วิตามิน ป้องกันผิวหมองคล้ำ อาการเบลอ จิตตก ไม่สดชื่น
วิตามิน มีประโยชน์มากมาย เช่น บำรุงสมอง และสร้างเกราะป้องกันผิว หน้าตาหมองคล้ำ เบลอๆ ไม่สดชื่น ไร้พลัง ความเครียด จิตตก สุขภาพหรืออารมณ์ไม่คงที่
หลายคนอาจคิดว่าภาวะเหล่านี้มีสาเหตุมาจากนิสัยพื้นฐาน ระดับฮอร์โมน หรืออายุที่มากขึ้น แต่มนุษย์เงินเดือนวัยทำงานหนุ่มสาวคงปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเราก็มีอาการเหล่านี้เหมือนกัน
โดยสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือไลฟสไตล์ที่สุดโต่ง ทำให้สมองของคุณใช้งานมากเกินไป ความเหนื่อยล้าอาจจะทำให้คุณมีปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตที่เหนื่อยมากเกินไป การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สดชื่น การปาร์ตี้ดื่มเหล้าหนัก ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนมากเกินไป ฯลฯ
นายแพทย์ไพศิษฐ์ ตระกูลก้องสมุท ที่ปรึกษาด้านเวชศาสตร์ ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ บริษัทเนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ (N Health) กล่าวว่า “การดูตัวเองให้ดีโดยไม่ต้องอยู่ในภาวะเหล่านี้ ทำได้หลายแบบ แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ ทั้งระบบของร่างกายแล้วควรดูแลลึกลงไปถึงระดับเซลล์ซึ่งเป็นที่เก็บความลับ เกี่ยวกับสุขภาพและการมีชีวิตที่ยืนยาวของเราทุกคน ทั้งยังมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับผิวพรรณ ระบบภูมิคุ้มกัน การเคลื่อนไหว และหน้าที่ทุกอย่างในร่างกาย หากเซลล์ทำงานได้ดี ร่างกายย่อมทำงานได้ดีไปด้วย หากเซลล์เสื่อมสภาพย่อมจะส่งผลให้ร่างกายแก่ชรา เกิดโรคแห่งความเสื่อมตามมา ดังนั้น การป้องกันความเสื่อมของเซลล์คือการป้องกันโรคนั่นเอง”
อนุมูลอิสระตัวการทำร่างกายเสื่อม
ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ คือกินอาหารแคลอรี่สูง ปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูงพวกทอดปิ้งย่าง บุหรี่ แอลกอฮอล์ ควันพิษ ยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนในอาหาร แสงแดด ความเครียด อนุมูลอิสระถือได้ว่าเป็นต้นตอของปัญหาที่เลวร้าย เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง อัลไซเมอร์ พาร์คินสัน ต้อกระจก
โดยธรรมชาติร่างกายเรามีสารต้านอนุมูลอิสระหรือแอนตี้ออกซิเดนท์ (antioxidants) ทำหน้าที่คอยต่อสู้กับอนุมูลอิสระ ไม่ให้มันออกอาละวาดทำลายเซลล์ในร่างกายของเรา แต่เมื่ออายุมากขึ้นสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติทั้งซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส และ คาทาเลส ที่ร่างกายสร้างลดน้อยลง ร่างกายจึงมีแนวโน้มที่จะมีอนุมูลอิสระล้นกลายเป็นที่สะสมของสารอนุมูลอิสระ
ดังนั้น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องหันมากินวิตามินกันมากขึ้น โดยเฉพาะวิตามินเสริมที่ได้จากธรรมชาติ อาหาร ผักผลไม้ ฯลฯ
ทำไมเราต้องกินวิตามิน
- ทดแทนสิ่งที่เราอาจได้ไม่เพียงพอ พฤติกรรมการกินอาหารของคนส่วนใหญ่ชอบทานแป้งและขนม ทำให้ทานผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์น้อยลง ทำให้มีโอกาสขาดวิตามินสำคัญๆ หลายชนิด เช่น ขาดวิตามินเอ ในด้านของผิวพรรณนั้น วิตามินเอ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่, ลดอาการอักเสบของผิว, ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ วิตามินเอจะมีชื่อเสียงในเรื่องของการลดสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ ในอุตสาหกรรมเวชสำอางค์ จึงได้นำวิตามินเอมาผสมทั้งครีม, แป้ง และผลิตภัณฑ์อีกหลาย ๆ ตัว อาหารที่มีวิตามินเอโดยธรรมชาติ อยู่ในผักใบเขียว ใบเหลือง ปลา มะเขือเทศ แครอท เป็นต้น
- ใช้เพื่อรักษาโรค เช่น วิตามินซี เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ และปลอดภัยมากที่สุดชนิดหนึ่ง ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างเองได้ เราจึงควรได้รับจากอาหารเสริมเข้าไป และไม่ต้องกังวลเรื่องการตกค้างภายในร่างกาย เพราะวิตามินซีนั้นสามารถละลายได้ในน้ำ เมื่อเข้าสู่ร่างกายก็จะละลาย และดึงเอาประโยชน์ไปใช้ หลังจากนั้นก็ถูกขับออกจากร่างกาย ในรูปแบบของการขับถ่ายภายใน 24 ชม. วิตามินซีจึงปลอดภัยกับร่างกาย นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคหวัดได้ดี ลดอาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจ เสริมสร้างกระดูกและฟัน และต่อต้านสารก่อมะเร็งได้เป็นอย่างดี ส่วนในด้านของผิวพรรณ วิตามินซี มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ควบคุมคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดธาตุเหล็กให้อยู่ในระดับที่พอดีในลำใส้ เพื่อที่ร่างกายจะได้ดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น อาหารที่มีวิตามินซีโดยธรรมชาติ คือ ผักใบเขียว และผลไม้รสเปรี้ยวต่าง ๆ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ แคนตาลูป มันฝรั่ง มะเขือเทศ และพริกไทย เป็นต้น
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอี เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย และต้องได้รับทุกวัน ละลายได้ดีในไขมัน เช่นเดียวกับวิตามินเอ มีหน้าที่สำคัญในการขยายหลอดลม และเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด วิตามินอี ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญอีกตัวหนึ่งที่ช่วยยับยั้งการเสื่อมของเยื่อหุ้มเซลล์ และป้องกันเซลล์ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระ และทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านของผิวพรรณ วิตามินอี จะช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยไหม้จากแดด และรอยแผลเป็นได้ดี และยังเป็นไขมันดีที่เข้าไปให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น และด้วยสรรพคุณที่เข้าไปทำให้ระบบไหลเวียนเลือดได้ดีขึ้น จึงทำให้ให้ผิวดูมีเลือดฝาด และดูสุขภาพดีอีกด้วย อาหารที่มีวิตามินอีโดยธรรมชาติ คือ มะเขือเทศ (มีวิตามินอีสูง) ถั่ว ปลา จมูกข้าวสาลี ขนมปังโฮลวีต ในน้ำมันพืช และผักใบเขียว เป็นต้น
ประโยชน์ด้านการทำงาน
- วิตามินบี1 ช่วยกระตุ้นการทำงานของประสาท
- วิตามินบี2 ช่วยสร้างพลังงานภายในเซลล์
- วิตามินบี6 ช่วยควบคุมอารมณ์
- วิตามินบี9 ช่วยเรื่องระบบการรับรู้ อารมณ์ และความรู้สึกในสมอง
- วิตามินบี12 ช่วยเรื่องความจำ
ประโยชน์ด้านการดูแลร่างกายและเกราะป้องกันผิว
- วิตามินเอ สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดจุดด่างดำและการเกิดสิว
- ไลโคปีน ป้องกันผิวไหม้จากแสงแดด และช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
- โคเอนไซม์ หรือ คิวเทน ช่วยฟื้นฟูความสดใสให้แก่ผิว
- ซีลีเนียม ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของกลูตาไธโอน และช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิว
- วิตามินซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการเกิดริ้วรอย และช่วยสังเคราะห์คอลลาเจนเพิ่มความเต่งตึงให้แก่ผิว
- วิตามินอี ช่วยเพิ่มความชุ่นชื้นและเรียบเนียนให้แก่ผิว ลดจุดด่างดำและริ้วรอยก่อนวัยอันควร
- วิตามินดี ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวและทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย
- MDA ตัวบ่งชี้ระดับสารอนุมูลอิสระภายในร่างกายว่ามีมากน้อยเพียงใด
- กลูตาไธโอน ทำหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่มีอยู่ภายในร่างกาย
นอกจากกินวิตามินจากอาหารจากธรรมชาติแล้ว การออกกำลังกาย ผักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยเสริมให้ร่างกายของเราแข็งเเรงได้เช่นกัน