รวมวิธีสร้างสุขภาพที่ดีด้วยตัวเอง เพื่อผู้การมีร่างกายที่แข็งแรงรับปีใหม่

สุขภาพที่ดีใคร ๆ ก็อยากมี แต่วิถีการใช้ชีวิตในปัจจุบันมีสิ่งยั่วยุต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน การเสพสื่อโซเชียล ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นต้นเหตุที่ทำให้สุขภาพของเราทรุดโทรมทั้งนั้น ดังนั้นผมจึงมีวิธีสร้างสุขภาพดีง่าย ๆ ที่อยากบอกต่อ โดยเฉพาะผู้สูงที่อาจต้องหันมาดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ ซึ่งเชื่อเถอะค่ะว่าหากได้ทำตามสิ่งที่เรานำมาบอกแล้วล่ะก็ รับรองเลยว่า สุขภาพจะดีขึ้นแน่นอน

ตื่นนอนแต่เช้า

พอให้ได้มองเห็นแสงอาทิตย์อ่อน ๆ ใครที่นอนตื่นสายก็ต้องฝืนใจนิดหน่อย แต่ไม่ต้องฝืนใจมากนะ เดี๋ยวจะง่วงทั้งวัน นอนบิดขี้เกียจสักพัก ลุกขึ้นาบริหารร่างกายบนเตียงก่อนสัก 5 นาที เป็นการเรียกเลือดลมให้เคลื่อนไหวหลังจากนอนนิ่ง ๆ มานานหลายชั่วโมง แล้วจึงลุกจากเตียง

การตื่นเช้าเป็นประจำอย่างต่อเนื่องโดยเข้านอนในเวลาที่ดึกเกินไป จะช่วยให้ร่างกายเกิดความคุ้นชินและสามารถตื่นขึ้นมาได้เองแบบอัตโนมัติ ให้เราไม่ต้องรู้สึกหงุดหงิดกับเสียงนาฬิกาปลุก จนต้องเอื้อมมือไปปิดแล้วเผลอหลับต่อไปจนสายอีกด้วย

ไปอาบแดดอ่อนๆ ยามเช้าสักครึ่งชั่วโมง

อาจจะไปเดินเล่น เดินจงกรม หรือขี่จักรยานรับอากาศและแสงแดดไปพร้อมกัน ช่วงเวลานี้สำคัญมากนะ เป็นช่วงเวลาแห่งการเติมพลังจากธรรมชาติ และเป็นช่วงเวลาแห่งความสงบที่เราจะได้อยู่กับตัวเอง นอกจากนี้แสงแดดยังช่วยให้อารมณ์แจ่มใสการได้รับแสงแดดอ่อนๆ จะช่วยลดฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างขึ้นจากต่อมไพเนียเพื่อควบคุมการนอนหลับ โดยเมลาโทนินนั้นจะถูกกระตุ้นด้วยความมืดและยับยั้งด้วยแสงสว่าง ดังนั้นการได้รับแสงแดดยามเช้าจึงช่วยให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าขึ้น และหายจากโรคซึมเศร้าได้อีกด้วยค่ะ

จัดเตรียมอาหารเช้าที่เป็นอาหารสุขภาพ

อาหารเช้าที่ว่าต้องไม่ใช่ขนมปังปิ้งกับกาแฟนะคะ แต่ควรเลือกเป็นผลไม้ได้ยิ่งดี อาหารเช้าต้องกินทุกวัน และเป็นมื้อปานกลางด้วย ไม่ใช่กินนิดเดียว เพราะเราต้องใช้พลังงานต่อไปอีกจนกว่าจะถึงกลางวัน จึงจะมีแรงและสมองสดชื่น

