กลิ่นปาก … ปัญหาใหญ่สำหรับใครหลายคน
โดยทั่วไป กลิ่นปาก เกิดจากการสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือกินอาหารกลิ่นแรงอย่างกระเทียม หัวหอม เครื่องเทศกลิ่นแรงๆ หรือสะตอ ซึ่งเป็นกลิ่นปากแบบชั่วคราว และมักจะหายไปได้ด้วยการแปรงฟัน
แต่สำหรับ อาการลมหายใจเหม็น หรือ กลิ่นปาก (bad breath) มักมีสาเหตุมาจากการแพร่กระจายของแบคทีเรียในช่องปาก ยิ่งภายในปากแห้งมากเท่าไร แบคทีเรียก็ยิ่งเติบโตได้ดีมากเท่านั้น นอกจากนี้การที่ปริมาณน้ำลายในปากลดลง อาจส่งผลให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน ทั้งนี้รวมถึงอายุที่มากขึ้น การหายใจทางปาก การลดน้ำหนัก (เมื่อคุณเคี้ยวอาหารน้อยลง ร่างกายก็ผลิตน้ำลายน้อยลง) การใช้ยาบางชนิด หลังตื่นนอนใหม่ๆ (กลิ่นปากในตอนเช้าเกิดจากร่างกายผลิตน้ำลายน้อยลงมากขณะที่เรานอนหลับ) ตลอดจนแบคทีเรียที่สะสมอยู่ตามลิ้น หรือมีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟันหรือฟันปลอม โดยเฉพาะเมื่อมีคราบหินปูนหรือโพรงในฟัน
นอกจากนี้อาจมีสาเหตุมาจากภาวะเรื้อรังจากโรคภัยต่างๆ เช่น โรคเหงือกและฟัน ไซนัสอักเสบ ทอนซิลอักเสบ โรคเกี่ยวกับปอด ระบบย่อยอาหารไม่ปกติ ระบบขับถ่ายไม่ปกติ (ท้องผูก) เป็นต้น
กิน…ขจัดกลิ่นปาก
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น หัวหอม กระเทียม สะตอ ผักดอง หรืออาหารย่อยยาก รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่ เป็นต้น
- กินส้มทุกวัน เพราะพฤกษเคมีในผลไม้จำพวกส้ม จะช่วยรักษาสมดุลแบคทีเรียในลำไส้
- กินอาหารที่มีเส้นใย โดยเฉพาะผักและผลไม้ทุกชนิด เพื่อป้องกันไม่ให้ท้องผูก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดกลิ่นปาก
- กินสาหร่าย หรือน้ำคั้นจากต้นอ่อนของข้าวสาลี เพราะมีสารคลอโรฟีลที่ช่วยระงับกลิ่นปากได้
- ดื่มน้ำคั้นจากข้าวบาเล่ย์ นอกจากจะทำหน้าที่เป็นสารฟอกเลือดแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดและป้องกันกลิ่นปากได้ด้วย จะกินพร้อมอาหารมื้อหลักหรือท้องว่างก็ได้ เพราะไม่มีกรด
- ดื่มน้ำเปล่า จะช่วยให้ภายในปากมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ซึ่งสามารถดับกลิ่นปากได้
คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป
สมุนไพรไล่กลิ่นไม่พึงประสงค์
- ใบฝรั่ง สารคลอโรฟีลในใบฝรั่งช่วยระงับกลิ่นปากได้ดี เรามีมาฝากสองสูตรค่ะ
– สูตรที่ 1 นำใบฝรั่ง 2-3 ใบมาล้างให้สะอาด นำมาเคี้ยวและคายทิ้งหลังอาหาร หรือเมื่อต้องการ
– สูตรที่ 2 หั่นใบฝรั่งเป็นฝอยพอประมาณ แล้วนำไปคั่วไฟในกระทะพอเหลือง ชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว ใช้อมหรือบ้วนปากเป็นประจำ จะช่วยระงับกลิ่นปากได้ - กานพลู ใช้ดอกตูมแห้งของกานพลู 2-3 ดอก อมไว้ในปากแล้วคายทิ้ง หรืออาจบดเป็นผงใช้อม หรือผสมในน้ำยาบ้วนปากก็ได้
- เมล็ดผักชี ก็สามารถนำมาทำน้ำยาบ้วนปาก หรือเครื่องดื่มเพื่อกลิ่นลมหายใจหอมสดชื่นได้ง่ายๆเช่นกัน โดยนำเมล็ดผักชีพอประมาณ ต้มในน้ำ 250 มิลลิลิตร ทิ้งให้เดือดสัก 2-3 นาที กรองเอาแต่น้ำแล้วทิ้งไว้ให้เย็น ใช้ดื่มหรือบ้วนปาก
- เคี้ยวหรืออมเมล็ดกระวาน ซึ่งจะช่วยสร้างกลิ่นหอม และมีคุณสมบัติในการระงับแบคทีเรียในช่องปาก
- เคี้ยวใบพาร์สลี หรือ สมุนไพรที่มีคลอโรฟีลเข้มข้นชนิดอื่น เช่น ใบโหระพา สะระแหน่
- ดื่มชาเป็ปเปอร์มินต์ ชาสเปียร์มิ้นต์ หรือ ชามะกรูด ก็ช่วยได้เช่นกัน
- น้ำมะนาว ดื่มน้ำอุ่น1 แก้ว ผสมน้ำมะนาว 1 ซีกทุกเช้าหลังตื่นนอน
ลดกลิ่น ปากด้วยน้ำมันหอมระเหย
หยดน้ำมันเป็ปเปอร์มินต์ 1-2 หยดลงบนลิ้นวันละ 2-3 ครั้ง ถ้าใช้มากกว่านี้อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร นอกจากจะมีรสชาติดี และมีกลิ่นหอมแล้ว ยังมีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรียในปากด้วย
เอนไซม์ระงับกลิ่นปาก
นำแครอท เซเลอรี พาร์สลี ผักขม พืชน้ำ หรือแตงกวา ชนิดใดชนิดหนึ่งมาคั้นน้ำดื่ม จะสามารถช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นปากได้อีกวิธีหนึ่งค่ะ (ใช้ปริมาณที่พอเหมาะ คือวันละแก้วเล็ก โดยเลือกวันละอย่าง)
วิธีสังเกตอาการมีกลิ่นปากด้วยตัวเอง
- คนที่มีกลิ่นปากมักไม่รู้สึกหรือไม่ได้กลิ่นปากตัวเอง ดังนั้นต้องสังเกตจากคนรอบข้าง เช่น อาการผงะถอย เวลาที่คุณพูดด้วย หรืออาจจะถามจากคนที่คุณไว้ใจก็ได้
- ถ้ามีเลือดออกตามไรฟัน เป็นสัญญาณของโรคเหงือกอักเสบ ที่บางครั้งอาจก่อให้เกิดกลิ่นปากได้
- รสชาติฝาดเฝื่อนในปาก อาจเป็นสัญญาณว่า ลมหายใจที่ออกจากปากอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต