าหากินได้ยาก นอกจากที่โอกินาว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็มีการคิดค้นเพื่อทำให้ได้รับประโยชน์ของฟูคอยแดนอย่างเต็มที่ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน โดยนายแพทย์ไดสึเกะ ทะจิคะวะ (Dr. Daisuke Tachikawa) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง พบผู้ป่วยรายหนึ่งที่มีร่างกายแข็งแรงดี สดชื่น และที่น่าแปลกใจคือมีระดับเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ด้วยการกินสาหร่ายโอกินาว่าโมซุกุเป็นประจำ
คุณหมอไดสึเกะได้ศึกษาจนค้นพบความลับคือ สารฟูคอยแดน ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้บาดแผลในเซลล์ติดเชื้อได้ง่าย รวมถึงช่วยทำให้เซลล์แข็งแรง และรักษาความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะทำให้ผ่านพ้นช่วงการรักษามะเร็ง ซึ่งมีกระบวนการคือเป็นการทำลายเซลล์มะเร็ง แต่ก็เซลล์ปกติก็มักจะโดนลูกหลงถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน

นายแพทย์ไดสึเกะ ทะจิคะวะ นำองค์ความรู้ที่ได้มาศึกษาเพิ่มเติม ผ่านสถาบัน วิจัยฟูคอนแดน NPO ประเทศญี่ปุ่น พัฒนาเป็น “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารฟูคอยแดน อุมิ โนะ ชิซุกุ” ออกสู่ท้องตลาด ซึ่งเป็นการผสาน 3 วัตถุดิสำคัญคือ สาหร่ายโอกินาว่าโมซุกุ สาหร่ายเมะคะบุ และเห็ดกระดุมบราซิลเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับกระบวนการของออกซิเดชั่นในร่างกาย โดยที่ กระบวนการผลิตทั้งหมดจากประเทศญี่ปุ่น 100%
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารฟูคอยแดน อุมิ โนะ ชิซุกุ เลือกใช้ฟูคอยแดนโมเลกุลใหญ่คุณภาพเยี่ยมจากสาหร่ายโอกินาว่าโมซุกุและสาหร่ายเมะคะบุที่เก็บเกี่ยวสดๆ จากทะเลโอกินาว่าอันอุดมสมบูรณ์ เมื่อสาหร่ายสดเหล่านี้ผ่านกระบวนการทำความสะอาดแล้วเสร็จก็จะเข้าสู่กระบวนการสกัดทันที เพื่อให้คงปริมาณและคุณภาพของฟูคอยแดนไว้ได้มากที่สุด
แต่ถ้าอยากรู้จักฟูคอยแดน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารฟูคอยแดน อุมิ โนะ ชิซุกุ ให้มากกว่านี้ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยฟูคอยแดน เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์การกระตุ้นภูมิคุ้มกัน| NPO Research Institute of Fucoidan
- คุณประโยชน์ที่จะได้จากการทานฟูคอยแดน ผลสัมฤทธิ์-ประสิทธิภาพที่คาดหวัง | NPO Research Institute of Fucoidan
และแม้ว่าจะมีตัวช่วยดีๆ แต่อย่าลืมเรื่องการกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนอย่างพอเพียง รวมไปถึงมีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี ถึงจะมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ตราบจนถึงวาระท้ายๆ ของชีวิตนะคะ