ใครๆ ก็รู้ว่าการกินอาหารเช้านั้นสำคัญ โดยเฉพาะผู้สูงวัยต้องห้ามละเลยมื้อเช้าอย่างเด็ดขด เพราะมื้เช้านี่แหละค่ะที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานได้ โดยคนที่รับประทานอาหารเช้าจะมีภาวะผิดปกติของฮอร์โมนอินซูลิน หรือที่เรียกว่าภาวะดื้อต่ออินซูลินซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานนั้นลดลงถึง 35-50% เลยทีเดียว การรับประทานอาหารเช้าอย่างสม่ำเสมออาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดสมองและโรคหัวใจได้ด้วย เพราะในตอนเช้าเลือดของเรามีความเข้มข้นสูงและทำให้เส้นเลือดที่ส่งไปเลี้ยงสมอง หรือหัวใจอุดตันได้ แต่ถ้ารับประทานอาหารเช้าเข้าไปจะช่วยให้ระดับความเข้มข้นในเลือดเจือจางลงด้วยค่ะ

อย่าทำอะไรอยู่ในท่าเดียวนานๆ

ต้องมีการเปลี่ยนอิริยาบถเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ๆ นี่สำคัญมาก เพราะชีวิตที่ดีต้องมีการเคลื่อนไหวบ่อย ๆ เลือดลมจะได้ไหลเวียนสะดวก ๆ ถ้าอยู่นิ่งนานเกินไปกล้ามเนื้อจะตึง โครงสร้างร่างกายจะผิดปกติ เกิดอาการปวดเมื่อยและนำพาโรคอื่น ๆ มาหาเราด้วย

กินอาหารกลางวันเป็นมื้อหลัก

ทั้งปริมาณอาหารและคุณค่าอาหารต้องเลือกให้เหมาะสม แต่อย่ากินมากเกินไป ไม่อย่างนั้นช่วงบ่ายจะง่วง เพราะร่างกายต้องย่อยอาหารนาน สมองจะไม่ได้รับเลือดมากเท่าเดิม อาจคิดอะไรไม่ค่อยคล่อง แต่ถ้ากินพอดีร่างกายใช้เวลาย่อยไม่นานและส่งเลือดไปเลี้ยงสมองได้ดี เราจะทำงานได้โดยไม่มีปัญหาง่วงนอน

หลังอาหารไม่ควรอยู่นิ่งเกินไป

ออกไปเดินเล่นสัก 10 นาทีให้ข้าวเรียงเม็ดเสียก่อน แต่อย่าเดินเร็ว เดี๋ยวร่างกายต้องส่งพลังงานมาเลี้ยงกล้ามเนื้อแทนที่จะไปเลี้ยงกระเพาะอาหารที่กำลังย่อยอาหารอยู่ จะทำให้การย่อยไม่เป็นปกติอีก

การฝึกจิตพร้อมการออกกำลังกาย

แบบไทยปราณ โยคะ และชี่งกนั้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะใช้สถานที่และเวลาน้อย ทำได้ทุกเวลานอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นพลังภายในให้มีการไหลเวียนมากขึ้น นับเป็นการสร้างสุขภาพที่ดีมากวิธีหนึ่ง

หมั่นสังเกตตัวเอง

ฟังสิ่งที่ร่างกายบอกแล้วพยายามแปรผลให้ได้ เพราะร่างกายจะเตือนเราด้วยสิ่งผิดปกติเสมอ และเตือนทีละน้อยก่อนจะเตือนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเราได้ยินเสียงของร่างกาย เราจะปฏิบัติตัวได้ถูกต้องมากขึ้น สุขภาพก็จะดีขึ้น เพราะธรรมชาติของร่างกายและธรรมชาติของโลกสอดคล้องกลมกลืนกัน

อย่านอนดึก เวลาที่เหมาะคือสี่ทุ่ม

ร่างกายควรได้พักผ่อนในช่วงเวลากลางคืนและตื่นขึ้นมาทำงานในช่วงเวลากลางวัน นี่เป็นธรรมชาติ เราต้องทำตัวให้สอดคล้องกับธรรมชาติ สุขภาพจึงจะแข็งแรง ใครที่มีงานเร่งในช่วงดึกก็อย่าหักโหมจนเกินเหตุ ทำได้ แต่อย่าให้บ่อยจนเป็นประจำ เพราะร่างกายจะเคยชินและปรับตัวใหม่เป็นกลางคืนตื่น กลางวันนอน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาให้เป็นเช่นนั้น การใช้ชีวิตที่ฝืนกฏธรรมชาติสุขภาพจะเสื่อมเร็วขึ้น ดูแลตัวเองไว้ตั้งแต่ตอนที่เราเป็นวัยรุ่นจะดีมาก เพราะช่วงนั้นเราสามารถทำตัวฝืนธรรมชาติได้โดยไม่มีผลเสียแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนต้องรอจนกว่าพลังสำรองในร่างกายจะหมดนั่นแหละ โรคจึงจะแสดงตัวออกมา เราจึงไม่ควรประมาทในเรื่องนี้

ก่อนนอนควรทำใจให้สบาย คิดแต่เรื่องดีๆ

อาจสวดมนต์ไหว้พระหรือนอนผ่อนคลายร่างกายทีละส่วนให้การผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อมกันเราจะนอนหลับไม่สนิท นั่นเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดฉะนั้นช่วงก่อนนอนห้ามคิดถึงแผนการต่าง ๆ หรือคิดถึงเรื่องปัญหาอุปสรรคใด ๆ จะนอนไม่หลับ และนั่นเป็นการทำลายสุขภาพที่สุด

จัดที่นอน หมอน ผ้าห่มให้เหมาะสมกับตัวเอง

เพราะเราต้องนอนรารหลายชั่วโมง ถ้าอุปกรณ์การนอนไม่เหมาะสมจะทำให้นอนไม่สบาย ดิ้นไปดิ้นมาทั้งคืนปวดเมื่อยร่างกายได้ ตื่นขึ้นมาจะไม่สดชื่น

สวนล้างลำไส้ใหญ่

เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถล้างทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ได้ ลำไส้ใหญ่เป็นที่เก็บของเสียซึ่งเป็นกากอาหารที่จะขับออกจากร่างกาย ถ้าบริเวณนี้ไม่สะอาดจะสะสมสารพิษไว้มากและดูดซึมพิษไปเลี้ยงร่างกาย ทำให้สุขภาพโดยรวมเสียไป การทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ด้วยวิธีการสวนจึงช่วยล้างลำไส้ใหญ่ให้สะอาดได้ เมื่อสารพิษในร่างกายลดลง สุขภาพจะดีขึ้น เรื่องการสวนล้างลำไส้ใหญ่แบบนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าดีจริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับคนที่เคยลองทำดูแล้ว ทดลองด้วยตนเองดีกว่า

ศึกษาธรรมะและปฏิบัติธรรม

ด้วยการลดกิเลสให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นการสร้างสุขภาพที่ต้นทาง และเป็นวิธีที่สำคัญมากที่สุดด้วย การสร้างสุขภาพจะขาดการยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้นไม่ได้เลย แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องยาก แต่ก็ต้องทำ เพื่อสุขภาพ และชีวิตของตัวเราเอง

ทั้งหมดที่เรานำมาแนะนำนี้เป็นวิธีที่จะทำให้ผู้ที่นำไปปฏิบัติตามได้มีสุขภาพทีดีขึ้น ถือเป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่ต้องเสริมสร้างทุกปัจจัยไปด้วยกันเสมอ ไม่ใช่เลือกทำวิธีใดวิธีเดียว เพราะไม่มีอะไรที่ทำอย่างเดียวแล้วจะมีสุขภาพดีได้เลย ต้องใช้หลายๆ วิธีร่วมกันค่ะ เราต้องเลือกเองและจะได้รับผลจากการกระทำของเรานั่นเองค่ะ

ข้อมูลจาก: หนังสืออยู่ให้เป็น รวมวิธีรักษาสุขภาพด้วยตัวเอง ,อมรินทร์สุขภาพ

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

ประโยชน์ของโปรตีนและข้อควรรู้สำหรับผู้สูงวัย

สังเกตอาการอย่างไร เมื่อผู้สูงวัยเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง?

ผู้สูงอายุต้องกินให้เป็น…เพราะอาหารที่ดีจะไปสร้างร่างกายที่ดี