กลืนกล้อง ส่องลำไส้ มีข้อดี ข้อจำกัด มีอะไรบ้าง
การตรวจลำไส้เล็กด้วยวิธี กลืนกล้อง แคปซูลจิ๋ว (Capsule Endoscopy) นับเป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ใช้ในการตรวจพยาธิสภาพ รูปร่างหน้าตาในระบบทางเดินอาหาร
ตั้งแต่ช่องปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่จนถึงทวารหนักว่า อวัยวะแต่ละส่วนมีบาดแผล มีการอักเสบ ติ่งเนื้อ หรือความผิดปกติอื่นใดหรือไม่ ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาจากการตรวจเพียงครั้งเดียว
กล้องแคปซูลจิ๋วมีรูปร่างเหมือนยาแคปซูลขนาดประมาณ 2.6 x 1.3 เซนติเมตรเท่านั้น มีน้ำหนักเบา แต่สามารถติดตั้งกล้องบันทึกภาพ หลอดแอลอีดีให้แสงสว่าง CPU บันทึกภาพและประมวลผล ตัวส่งสัญญาณ และแบตเตอรี่ไว้ด้วยกันทั้งหมด
กล้องแคปซูลจิ๋วจะเดินทางในระบบทางเดินอาหาร โดยอาศัยการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้เช่นเดียวกับอาหารทั่วไป ตลอดระยะเวลา 8 – 12 ชั่วโมง กล้องจะบันทึกภาพทั้งในแบบภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในระบบดิจิทัลไปเรื่อย ๆ (ตามการตั้งค่า) จนกระทั่งสิ้นสุดการเดินทางที่ทวารหนัก
หลังจากนั้นราว 1 – 3 วัน ผู้เข้ารับการตรวจก็จะขับถ่ายกล้องแคปซูลจิ๋วออกมากับอุจจาระ ซึ่งสามารถทิ้งได้ทันที เพราะแคปซูลนั้นจะไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก
ตลอดเวลาที่กล้องทำงาน กล้องจะส่งสัญญาณภาพที่ได้ไปยังเครื่องบันทึกข้อมูลที่ติดตั้งในลักษณะเข็มขัดคาดเอวของผู้ตรวจ เมื่อได้ภาพครบทั้งหมดแล้ว แพทย์จึงจะนำภาพและข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ประมวลผลเพื่อ ประกอบการวินิจฉัยต่อไป
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า หลายบริษัทกำลังมีการพัฒนากล้องแคปซูลจิ๋วให้สามารถเก็บตัวอย่างที่แพทย์ ต้องการตรวจมาได้พร้อม ๆ กันด้วย ซึ่งจะทำให้ลดขั้นตอน ในการตรวจไปได้อีก
ข้อดี ของการ กลืนกล้อง
ไม่ต้องวางยาสลบ ไม่เจ็บตัว ปลอดภัย ตรวจง่าย สะดวก และประหยัดเวลา ตรวจเพียงครั้งเดียวก็สามารถเห็นภาพทางเดินอาหารได้ทั้งหมด แม้กระทั่งในส่วนที่ลึกของลำไส้เล็กที่ยากต่อการตรวจซึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยวิธีอื่น การกลืนกล้องแคปซูลจิ๋วนี้ก็สามารถเก็บภาพได้ นอกจากนี้ภาพที่บันทึกได้จากกล้องแคปซูลจิ๋วเป็นภาพสี สามมิติมีความละเอียดสูง และมีจำนวนภาพต่อเนื่องมากถึง 50,000 – 80,000 ภาพ แพทย์จึงสามารถวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ
วิธีนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถตรวจลำไส้ด้วยการเอกซเรย์ การกลืนแป้ง หรือ การส่องกล้องตรวจ
