ฝังเข็มรักษาโรคบำบัดอาการ
เป็นการรักษาโดยใช้เข็มขนาดเล็กมากฝังไปตามจุดสำคัญต่างๆ ของร่างกาย เพื่อปรับสมดุลในร่างกาย เลือดและลมปราณภายในให้หมุนเวียนดีขึ้น ช่วยลดการหดเกร็งให้คลายตัว การฝังเข็มเป็นการกระตุ้นการทำงานของอวัยวะที่อยู่ห่างจากจุดฝังเข็มให้ทำงานเป็นปกติ สามารถกระตุ้นร่างกายให้หลั่งฮอร์โมนและสารสื่อประสาท เช่น เอนดอร์ฟิน (Endorphine) หรือสารระงับปวด สารอื่นๆ ที่ช่วยลดการอักเสบ นอกจากนี้ยังกระตุ้นการปล่อยพลังงานภายในร่างกาย การฝังเข็มสามารถทั้งกระตุ้นและยับยั้งการทำงานของอวัยวะและภูมิคุ้มกันเพื่อให้กลับมาสู่จุดสมดุลได้
การรักษาที่โดดเด่นของการฝังเข็มคือ แก้อาการปวดเพราะเห็นผลเร็ว แต่จะเป็นการแก้ที่ต้นตอหรือไม่นั้นไม่แน่เสมอไป แพทย์ต้องทราบก่อนว่า อาการปวดนั้นเป็นที่โครงสร้างร่างกายหรือระบบอื่นๆ เช่น หยินหยางหรือระบบไหลเวียนไม่ดี การฝังเข็มจะช่วยปรับสมดุลได้ แต่ถ้าปัญหาอยู่ที่โครงสร้าง เช่น กระดูกสันหลังเคลื่อน มีหินปูน การฝังเข็มจะแค่ช่วยแก้ปวดอย่างเดียว ถ้าจะให้หายขาดต้องรักษาวิธีอื่นร่วมด้วย
บางครั้งการฝังเข็มเป็นพระเอก บางครั้งเป็นพระรอง บางครั้งเป็นแค่ผู้ช่วย ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค และแต่ละคนก็ตอบสนองต่อการฝังเข็มดีมากน้อยต่างกันไปเป็นเรื่องเฉพาะตัว
ฝังเข็มรักษาโรคอะไร
การฝังเข็มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง องค์การอนามัยโลก (WHO) มีผลวิจัยและได้ประกาศยอมรับวิธีฝังเข็มว่าช่วยรักษาโรคและบรรเทาอาการได้กว่า 100 โรค โดยแบ่ง ระดับความสามารถในการรักษาไว้เป็น 3 ประเภท
1. ได้ผลเด่นชัดเป็นพิเศษ เช่น อาการปวดต่างๆ ปวดต้นคอเรื้อรัง หัวไหล่ ข้อศอก สันหลัง เอว หัวเข่า ปวดจากรูมาทอยด์ เคล็ดขัดยอก ปวดประจำเดือน ปวดนิ่วในถุงน้ำดี ปวดศีรษะจากความเครียดหรือก่อนมีประจำเดือน ปวดในระบบทางเดินปัสสาวะ เส้นประสาทเส้นประสาทบนใบหน้าปวดหลังการผ่าตัดไมเกรนและอาการซึมเศร้าโรคและอาการทั่วไป คือ อัมพฤกษ์ ผลข้างเคียงหลังจากป่วยด้วยโรคทางสมอง ความดันโลหิตสูงหรือต่ำ งูสวัด เม็ดเลือดขาว=น้อยกว่าปกติ สมรรถภาพทางเพศลดลง ภูมิแพ้ หืด วิตกกังวล นอนไม่หลับ ขากรรไกรค้าง แพ้ท้อง เลิกเหล้าบุหรี่ ยาเสพติด
2. ได้ผลดี เช่น อาการเจ็บต่อมทอนซิลเรื้อรัง วิงเวียนสาเหตุจากน้ำในช่องหูไม่เท่ากัน สายตาสั้นในเด็ก เด็กในครรภ์มารดาอยู่ในท่าขวางอาการผิดปกติของลำไส้เมื่อเกิดความเครียด
3. ได้ผล เช่น ท้องผูก ท้องเดิน การมีบุตรยาก ที่มีสาเหตุจากทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย กระเพาะอาหารเลื่อนต่ำ เรอบ่อย ปัสสาวะไม่รู้ตัว และไม่คล่อง ไซนัสอักเสบ หญิงหลังคลอดมีน้ำนมไม่พอ
ความงามในมุมมองแพทย์แผนจีน
แพทย์หญิงสายชลี ทาบโลกา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังเวชศาสตร์ชะลอวัยและการฝังเข็ม แห่งชีวจิตโฮมคลินิก กล่าวว่า
“หากร่างกายเสียสมดุลจะส่งผลถึงผิวพรรณ เช่น การย่อยอาหารไม่ดีทำให้การลำเลียงอาหารไปยังอวัยวะต่างๆ ไม่ทั่วถึง หรือการทำงานของเลือดไหลเวียนไม่สะดวกก็ส่งผลเช่นกัน การรักษาแผนปัจจุบันเมื่อมีปัญหาผิว คือ ทาครีม ทำเลเซอร์ โบท็อกซ์ ฟิลิลอร์ ซึ่งได้ผลในระดับหนึ่ง แต่ถ้าใช้แพทย์แผนจีนจะดูแลจากภายในด้วยจะช่วยเสริมให้ดียิ่งขึ้น
“ปัญหาผิวพรรณมีสาเหตุจากทั้งภายนอกและภายใน จากภายนอก เช่น แสงแดดและสิ่งแวดล้อมมลพิษต่างๆ ภายในคือสมดุลร่างกาย และไลฟ์สไตล์ซึ่งรวมเรื่อง อาหารการกิน ความเครียด การพักผ่อน การออกกำลังกาย ล้วนมีผลต่อความงาม แพทย์จึงมีหน้าที่ทั้งรักษาและแนะนำการปรับการดำเนินชีวิตให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก”