How to ลดไขมันในเลือด ฉบับหมอไทย

ลดไขมันในเลือด รู้กันว่ามีหลายวิธี ที่ผ่านมาชีวจิตเองก็นำเสนอหลากหลายแบบ และวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วย ลดไขมันในเลือด ได้ ด้วยอีกหนึ่งศาสตร์ใกล้ตัว นั่นก็คือ ฉบับแพทย์แผนไทย แต่ก่อนจะได้ดูว่าหมอไทยเขาแนะนำให้กินอะไร หรือทำยังไง เราไปทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่า ไขมันในเลือด หมอไทยเขามองว่ายังไง

ไขมันในเลือด ในมุมมองของหมอไทย

ครูแพทย์แผนไทย เวชกรรมไทย พิพัฒน์ แก้วอุดม วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก อธิบายว่าตามทฤษฎีการแพท์แผนไทย ภาวะไขมันในเลือดสูงเกิดจาการกระทำของเสมหะ ซึ่งเป็นธาตุน้ำ (อาโปธาตุ) มีลักษณะเป็นของเหลวไหลเวียนอาศัยธาตุดินเพื่อการคงอยู่ และอาศัยธาตุลมเพื่อการเคลื่อนที่

ธาตุน้ำ (อาโปธาตุ) มีทั้งหมด 12 ประการ คือ ปิตตัง (น้ำดี) เสมหัง (เสลด) บุพโพ (น้ำหนอง) โลหิตัง (น้ำเลือด) เสโท (น้ำเหงื่อ) อัสสุ (น้ำตา) เขโฬ (น้ำลาย) สิงฆานิกา (น้ำมูก) ลสิกา (น้ำไขข้อ) มุตตัง (น้ำปัสสาวะ) วสา (มันเหลว) และเมโท (มันข้น) 2 ชนิดสุดท้ายเป็นไขมันที่กำลังจะพูดถึง

ลดไขมันในเลือด

วสา และ เมโห เป็นไขมันที่เมื่อไปเกาะหรือสะสมอยู่มากเกินไป ที่อวัยวะใดจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น เกิดภาวะ
ไขมันพอกตับ หรือเกิดปัญหากับระบบหัวใจและหลอดเลือด ลองนึกภาพตามนะคะว่า ถ้าหลอดเลือดในร่างกาย เปรียบเหมือนสายยางที่ใช้ฉีดนำรดต้นไม้ แต่ในสายยางมีคราบสกปกเกาะอยู่ น้ำก็จะไหลได้ไม่ดี เส้นเลือดก็เป็นเช่นเดียวกัน หากมีคราบไขมันเกาะอยู่มาก เลือดก็จะไหลเวียนได้ไม่ดี เราจึงต้องควบคุมไขมันในเส้นเลือด และเป็นที่มาของ ลดไขมันในเลือด ฉบับหมอไทย

3 Steps ลดไขมันในเลือด ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย

การมี ไขมันในเลือดสูง หมายถึงภาวะที่มีความผิดปกติของการเผาผลาญไขมัน ทำให้ร่างกายมีระดับไขมันในเลือดสูงกว่าเกณฑ์ที่เหมาะสม เป็นผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง และทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดตามมา นอกจากนี้ยังอาจทำให้ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน

สาเหตุของภาวะไขมันในเลือดสูง ได้แก่

  • กรรมพันธุ์
  • การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันจากสัตว์
  • โรคของต่อมไร้ท่อบางชนิด เช่น เบาหวาน ไทรอยด์ โรคของต่อมหมวกไตบางอย่าง โรคตับ โรคไตบางชนิด
  • การรับประทานยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ ฮอร์โมนเพศ(ยาคุมกำเนิด)
  • การตั้งครรภ์
  • การดื่มแอลกอฮอล์
  • ขาดการออกกำลังกาย

ครูแพทย์แผนไทยพิพัฒน์แนะนำว่า “ต้องเอาไขมันออกก่อน ถ้าไม่เอาออกไม่หาย จะกลับไปเป็นซ้ำอีก เพราะร่างกายถูกยาคุมไว้เฉยๆ หยุดยาเมื่อไหร่น้ำตาลก็พุ่งขึ้นเหมือนเดิม เพราะไขมันไม่ได้ถูกเอาออกมา ลำไส้ยังสกปรก
ในหลอดเลือดก็ยังสกปรกเหมือนเดิมไม่หาย ต้องล้างลำไส้ให้สะอาด ระบบน้ำเหลืองก็จะดี ไขมันจะไม่ไปพอกตับ พอกม้าม”

สำหรับแนวทางการรักษาไขมันในเลือดสูงและน้ำตาลสูงด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องกินยาตลอดชีวิตมี 3 ขั้นตอน ดังนี้

Step 1 ชำระคราบไขมันในลำไส้

การกำจัดไขมันในเส้นเลือดหรือในลำไส้ ทำได้หลายวิธี ทั้งการกินอาหารเป็นยา การใช้สมุนไพรตำรับเผาผลาญไขมันในร่างกายล้างคราบไขมันในลำไส้ ซึ่งมีหลายตำรับ เช่น ยาพรหมภักตร์ ยามหาพรหมภักตร์ ยามหิทธิมหาพรหมภักตร์ รวมถึงการสวนล้างลำไส้หรือ ดีท็อกซ์ ตามการวินิจฉัยของแพทย์แผนไทย

Step 2 บำรุงร่างกาย

หลังจากวางยาตำรับชำระคราบไขมันในลำไส้เป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือ การวางยาบำรุงร่างกาย เพื่อฟื้นฟูระบบการทำงานในร่างกายให้สมดุลเป็นปกติ

Step 3 ปรับพฤติกรรม

เพื่อป้องกันไม่ให้กลับไปเป็นซ้ำอีก ผู้ป่วยต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่นงดสูบบุหรี่ ลดอาหารไขมันและของหวาน รวมถึงออกกำลังกายเป็นประจำ

ลดไขมันในเลือด

ครูแพทย์แผนไทยพิพัฒน์พูดถึงการรักษา รวมถึงการรักษาไขมันในเลือดสูงด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทย ว่า

“ทุกวันนี้มีผู้ป่วยเบาหวานมารักษาด้วยการแพทย์แผนไทยมากขึ้น โดยรักษาด้วยการวางยาถ่ายเพื่อขับไขมันออกก่อนเป็นลำดับแรก ตามด้วยการวางยาบำรุงให้เหมาะสมกับคนไข้ พร้อมกับแนะนำให้ปรับพฤติกรรมว่าควรกิน
อย่างไร

แต่ไม่ค่อยห้ามคนไข้เรื่องการกิน เช่น ทุเรียน เพราะการแพทย์แผนไทยบอกว่า ทุเรียนมีรสหวานร้อน คนไข้ที่มารักษาสามารถกินทุเรียนได้ แต่แนะนำให้กินสมุนไพรที่มีรสขมตามเข้าไป น้ำตาลก็จะไม่ขึ้น หมั่นออกกำลังกาย จึงทำให้การรักษาได้ผลเป็นที่น่าพอใจ”

เปิดตำรับยาไทย ลดไขมันในเลือด บำรุงร่างกาย

ครูแพทย์แผนไทยพิพัฒน์อธิบายว่า ยาที่ใช้รักษาอาการไขมันสูงมีบันทึกอยู่ในพระคัมภีร์ธาตุบรรจบ และคัมภีร์วรโยคสาร ว่าด้วยเรื่องอุจจาระธาตุ เป็นตำรับช่วยชำระล้างคราบไขมันที่สะสมอยู่ภายในลำไส้ ช่วยให้ขับออกมากับอุจจาระ ปัสสาวะ หรือเหงื่อ และช่วยการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ไขมัน (วสาและเมโท) เป็นธาตุน้ำ ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยเครื่องยาประจำธาตุน้ำคือ รสเปรี้ยว รสขม และรสเมาเบื่อ ดังนั้นโครงสร้างของยาตำรับนี้จึงประกอบด้วยสมุนไพรทั้ง 3 รส คือ

  • สมุนไพรรสเปรี้ยว มีสรรพคุณช่วยชำระล้างไขมัน เช่น ตรีผลา
  • สมุนไพรรสขม มีสรรพคุณช่วยรักษาเกี่ยวกับอุระเสมหะ (นำดี นำย่อย) ช่วยให้ตับผลิตน้ำดีออกมาช่วยย่อยไขมัน ช่วยฟอกเลือดให้สะอาด เช่น บอระเพ็ด สะเดา เพกา มะระ
  • สมุนไพรรสเมาเบื่อ มีสรรพคุณช่วยแก้พิษรักษากี่ยวกับคูถเสมหะ ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ เช่น กลอย บุก ชุมเห็ดเทศ ขี้เหล็ก

