กิน น้ำมันหมู มากไป ทำสุขภาพพัง
น้ำมันหมู มีข้อดีหลายประการ คือ เป็นน้ำมันที่ช่วยทำให้กลิ่นและรสของอาหารอร่อยขึ้น แถมเมื่อนำไปทอดแล้ว จะทำให้อาหารกรอบนาน และที่สำคัญคือ คนให้ความสำคัญกับวิธีทำที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการทางเคมีมากนัก แค่เจียวโดยใช้ความร้อนก็ได้น้ำมันหมูนำมาใช้ประกอบอาหารแล้ว
แต่ในแง่โภชนาการนั้น น้ำมันหมูก็คือ น้ำมันชนิดหนึ่งที่ น้ำหนัก 1 กรัม ให้พลังงงานถึง 9 กิโลแคลอรี ดังนั้นการกินปริมาณมากเกินย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพแน่นอน นอกจากนี้ เราต้องเฝ้าระวังจากการกินน้ำมันหมูบ้าง ชีวจิต มีข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง
น้ำมันหมูมีไขมันมันอิ่มสูง
หากพูดถึงน้ำมัน เราจะนึกถึงกรดไขมันขึ้นมาทันที ดร.แกรี่ นัล อธิบายเรื่อง ไขมันในอาหาร ในหนังสือ กินดีเพื่ออยู่ดีว่า อาหารชนิดต่างๆ นั้นมีกรดไขมันอยู่ 2 ชนิด คือ ไขมันอิ่มตัวและไขมันไม่อิ่มตัว
ไขมันอิ่มตัว พบมากในอาหารที่มาจากสัตว์ ถ้านำมาวางในอุณหภูมิห้องก็จะอยู่ในสภาพแข็ง ไขมันมันอิ่มตัวที่รู้จักกันดี เช่น น้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว ไขมันจากเนื้อไก เนื้อหมู เนื้อวัว
ไขมันไม่อิ่มตัว พบมากในธัญพืชประเภทข้าว ถั่วฝักอ่อน เมล็ดพืช ถั่วเปลือกแข็ง จะอยู่ในสภาพของเหลวที่อุณหภูมิห้อง ที่เรารู้จักกันเช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดทานตะวัน
ในน้ำมันทุกชนิดมีทั้งไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัวรวมกันอยู่ หากชนิดไหนมีปริมาณไขมันอิ่มตัวมากกว่าก็จะจำแนกอยู่ในกลุ่มอาหารไขมันอิ่มตัว ชนิดไหนมีปริมาณไขมันไม่อิ่มตัวสูงกว่าก็จะจำแนกอยู่ในกลุ่มอาหารไขมันไม่อิ่มตัว
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ในหน้าถัดไป
ไขมันอิ่มตัวก่อโรคหัวใจ
นายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจ หลอดเลือดและทรวงอก ได้อธิบายถึงงานวิจัยเรื่องการกินอาหารที่มีไขมันต่อการเกิดโรคใน บทความ จะใช้น้ำมันอะไร ปรุงอาหารดีสรุปว่า
งานวิจัยของวิทยาลัยการแพทย์ฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของผู้หญิงอายุระหว่าง 34-59 ปี ที่มีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ มะเร็งและเบาหวาน จำนวน 80,082 คน เป็นเวลา 14 ปี จึงได้พบผู้ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ จำนวน 939 คน
เมื่อวิเคราะห์ชนิดอาหารให้พลังงานที่คนเหล่านั้นกิน เปรียบเทียบผลของไขมันที่ให้พลังงานชนิดต่างๆ โดยนำพลังงานที่ได้จากคาร์โบไฮเดรตเป็นตัวตั้ง เทียบกับอัตราป่วยแลเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจเรียงตามชนิดไขมันที่ก่อโรคจากมากไปหาน้อย พบข้อมูลดังนี้
1.ไขมันทรานส์ พบใน เนยเทียม ครีมเทียม เป็นไขมันที่ก่อโรคมากที่สุด
