4 ท่าโยคะ กระตุ้นตับอ่อน ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
กระตุ้นตับอ่อน เพื่อช่วยคุมน้ำตาลในเลือด ทำได้ง่าย ๆ เพียงฝึกโยคะ 4 ท่านี้ เป็นประจำ ได้หุ่นสวย แถมยังห่างไกลโรค
รู้หรือไม่ว่า “โยคะ” ไม่ได้มีดีแค่เรื่องความยืดหยุ่นหรือช่วยให้จิตใจสงบเท่านั้น แต่ยังมีพลังในการกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายใน โดยเฉพาะ “ตับอ่อน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลิตอินซูลิน ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ ครูบี–กุลรัตน์ ทวีนุช ผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะและพิลาทิส ผู้ร่วมก่อตั้ง Yoga & Me มีเคล็ดลับดี ๆ พร้อมท่าโยคะง่าย ๆ ที่ช่วยปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือดให้คุณนำไปฝึกตามได้ไม่ยาก
ครูบีอธิบายว่า “ท่าโยคะบางท่า เช่น ท่าบิดตัว ท่าก้มตัว หรือท่าที่เน้นบริเวณหน้าท้อง จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะในช่องท้อง รวมถึงตับอ่อน ทำให้เซลล์ได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น เปรียบเสมือนการนวดภายในที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับอ่อนได้ดีขึ้น
“นอกจากนี้ การฝึกโยคะยังช่วยปรับสมดุลระบบประสาทอัตโนมัติ กระตุ้นระบบพาราซิมพาเทติกที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะภายใน ลดความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง การผ่อนคลายจากโยคะจึงช่วยให้ตับอ่อนทำงานได้ดีขึ้นในการผลิตอินซูลิน
“การฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอยังส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ควบคุมน้ำหนัก ลดไขมันสะสม โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะดื้อต่ออินซูลิน และยังช่วยเพิ่มความไวของเซลล์ต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้น”
เริ่มต้นดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้ ด้วยการฝึกโยคะเป็นประจำ เติมพลังจากภายในให้ร่างกายและจิตใจ พร้อมก้าวสู่ชีวิตที่แข็งแรง สมดุล และเปี่ยมสุขในทุก ๆ วัน
ท่าฝึกโยคะง่าย ๆ ช่วย กระตุ้นตับอ่อน ให้ทำงานดีขึ้น
ท่าที่ 1: Seated Spinal Twist Pose(ท่าบิดตัว )
- นั่งขัดสมาธิบนพื้น ให้หลังตรง วางมือทั้งสองข้างบนเข่า
- นำเท้าซ้ายสอดใต้เท้าขวา ส้นเท้าซ้ายอยู่ใกล้กับสะโพกขวา เข่าซ้ายแนบติดพื้น ยกเท้าขวาขึ้น ให้ส้นเท้าวางบนพื้นใกล้กับสะโพก เข่าตั้งตรง
- ค่อย ๆ หายใจออก บิดตัวไปทางขวา มือขวาวางบนพื้น ยกมือซ้ายอยู่ด้านข้างต้นขาซ้าย
- การเคลื่อนไหวของศีรษะทำได้สองทิศทาง โดยหันไปทางซ้ายหรืออาจจะหันไปทางขวา ค้างท่านั้นไว้ 10-20 วินาที แล้วทำสลับอีกข้าง

ท่าที่ 2: Cobra Pose (ท่างู)
- นอนคว่ำหน้าลงบนพื้น วางมือทั้งสองข้างไว้ข้างลำตัวในระดับไหล่ โดยให้ปลายนิ้วมือชี้ไปด้านหน้า
- กดเท้า กล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกลงบนพื้น
- สูดหายใจเข้าลึก ๆ ยกศีรษะ หน้าอก และลำตัวส่วนบนขึ้นจากพื้น โดยใช้มือยันพื้นไว้
- ดันไหล่ไปด้านหลังและเปิดหน้าอกขึ้นไปข้างหน้า มองตรงไปข้างหน้าหรือเงยหน้าเล็กน้อย เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องและหลังส่วนล่าง โดยที่ไม่มีอาการปวดหลัง(ค้างท่านั้น 10-20 วินาทีให้หายใจปกติ)

ท่าที่ 3: Bridge Pose (ท่าสะพาน)
- นอนหงายให้ลำตัวราบกับพื้น แขนทั้งสองข้างวางแนบลำตัว
- ชันเข่าวางเท้าบนพื้นโดยให้เข่างอและเท้าห่างกันเท่าช่วงสะโพก
- หายใจลึก ๆ เกร็งหน้าท้องยกสะโพกให้สูงขึ้นจากพื้น ค้างไว้ที่ตำแหน่งนี้ 20-30 วินาที
- กดส้นเท้าลงให้แน่นและดึงต้นขาเข้าหากันเพื่อให้สะโพกอยู่ตรงกลาง ประสานมือใต้ลำตัวเพื่อเพิ่มความมั่นคง ค้างไว้ที่ตำแหน่งนี้อีก 10 วินาที หายใจออกและค่อย ๆ ลดสะโพกลงสู่พื้น

Rabbit Pose (ท่ากระต่าย)
- นั่งคุกเข่าบนพื้น โดยให้ส้นเท้าอยู่ใต้สะโพก และวางฝ่ามือบนส้นเท้า
- สูดหายใจเข้าลึก ๆ และยืดกระดูกสันหลังให้ตรง จากนั้นค่อย ๆ ก้มตัวไปข้างหน้า โดยให้หน้าผากแตะพื้น และศีรษะอยู่ระหว่างเข่า
- หายใจเข้าอีกครั้งและยกสะโพกขึ้นเล็กน้อย โดยให้ศีรษะและหน้าผากยังคงแตะพื้นอยู่
- ยืดตัวให้มากขึ้น โดยอาจจะเลื่อนหน้าผากให้ชิดเข่ามากขึ้น และหายใจเข้าออกลึก ๆ ค้างท่านี้ไว้ 10-20 วินาที จากนั้นค่อย ๆ คลายท่ากลับสู่ท่าเริ่มต้น

สำหรับผู้ที่สนใจเรียนโยคะจากผู้เชี่ยวชาญ สอบถามได้ที่ Yoga & Me
511 เดอะวอล์ค เกษตร-นวมินทร์ ชั้นที่ 2 ห้องเลขที่ D202,D204-D205 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวง/เขต ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
โทร : 098-5629264
Facebook: Yoga and Me (Yoga & Me สาขา The Walk เกษตร-นวมินทร์)
บทความอื่นที่น่าสนใจ
นักวิ่งมือใหม่ วิ่ง “ทุกวัน” โอเคไหม (เรามีคำตอบ)
5 วิธีลดความดันโลหิตสูง ด้วยตัวเอง
ติดตามชีวจิตได้ที่