เมื่อนำสมุนไพรทั้ง 3 รสมาใช้ร่วมกับสมุนไพรรสเผ็ดร้อน จะทำให้ลมเคลื่อนไหวช่วยในการขับของเสียออกมาภายนอกร่างกาย และขั้นตอนสุดท้ายจึงวางยาบำรุงร่างกาย

นอกจากเรื่องของตำรับยาแล้ว ยังมีผลการศึกษายืนยันว่า ผักพื้นบ้านรสขม รสเปรี้ยว และรสเผ็ดร้อนหลายชนิดที่หาง่ายในท้องถิ่น แถมมีราคาถูก ปลูกง่าย ช่วยลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้การกินผักพื้นบ้าน หรือนำมาใช้ตามภูมิปัญญาหมอพื้นบ้าน เป็นตัวช่วยที่ดีอีกทางเลือกหนึ่งในการลดภาวะไขมันในเลือดสูง

สูตรลับสมุนไพร ลดไขมันในเลือด

กระเจี๊ยบแดง ฤทธิ์แรง ลดไขมัน ฟอกเลือด

ส่วนที่ใช้คือกลีบเลี้ยงของดอก หรือกลีบที่ติดอยู่ที่ผล

ลดไขมันในเลือด

สรรพคุณทางยา ลดคอเลสเตอรอล ลดความหนืดของเลือด และเป็นยาบำรุง ลดความดันโลหิต สูง นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบายท้อง เป็นยาขับปัสสาวะ


ส่วนประกอบ

กลีบเลี้ยงดอกกระเจี๊ยบสด10 ดอก
น้ำ 1 ลิตร

วิธีทำ
ต้มกลีบเลี้ยงดอกกระเจี๊ยบสดกับน้ำเดือด 15-20 นาที

วิธีรับประทาน

ดื่มแทนน้ำติดต่อกันนาน 5 วัน ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ฟอกเลือด ขับปัสสาวะ

มะระขึ้นก จิ๋วแต่แจ๋ว บำรุงน้ำดี ช่วยย่อยไขมัน

ส่วนที่ใช้ ราก เถา ใบ ดอก ผล และเมล็ดสดหรือแห้ง

สรรพคุณทางยา มะระขึ้นกมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ พบว่าเมื่อรับประทานมะระขึ้นกติดต่อกัน 10 สัปดาห์ ช่วยลดดภาวะคอเสสเตอรอลและไขมันได้

ลดไขมันในเลือด

การใช้ประโยชน์ตามภูมิปัญญาหมอพื้นบ้าน

  • ใบ ใบสดมีรสขม ลวกหรือต้มกินเป็นยาฟอกโลหิต ยาระบาย ช่วยเจริญอาหาร หรือไร้ใบแห้งนำมาบดให้ ละเอียดผสมน้ำกินเป็นยาขับลม บำรุงธาตุ
  • ผล สดรสขมจัดนำมาต้มหรือประกอบอาหาร มีคุณด่าในการช่วยบำบัดโรคเบาหวาน บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร แก้ตับม้ามอักเสบ เป็นยาระบายอ่อนๆ

สูตร 1 ลดไขมันในเลือด
ส่วนประกอบ

ต้นมะระขึ้นก 1 กำมือ
น้ำเปล่า 2 ลิตร

วิธีทำ ใช้ส่วนต้นล้างแล้วสับเป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้ว ต้มกับน้ำเดือดนานประมาณ 15-20 นาที

วิธีรับประทาน ดื่มครั้งละ 1 แก้ว ก่อนอาหาร วันละ 2 เวลา เช้า-เย็น รับประทานติดต่อกัน 15 วัน

สูตร 2 บำรุงน้ำดี ช่วยย่อยไขมัน

วิธีรับประทาน ใช้ยอดอ่อนหรือผลอ่อน กินสด หรือลวกจิ้มน้ำพริกเป็นผักเคียง มื้อละ 5-10 ผล รับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน 3 วัน

ข้อควรระวัง ห้ามกินเมล็ดของผลสุกสีแดง เพราะเมล็ดมีพิษอาจถึงเสียชีวิตได้

บทความอื่นที่น่าสนใจ

โปรแกรมช่วย ชะลอวัย ลดไขมันในเลือด

อาหารลดไขมันในเลือด ล้างหลอดเลือด

เต้าทึง ประโยชน์มากช่วยบำรุงทั่วร่าง แถมลดไขมัน ความดัน

ติดตามชีวจิตได้ที่ :

Facebook : นิตยสารชีวจิต
Instagram : Cheewajitmedia
TikTok : cheewajitmediaofficial

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.