การเตรียมตัวไม่ยุ่งยาก เพียงแต่งดน้ำและอาหาร ก่อนกลืนแคปซูล 12 ชั่วโมง และอาจรับประทานยาระบาย ก่อนการตรวจ เพื่อเตรียมลำไส้ให้สะอาดมากที่สุด
ข้อดีอีกส่วนของวิธีนี้ที่ต้องพูดถึงคือ ในช่วงเวลา 8 – 12 ชั่วโมง ระหว่างกลืนแคปซูลลงไปในท้อง ผู้เข้ารับการตรวจยังสามารถเคลื่อนไหวหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ หลีกเลี่ยงการก้มตัว การทำให้ร่างกายมีเหงื่อออกมาก การอยู่ใกล้สนามแม่เหล็ก ซึ่งอาจรบกวนการส่งสัญญาณของกล้อง
หลังการกลืนแคปซูลประมาณ 2 ชั่วโมง ผู้เข้ารับการตรวจสามารถรับประทานของเหลวได้ และเมื่อครบ 4 ชั่วโมงสามารถรับประทานขนมขบเคี้ยวหรืออาหารได้
ข้อด้อย
ราคาแพงมาก ปัจจุบันราคาประมาณเม็ดละ 35,000- 45,000 บาท และยังมีให้บริการในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เพียงไม่กี่แห่ง
ข้อจำกัด
ผู้มีภาวะลำไส้อุดตันจากการตีบแคบของลำไส้ ผู้เคยผ่าตัดช่องท้อง ติ่งเนื้อ หรือเนื้องอก ไม่สามารถตรวจด้วยวิธีนี้ได้ เพราะอาจมีอาการท้องอืด ปวดท้อง และ หรืออาเจียนขณะกลืนแคปซูล หรือแคปซูลติดบริเวณ ที่เป็นส่วนตีบแคบได้
ชีวจิต Tips เคล็ดลับง่าย ดูแลลำไส้ ช่วยห่างไกลจาก โรคลำไส้
ลำไส้เป็นสิ่งสำคัญ จนมีคำกล่าวที่ว่า ลำไส้เปรียบเสมือน “สมองที่สอง” เพราะหากลำไส้ป่วย ก็อาจลุกลามไปส่วนอื่นๆ ให้ป่วยตามไปด้วยง่ายๆ ดังนั้นแล้ว การ ดูแลลำไส้ ให้แข็งแรง ไม่ป่วยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ วันนี้แอดมีเทคนิคการ ดูแลลำไส้ให้แข็งแรงมาฝากกันค่ะ
ดูแลลำไส้ ทำได้ไม่ยาก
นายแพทย์วิล บัลซ์วิตซ์ ผู้เขียนหนังสือ Fiber Fueled ระบุถึงวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดี สุขภาพแข็งแรงและดูอ่อนวัย ดังนี้
- ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วหลังตื่นนอนแล้วนวดท้องเบาๆ กระตุ้นการขับถ่าย
- กินธัญพืช เช่น ลูกเดือย ข้าวโอ๊ต แมงลัก เมล็ดแฟลกซ์ ฯลฯ อย่างน้อยวันละ 3 ซ้อนโต๊ะ
- กินถั่วต่างๆอย่างน้อยวันละ 1 กำมือเป็นอาหารว่าง
- แบ่งครึ่งอาหารก่อนกิน เมื่อกินให้เคี้ยวช้าๆ แล้วจะพบว่าคุณกินอาหารน้อยลง
- กินผักผลไม้สดแทนขนมหวาน
- ดื่มชาเขียวหรือชาสมุนไพรที่ชอบอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
- ทำติดต่อกัน 1 เดือน จะช่วยให้การขับถ่ายของคุณเป็นปกติ ลดเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
บทความอื่นที่น่าสนใจ
การแช่เท้าด้วยยาจีนช่วย แก้ปวดประจำเดือน
17 วิธีตรวจ เนื้องอก ด้วยตัวเอง ฉบับสาวทำงาน
ลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำง่าย ได้ผลชัวร์
ติดตามชีวจิตได้ที่
