ศูนย์เผยแผ่มรดกธรรม พระโพธิญาณเถร

ตามรอยหลวงปู่ชา ที่ ศูนย์เผยแผ่มรดกธรรม พระโพธิญาณเถร

ใครจะคาดคิดว่า ในกรุงเทพมหานคร เมืองที่ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายยังมีสถานปฏิบัติธรรมที่แสนสงบซ่อนตัวอยู่ อย่าง ศูนย์เผยแผ่มรดกธรรม พระโพธิญาณเถร แห่งนี้

ศูนย์เผยแผ่มรดกธรรม พระโพธิญาณเถร(ชาสุภทฺโท)เป็นศูนย์ย่อยของวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี จึงจัดสถานที่ให้แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสงบร่มเย็นเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม เน้นการปฏิบัติฝึกหัดกาย วาจา ใจ ให้มีสติรู้ตัวทั่วพร้อมและเรียบง่ายตามวัตรปฏิบัติของพระธุดงค์ ดังคำกล่าวของหลวงปู่ชาที่ว่า

“สิ่งที่ติดตามเราเรียกว่าสติ ความระลึกได้ สัมปชัญญะ ความรู้ตัว เราจะพูดอะไร จะทำอะไร จะไปนั่น จะมานี่จะไปบิณฑบาตก็ดี จะฉันจังหันก็ดี จะล้างบาตรก็ดี ก็ให้รู้จักเรื่องของมัน ให้มีสติอยู่เสมอ ติดตามมันไป ให้ทำอยู่อย่างนี้”

ศูนย์แห่งนี้ไม่เรียกเก็บเงินหรือค่าทำนุบำรุงศูนย์จากผู้เข้าปฏิบัติธรรมแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มและอาหารจากผู้มีจิตศรัทธามาให้บริการ นอกจากนั้นที่นี่ยังแตกต่างจากศูนย์ปฏิบัติธรรมทั่วไปตรงที่ เปิดกว้างให้ผู้พิการทางด้านสายตาได้เข้าไปปฏิบัติธรรมในหลักสูตรเดียวกับคนทั่วไปด้วย

ระเบียบปฏิบัติ

1. โทรศัพท์แจ้งความจำนงว่าจะมาปฏิบัติธรรมวันใด ศูนย์แห่งนี้เปิดให้เข้ามาฝึกปฏิบัติธรรมเพียงเดือนละ 1 ครั้ง ทุกวันเสาร์ต้นเดือน ตั้งแต่เวลา 6.30 น. – 18.30 น.

2. แต่งกายด้วยชุดขาวสำหรับปฏิบัติธรรมหรือชุดสุภาพเรียบร้อยเหมาะสม สีสันไม่ฉูดฉาด

3. งดใช้เสียง รวมถึงปิดเครื่องมือสื่อสารทุกประเภท

4. ปฏิบัติธรรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

คลิกเลข 2 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป

กิจวัตรปฏิบัติธรรม

กิจกรรมแรกของวันจะเริ่มต้นด้วยการตักบาตรพระสงฆ์ ควรมาก่อนเวลา 7.00 น.แล้วนำอาหารที่จะถวายไปวางบนโต๊ะรวมจากนั้นผู้ปฏิบัติธรรมช่วยกันวางเรียงอาสนะให้เรียบร้อย แล้วจึงเริ่มทำวัตรเช้า กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีล 5 กล่าวคำถวายสังฆทาน และกล่าวสัมโมทนียกถา

เวลาประมาณ 9.00 น. พระสงฆ์ในศูนย์แห่งนี้จะมารับอาหารบิณฑบาต (พระสงฆ์ทุกรูปเป็นพระจากวัดสาขาของวัดหนองป่าพง ซึ่งเป็นพระสายวัดป่า ฉันอาหารเพียงวันละหนึ่งมื้อ) จากนั้นแม่ชีจะมารับอาหารบิณฑบาต ต่อด้วยผู้ปฏิบัติธรรมที่ถือศีล 8 ผู้ปฏิบัติธรรมที่เป็นผู้สูงวัย และผู้ปฏิบัติธรรมวัยหนุ่มสาวตามลำดับ

หลังรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย พระสงฆ์จะแสดงพระธรรมเทศนา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการดำรงชีวิตด้วยจิตใจที่สงบเป็นสุข จากนั้นท่านจะนำเดินจงกรม ต่อด้วยการนั่งสมาธิภาวนา

เวลาประมาณ 15.30 น. คือช่วงถาม - ตอบปัญหาธรรมะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้ปฏิบัติธรรมรอคอยมากที่สุด เวลา 17.00 น.พระสงฆ์จะนำสวดมนต์ทำวัตรเย็น และเสร็จสิ้นกิจกรรมทั้งหมดในเวลาประมาณ18.30 น.

ความเรียบง่าย สบายกาย สบายใจ นำไปสู่ความสุขสูงสุดในชีวิตได้อย่างไรอยากรู้ต้องลองพิสูจน์ด้วยตนเอง

หลวงปู่ชาแนะวิธีปฏิบัติดังนี้

“จงหายใจเข้า หายใจออก อยู่อย่างนี้แหละอย่าใส่ใจกับอะไรทั้งนั้น ใครจะยืนเอาก้นขึ้นฟ้าก็ช่าง อย่าไปเอาใจใส่ อยู่แต่กับลมหายใจเข้าออก ให้ความรู้สึกกำหนดอยู่กับลมหายใจ ทำอยู่อย่างนี้แหละ…ไม่ไปเอาอะไรอื่น ไม่ต้องคิดว่าจะเอานั่นเอานี่ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น…ให้รู้จักแต่ลมเข้า…ลมออก…ลมเข้า…ลมออก…พุท เข้า โธ ออก อยู่กับลมหายใจอย่างนี้แหละ เอาอันนี้เป็นอารมณ์ ให้ทำอยู่อย่างนี้จนกระทั่งลมเข้าก็รู้จัก ลมออกก็รู้จัก ลมเข้าก็รู้จัก ลมออกก็รู้จัก ให้รู้จักอยู่อย่างนั้นจนจิตสงบหมดความรำคาญ ไม่ฟุ้งซ่านไปไหนทั้งนั้น ให้มีแต่ลมออกลมเข้า ลมออก ลมเข้าอยู่อย่างนั้น ให้มันเป็นอยู่อย่างนี้ยังไม่ต้องมีจุดหมายอะไรหรอก นี่แหละเบื้องแรกของการปฏิบัติ”

ศูนย์เผยแผ่มรดกธรรม พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) ตั้งอยู่ที่ 272 ซอยรามอินทรา 61 แยก 12 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ  เปิดทุกวันพุธ – อาทิตย์ 9.00 -17.00 น. เป็นศูนย์รวมมรดกธรรมของหลวงปู่ชา มีการอบรมการปฏิบัติธรรมทุกเสาร์แรกของเดือน โดยมีพระเถระ 2 รูป คอยชี้แนะ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

www.watnongpahpong.org

โทรศัพท์ 02 945 7611


เรื่อง ชลธิชา แสงใสแก้ว ภาพ วรวุฒิ วิชาธร

Posted in MIND
BACK
TO TOP
cheewajitmedia
Writer

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.