ป้องกันโรคหัวใจ เริ่มที่ตัวเรา
นับวันโรคหัวใจจู่โจมเราได้ง่ายขึ้นทุกที ซึ่งเห็นได้จากสถิติการเสียชีวิตของผู้ป่วยในช่วงหลายปีมานี้ที่โรคหัวใจและหลอดเลือดยังคงติดอันดับต้น ๆ มาตลอด วันนี้เราจึงชวนมาฟิตสุขภาพ ป้องกันโรคหัวใจ กันค่ะ
How-to ป้องกันหัวใจป่วย
บางทีชีวิตประจำวันที่ยุ่งเหยิงทำให้หลีกเลี่ยงความหงุดหงิด เคร่งเครียด หรือซึมเศร้าไม่ได้จริงๆ ชีวจิตจึงมีวิธีป้องกันไม่ให้หัวใจป่วยจาก 5 นิสัยดังกล่าว ซึ่งนำไปปฏิบัติได้ง่ายๆในชีวิตประจำวันมาฝากค่ะ
1. เพิ่มสีในอาหาร
• สีส้มหรือสีเหลือง
นายแพทย์เอียน เค. สมิธ (Ian K. Smith) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการกล่าวว่า ผู้บริโภคอาหารกลุ่มที่มีสีส้มและสีเหลืองเป็นประจำ เช่น แครอต แตงโมสีเหลือง สับปะรด ข้าวโพด ส้ม มะม่วงสุก พริกหวานสีเหลือง จะลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและเสียชีวิตลดลง
โดยวิตามินเอ วิตามินอี และสารแคโรทีนอยด์ในอาหารสีส้มหรือสีเหลืองจะช่วยเรื่องอารมณ์และบำรุงผิวพรรณ เสริมสร้างเนื้อเยื่ออ่อน
เยื่อบุผิว ช่วยให้หลอดเลือดและหัวใจแข็งแรง
• สีน้ำเงินหรือสีม่วง
อาหารในกลุ่มสีน้ำเงินหรือสีม่วงจะอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ซึ่งพบมากในองุ่น บลูเบอร์รี่ ลูกพรุน แบล็กเบอร์รี่ มะเขือม่วง กะหล่ำม่วง จะช่วยต้านฟรีแรดิคัล ป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลาย
ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า เครียด อ่อนเพลีย เซลล์ต่างๆในร่างกายจะอ่อนแอลง สารในกลุ่มแอนโทไซยานินที่มีอยู่ในอาหารจะช่วยลดความเสี่ยงโรคร้ายบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ โรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดในสมอง เป็นต้น
• สีเขียว
“ตา” ที่เมื่อยล้าเนื่องจากการอ่านหนังสือ ทำงานหนัก หรือจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ปวดศีรษะเรื้อรัง กล้ามเนื้อปวดเกร็ง และสะสมความเครียด ผักในกลุ่มสีเขียว ไม่ว่าจะเป็นปวยเล้ง คะน้า ผักบุ้ง แตงกวา เซเลอรี่ หรือถั่วลันเตา มีสารลูทีน (Lutein) ช่วยปกป้องดวงตาจากโรคจอประสาทตาเสื่อมเนื่องจากความชรา ต้อกระจก และเซลล์รับแสงในตาเสื่อมสภาพ ทั้งยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ
2. เจริญสติต้านเครียด
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านหนังสือ เคล็ดลับบำบัดเครียด (ฉบับใช้ได้ในชีวิตจริง) จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ
โดยแนะนำว่า ทุกคนต้องการเวลาเพื่อเจริญสติ เมื่อโกรธใคร อยากด่าทอใครอยากทำร้ายใคร การออกกำลังกายเร็วๆ และรุนแรง เช่น ว่ายน้ำกลับไป-มาคล้ายกำลังแข่งขัน จะช่วยให้สงบลงได้มาก
แต่ปัญหาคือ ต้องใช้เวลาเยอะ ทั้งเดินทาง เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ ทำให้คนเบื่อง่าย พานไม่ออกกำลังกาย จึงอยากให้สงบจิตด้วยการเจริญสติ ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติธรรมที่ง่ายที่สุดและเป็นทางสายกลาง