2.ไขมันอิ่มตัว พบใน น้ำมันหมู น้ำมันวัว เนยแท้ เป็นไขมันที่ก่อโรครองลงมา
3.ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว พบใน น้ำมันมะกอก เป็นไขมันก่อโรคน้อย
นอกจากนี้ หนังสือ ลดคอเลสเตอรอลใน 12 สัปดาห์ ของ บริษัทรีดเดอร์ส ไดเจสท์ (ประเทศไทย) ยังอธิบายต่อว่า
การทำงานของผนังหลอดเลือดมีความไวต่อไขมันอิ่มตัวสูงมาก การกินอาหารที่อุดมด้วยไขมันอิ่มตัวสูงเพียงมื้อเดียว สามารถทำให้ผนังหลอดเลือดหยุดทำงานชั่วคราวเกือบครึ่งหนึ่ง ดังนั้นควรลดการบริโภคไขมันอิ่มตัว
คุณหมอสันต์ สรุปว่า ในแง่ของการกินน้ำมันไม่ก่อโรค น้ำมันมะกอกจึงเหมาะแก่การบริโภค ขณะที่ไขมันอิ่มตัวที่พบในน้ำมันหมู และไขมันทรานส์ เช่น เนยเทียม ไม่เหมาะแก่การบริโภค
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ในหน้าถัดไป
ไขมันอิ่มตัวเพิ่มคอลเลสเตอรอลตัวร้าย
หนังสือ ลดคอเลสเตอรอลใน 12 สัปดาห์ ของ บริษัทรีดเดอร์ส ไดเจสท์ (ประเทศไทย) ยังอธิบายต่อว่า
ไขมันอิ่มตัวจะแข็งตัวที่อุณหภูมิห้อง ให้นึกภาพไขที่จับตัวกันเป็นก้อนก่อนที่เราจะใส่มันลงในกระทะ ไขมันชนิดนี้เพิ่มปริมาณ คอเลสเตอรอลชนิด แอลดีแอลซึ่งเป็นตัวทำร้ายสุขภาพ
ดังนั้น การกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการหัวใจพิบัติหรือหลอดเลือดสมองตีบ แตก ได้หากคุณเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว เพราะไขมันอิ่มตัวจากอาหารจะไปเพิ่มไตรกลีเซอไรด์ และลดการผลิตสารไนตริกออกไซด์ ซึ่งสารชนิดนี้มีผลต่อการทำงานของหลอดเลือดใหญ่
ไขมันอิ่มตัวย่อยยาก ทำอ่อนเพลีย
เพราะอาหารทอดด้วยน้ำมันหมูนั้นมีความกรอบอร่อย ทำให้หลายคนติดใจ เรียกร้องให้ทอดอาหารด้วยน้ำมันหมูอยู่ร่ำไป ซึ่ง ดร.แกรี่ นัล อธิบายผลเสียจากอาหารทอดน้ำมันท่วมว่า
การกินอาหารทอดบ่อยๆ จะทำให้การทำงานของลำไส้ผิดปกติ เช่น เกิดอาการลำไส้บวม ลำไส้ใหญ่เกร็งและหดตัวผิดปกติ หรือการระคายเคืองอื่นๆ นอกจากนี้ ไขมันที่ทำให้ร้อนแล้วจะย่อยได้ช้าลง ยิ่งผ่านความร้อนนานเท่าไร น้ำย่อยและเอนไซม์ในกระเพาะอาหารและลำไส้ก็จะใช้เวลาย่อยนานขึ้นเท่านั้นทั้งนี้ไขมันไม่อิ่มตัวจะย่อยง่ายกว่าไขมันชนิดอื่น
นอกจากนี้เมื่อคุณกินอาหารที่มีไขมันมากๆเข้าไปแล้วจะรู้สึกไม่ค่อยมีแรง เพราะพลังงานจะถูกดึงไปใช้ในการย่อยอาหาร การเก็บสำรองพลังงงาน การดูดซึม และการกำจัดของเสียในร่างกาย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องใช้เวลานานมาก
มาถึงบรรทัดนี้ เราขอย้ำว่า การกินอาหารให้สมดุล หลากหลาย และเป็นธรรมชาติคือหัวใจของการสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ดังนั้น หากเป็นไปได้ เลี่ยงอาหารทอดน้ำมันท่วม ใช้น้ำมันในการปรุงอาหารในปริมาณที่เหมาะสมน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดค่ะ
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต