แอโรบิค สำคัญอย่างไร
แอโรบิค ไม่ใช่แค่เร่งเฟิร์ม แต่ยังมีสารพัดประโยชน์ต่อสุขภาพ
ร่างกายมนุษย์ได้รับการออกแบบมาให้เคลื่อนไหว ตั้งแต่เซลล์กล้ามเนื้อที่ห่อหุ้มกระดูก สมอง จนกระทั่งอวัยวะทุกส่วน ฉะนั้นคําแนะนําและแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดในการออกกําลังกายแบบแอโรบิคคือ วางถุงขนมแล้วออกไปเดินหรือวิ่งนอกบ้านให้เหงื่อโซมกาย ใจเต้นแรง ซึ่งจะทําให้คุณรู้สึกสดชื่นและอยากทําแบบนี้ในวันอื่นๆ อีก
แต่หากจะต้องพูดถึงหลักการเข้มๆ รับรองประโยชน์ เรามีคำตอบจาก คุณหมอวอนด้า-วอนด้า ไรท์ ผู้เขียนหนังสือ Fitness After 40 มาบอก
สารพัดประโยชน์จากแอโรบิค
1.เสริมสร้างระบบการไหลเวียนโลหิต
งานวิจัยยืนยันว่า คนที่ชอบเคลื่อนไหวจะมีอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรน้อยกว่าคนที่ชอบนั่งๆ นอนๆ การออกกําลังกายเพิ่มอัตราการปั๊มเลือดไปเลี้ยงหัวใจและเลือดที่ออกจากหัวใจ ขณะเดียวกันก็เพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ
2.ลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน
เพราะการออกกําลังกายช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดี จึงลดอัตราการเกิดโรคเบาหวานลงได้ถึง ร้อยละ 30-40 นอกจากนี้ ยังลดอัตราการตายด้วยโรคหัวใจในผู้ป่วยเบาหวานร้อยละ 40-50
3.ลดความดันโลหิต
มีงานวิจัยมากมายรับรองเรื่องการออกกําลังกายช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งการศึกษาเหล่านี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับความดันโลหิตเดี่ยวๆ ไม่เกี่ยวกับโรคหัวใจหรือโรคเบาหวาน
4.เสริมสร้างการทํางานของสมอง
เพราะเมื่อร่างกายเคลื่อนไหว สมองจะหลั่งสารที่เรียกว่า Brain Derived Neurotrophic Factor ซึ่งคืออาหารสมองอย่างหนึ่ง มีการศึกษาพบว่า คนที่ชอบเคลื่อนไหวร่างกายมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ๆ ได้ดีกว่า เชื่อว่าเป็นผลมาจากอาหารสมอง ซึ่งได้จากการออกกําลังกาย
5.พัฒนาอารมณ์
งานวิจัยของมหาวิทยาลัยมิสซูรี ยืนยันว่า การออกกําลังกายแบบแอโรบิค 30 นาที ช่วยทําให้คุณรู้สึกดีไปอีก 90 นาที เพราะการออกกําลังกายทําให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น คนที่ออกกําลังกายเป็นประจําจะไม่เครียด มีความมั่นใจในตนเอง และมีความเคารพตนเองมากกว่าคนที่ไม่ออกกําลังกาย
6.เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
การออกกําลังกายดีต่อหัวใจ ช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดทํางานดี จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ด้วย ซึ่งมีงานวิจัยยืนยันแล้วว่า ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศถึงร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับพวกที่เอาแต่นั่งๆ นอนๆ
7.ลดโอกาสการเจ็บป่วย
จากการสุ่มสํารวจผู้ที่ออกกําลังกายเป็นประจําพบว่า เจ็บไข้ได้ป่วยน้อยกว่าคนที่ไม่ออกกําลังกายถึงครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะการติดเชื้อทางเดินหายใจ
8.ป้องกันมะเร็ง
การออกกําลังกายลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมร้อยละ 60 เนื่องจากช่วยลดระดับฮอร์โมนเอสทราไดออลและโพรเจสเทอโรน ซึ่งสร้างในรังไข่และสัมพันธ์กับโรคมะเร็งเต้านม นอกจากนี้ การออกกําลังกายยังลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลําไส้ร้อยละ 40 ลดอัตราการตายจากโรคมะเร็งปากมดลูกร้อยละ 50 และหากคุณเป็นโรคมะเร็งแล้ว การออกกําลังกายยังช่วยสร้างเสริมทั้งสุขภาพกายและใจ
เริ่มออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างไรดี
เริ่มอย่างไรดี
การรเริ่มต้นออกกําลังกายแบบแอโรบิค ง่ายนิดเดียว แค่สวมรองเท้าออกกําลังกายแล้วเดินเร็วรอบบ้านหรือในสวน แต่ถ้าคุณละล้าละลัง อยากมีเรื่องราวการออกกําลังกายของตนเอง ให้เริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ประจําตัว หรือสํารวจตนเองดังนี้
1.คุณหมอเคยวินิจฉัยว่า คุณมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจ ถ้าออกกําลังกายต้องปรึกษาหมอก่อน
2.รู้สึกเจ็บหน้าอกเวลาออกกําลังกาย
3.ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีอาการเจ็บบริเวณหน้าอกขณะออกกําลังกาย
4.เคยเซ เพราะอาการมึนศีรษะหรือเป็นลมไป
5.มีอาการปวดข้อและรู้สึกแย่ลง เมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย
6.หมอจ่ายยาลดความดันโลหิตหรือยาบํารุงหัวใจให้
7.มีเหตุผลอื่นที่ทําให้ออกกําลังกายไม่ได้
มีความรู้ครบเรื่องแอโรบิคกันแล้ว ไปออกกำลังกายแบบแอโรบิคกันได้หรือยัง
บทความอื่นที่น่าสนใจ
วิธีออกกำลังกาย สำหรับวัยเกษียณ
อเล็กซ์ เรนเดล เผยเทคนิคการกิน+ออกกำลังกาย เคล็ดลับหน้าใส หุ่นฟิต อารมณ์ดีอยู่เสมอ
บริหารกล้ามเนื้อโครงสร้างกันเถอะ