3. กอดฟื้นฟูสุขภาพ
ศาสตราจารย์เจมส์ แมคแคนนา (Prof. James McCanna) นักมนุษยวิทยา ได้รายงานผลการวิจัยว่า จิตใจ ความเครียด หรือความสิ้นหวัง มีผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกาย เช่นเดียวกับที่กูรูต้นตำรับ ชีวจิต อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กล่าวว่า
“ความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวและขาดแคลนความรักจะส่งผลให้ภูมิชีวิตบกพร่อง โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น โรคมะเร็งหรือโรคหัวใจย่อมสะสมในร่างกาย หากจิตใจสดชื่นแจ่มใส ภูมิชีวิตจะแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่อ่อนแอหรือเจ็บป่วยง่าย”
หนังสือ The Hug Therapy Book ซึ่งเขียนโดยแคทลีน คีติ้งอธิบายถึงประโยชน์จากการกอดว่า ช่วยให้บุคคลที่ได้รับการสัมผัสรู้สึกดีต่อตนเองและผู้คนรอบข้างมากขึ้น ส่งเสริมระบบประสาทส่วนการเรียนรู้พัฒนาอารมณ์ กระตุ้นความคิดเชิงบวก และช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยทางกายใจ
การกอดเพื่อรักษาสุขภาพหรืออาการป่วยไม่เฉพาะเจาะจงเพื่อผู้ป่วยทางจิต แต่ทุกคนสามารถมอบความรักความอบอุ่น ส่งความห่วงใยให้กันและกันโดยผ่านการสื่อสาร พูดคุย และกอดได้เป็นประจำ
ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า ไม่ว่าจะเป็นการกอดแน่นๆโดยโอบรอบตัว (Big Bear Hug) การกอดเป็นกลุ่มคล้ายกอดกันในครอบครัวหรือแม้แค่โอบไหล่ จะช่วยฟื้นฟูจิตใจที่อ่อนล้าได้เหมือนปาฏิหาริย์ ช่วยลดความเครียด กดดัน และซึมเศร้า ทำให้เกิดความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจปลื้มปีติและเป็นสุข
4. ผ่อนคลายวิถีชีวจิต
หนังสือ เรื่องของภูมิชีวิต เขียนโดยอาจารย์สาทิส อินทรกำแหง สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ ได้อธิบายถึงระดับความเครียดซึ่งส่งผลต่อร่างกายว่า
เมื่อได้รับสิ่งของ ไปเที่ยวพักผ่อน ได้ยินคำชื่นชม หรือมีความสุขมากๆ ส่วนในสมองที่ชื่อไฮโปทาลามัสจะกระตุ้นศูนย์กลางความพอใจ (Pleasure Center) ต่อมพิทูอิทารีจะขับโกร๊ธฮอร์โมน ซึ่งเป็นการเพิ่มภูมิชีวิต โดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดขาว ช่วยป้องกันและปราบศัตรูในร่างกาย
ตรงกันข้าม ถ้าเกิดมีอารมณ์โกรธ ไม่พอใจ หรือเสียอก เสียใจ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนอะดรีโนคอร์ติโคโทรปิก (Adrenocortico trophic Hormone: ACTH) ออกมาจำนวนมากทำให้ระบบต่างๆแปรปรวน
เช่น เส้นเลือดบีบตัวและหดตัว กล้ามเนื้อมีเลือดไปคั่งมาก หลอดลมหดตัว และปริมาณเม็ดเลือดขาวลดลงไปทันทีเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ร่างกายจึงเป็นโรคได้ง่าย
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
วิถีกินอยู่อย่างง่าย ประหยัด หยุดความเสี่ยง โรคหัวใจ
เทคนิคเดินเร็ว ลดเสี่ยงโรคหัวใจ
5 ของบ้านบ้าน เพิ่มไขมันดี๊ดี ป้องกันโรคหัวใจ
แพทย์แนะนำ กิน-อยู่ ให้ห่างไกลโรคหัวใจ