ฟื้นฟูและเสริมสร้าง ระบบเผาผลาญ ในร่างกายคุณด้วย 8 วิธีง่ายๆ
เมื่ออาหารเป็นอันดับหนึ่งในปัจจัยสี่ของการดํารงชีวิต ระบบย่อยอาหารและ ระบบเผาผลาญ อาหารในฐานะผู้จัดการอาหารตั้งแต่เข้าปากจนขับถ่ายจึงมีส่วนกําหนดสุขภาพของเราไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
และเราก็มีเคล็ดลับการกินที่จะช่วยให้ระบบย่อยแข็งแรง ระบบเผาผลาญทํางานเป็นเลิศให้คุณผู้อ่านเอาไว้ดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรคและไม่มีปัญหาห่วงยางมาคอยบั่นทอนความมั่นใจ มาดูกันเลยค่ะ
-
ไม่ลืมกินอาหารเช้า
คนที่งดอาหารเช้ามีแนวโน้มอ้วนได้มากกว่าคนที่กินอาหารเช้าถึง 4 เท่า กลุ่มผู้หญิงที่กินอาหารเช้าที่มีแคลอรีมากกว่ามื้ออื่นๆ จะลดน้ําหนักลงได้ดีกว่า และสิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ อาหารเช้าช่วยให้หิวน้อยตลอดวัน
-
ต่อสู้ไขมันด้วยไขมัน
จากการศึกษาพบว่า กรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น กรดไขมันโอเมก้า-3 ทําให้ร่างกายมีกระบวนการเผาผลาญพลังงานที่สูงขึ้น ช่วยให้ร่างกายกําจัดของเหลวส่วนเกิน ส่วนอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 มาก ได้แก่ ปลา โดยเฉพาะปลาทะเลน้ําลึก
-
กินอาหารไม่ขัดขาว
เพราะการกินผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการมากมาย เช่น สารฟอกสี สารพิษต่างๆ อาหารขัดขาวต่างๆ ทําให้ร่างกายต้องเผาผลาญมาก และอาจมีสารพิษตกค้างอยู่ในระบบย่อยอาหารและระบบเผาผลาญอาหารได้
-
แบ่งกินมื้อเล็กๆ
การกินอาหารวันละ 4-6 มื้อ ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญและลดน้ําหนักได้มากขึ้น คนที่ทิ้งช่วงระหว่างมื้อนานเกินไป ระบบเผาผลาญจะปรับตัวให้ทํางานช้าลงเพื่อชดเชยกับการไม่ได้กิน แต่ถ้ากินมื้อใหญ่เกินไป ระบบเผาผลาญจะทํางานเสมือนว่าคุณกําลังอดอยาก จึงเก็บแคลอรีทั้งหมดไว้เพื่อสะสมเป็นเสบียงยามขาดแคลน ทําให้อ้วนขึ้นได้
คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป
5. ดื่มน้ำให้พอ
หากดื่มน้ําน้อยเกินไป ระบบเผาผลาญจะลดลงเหมือนการขาดอาหาร โดยตับจะเก็บน้ําไว้แทนที่จะใช้ไปในการเผาผลาญไขมัน เพราะเป็นตัวช่วยในการไหลเวียนและการดูดซึมของสารอาหารต่างๆในร่างกายผ่านเลือด เมื่อดื่มน้ําเพียงพอ การไหลเวียนเลือดจะดี ส่งผลให้การเผาผลาญพลังงานดีขึ้นด้วย
6. เลี่ยงอาหารไขมันสูง
ไขมันเป็นอาหารที่ทําให้ระบบเผาผลาญอาหารทํางานช้า เนื่องจากร่างกายเผาผลาญไขมันได้ช้าที่สุด ใช้เวลาในการย่อยและดูดซึมนานประมาณ 6-8 ชั่วโมง ถ้ากินอาหารที่มีไขมันมาก ร่างกายต้องเผาผลาญนาน ก็เท่ากับไปเร่งให้ระบบเผาผลาญเสื่อมลง เมื่อการเผาผลาญไม่ดีก็จะเหลือพลังงานส่วนเกินให้ร่างกายต้องเก็บไว้ในรูปไขมันตามอวัยวะต่างๆ มากขึ้น
7. เลี่ยงน้ำตาลและของหวาน
มีการศึกษาพบว่า การกินน้ําตาลและของหวานในปริมาณมากเป็นประจําเป็นตัวส่งเสริมให้ระบบเผาผลาญอาหารเก็บสะสมไขมันมากกว่าจะเผาผลาญไขมันออกมาใช้ ทําให้น้ําหนักเพิ่มขึ้น
8. กินผัก ธัญพืช และผลไม้ไม่หวาน
การกินผักโดยเฉพาะผักสด ช่วยให้การเผาผลาญดีขึ้นได้เนื่องจากผักสดมีเอนไซม์และวิตามินที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงาน นอกจากนี้ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น ถั่วต่างๆ ก็ไม่ทําให้น้ําตาลในเลือดสูงขึ้น สําหรับอาหารว่าง แนะนําผลไม้ที่รสไม่หวานเป็นอาหารว่างในช่วงระหว่างมื้อต่างๆ หรือตอนเช้า เป็นการเพิ่มใยอาหารที่มีประโยชน์พร้อมกับให้ความสดชื่น
ทำได้ 8 วิธีนี้ รับรอง ระบบเผาผลาญดีเยี่ยม รักษารูปร่างได้แน่นอน
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 315