ครีมหอยทาก ตัวช่วยสวย เทียบเท่าเกาหลี แบบไม่ต้องศัลยกรรม
ครีมหอยทาก ที่ขายดิบขายดี เพราะคุณสมบัติที่ว่า ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว มาจากหอยทากตามถนนหรือไม่ แล้วช่วยชะลอวัยผิวได้จริงไหม มาดูกัน
หลายท่านน่าจะเคยได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ “หอยทาก” ตัวช่วยชะลอวัยยอดฮิตขณะนี้ และอาจแปลกใจว่า คือเจ้าหอยทากที่เราเห็น มันคลานๆอยู่น่ะหรือ ตอบเลยว่า ใช่แล้วค่ะ พญ.สายชลี ทาบโลกา มีคำอธิบายถึงความเป็นมาของวิธีการชะลอวัยแนวแปลกนี้มาฝาก
หอยทากกับการแพทย์
ที่จริงแล้วไม่ได้เพิ่งนํามาใช้ในยุคนี้ มีหลักฐานในบันทึกของ ฮิปโปเครตีส(Hippocrates)ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น “บิดาแห่งการแพทย์ ตะวันตก” ว่า มีการนําหอยทากมาใช้ทางการแพทย์ในการรักษาโรคผิวหนังอักเสบ
นอกจากนี้ บันทึกในยุคกรีกโบราณไปจนถึงยุคกลางยังระบุถึงการใช้เมือกหอยทากรักษาโรคภายในร่างกาย อาทิ สมานแผล ในทางเดินอาหาร หรือช่วยแก้ไอ แต่สําหรับเรื่องชะลอวัยนั้น มีเหตุบังเอิญมาจากการที่มีคน สังเกตว่า คนงานฟาร์มหอยทากที่ส่งหอยทากไปยังตลาดอาหาร ในฝรั่งเศสมีมือนุ่มเนียน และเมื่อเกิดรอยบาดก็หายไวกว่าปกติ แถมไม่มีรอยแผลเป็น ต่อมาหอยทากจึงได้รับความนิยมในเรื่องความงาม โดยนําไป กล่าวอ้างสรรพคุณว่าช่วยชะลอวัย และใช้ “เมือก”ของหอยทาก มาผสมในเครื่องสําอางต่างๆ
เมือกหอยทากคืออะไร
เมือกหอยทาก(SnailSlime) คือ สารคัดหลั่งของหอยทาก เมื่อหอยทากคืบคลานไป จะมีเมือกใสคล้ายเจลที่ ผลิตจากต่อมบริเวณเท้า ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายกาว ช่วยหล่อลื่น และทําให้ยึดติดพื้นผิวได้ หอยทากจึงเคลื่อนที่ได้ในแนวตั้งโดย ไม่หลุดร่วง บางทีเราจะเห็นรอยเมือกตามทางที่หอยทาก เดินผ่าน นอกจากนี้เมือกยังเคลือบร่างกายของมันเพื่อช่วย ป้องกันอันตรายต่อเนื้อเยื่อด้วย
เมือกหอยทากกับการชะลอวัย
มีการอ้างว่า เมือกหอยทากช่วยให้รูขุมขนกระชับ ลด ริ้วรอย กําจัดและผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อีกทั้งยังซ่อมแซมผิว ที่ถูกทําลายจากแสงแดด ลดการอักเสบ และให้ความชุ่มชื่น จึงช่วยชะลอวัยได้
เมือกหอยทากที่ใช้ในแวดวงเครื่องสําอาง มักมาจากหอยทากพันธุ์คริปตอมพาลัสแอสเปอร์ซา(Cryptomphalusaspersa) ที่มีกรดไฮยาลูรอนิก(HyaluronicAcid)จําพวกไกลโคสะมิโนไกลแคน(Glycosaminoglycans-GAGs) อยู่ในปริมาณมาก โดยสารนี้ช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวและซ่อมแซมผิวพรรณได้
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีแอนติออกซิแดนต์(Antioxidant) สูง จึงช่วยลดการถูกทําลายจากฟรีแรดิคัล(FreeRadical) ที่ทําให้ผิวแก่ก่อนวัยได้ด้วย ในวารสาร CosmeticScience ค.ศ. 2012 พบว่า เมื่อใช้เมือกหอยทากกับผิวมนุษย์ จะกระตุ้นการเพิ่มเซลล์สร้างคอลลาเจน(Fibroblast) และลดการทํางานของเอนไซม์ เอ็มเอ็มพี-วัน(MMP-1) และเอ็มเอ็มพี-ทู(MMP-2) ที่ไปทําลายคอลลาเจนและอีลาสตินด้วย
ดังนั้น จึงช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทําลายได้ วารสาร ChromatographyA ฉบับธันวาคม ค.ศ.2013 ยังระบุถึงสารอื่นๆ ที่พบในเมือกหอยทาก เช่น คอนโดรอิทิน ซัลเฟต(ChondroitinSulfate) ช่วยชะลอวัยให้ผิวไกลโคลิก แอซิด(GlycolicAcid) ทําให้ผิวผลัดเซลล์ อัลแลนโทอิน (Allantoin) ช่วยลดการอักเสบระคายเคืองผิว เพิ่มปริมาณน้ํา ทําให้ผิวชุ่มชื่น ฟื้นฟูเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ พร้อมผลัดเซลล์ ผิวใหม่ ทําให้เกิดการสมานผิวด้วย ทั้งนี้คุณสมบัติและลักษณะของเมือกหอยทากจะเป็น เช่นไรก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสิ่งแวดล้อม ฤดูกาล อาหารที่เพาะเลี้ยง และกระบวนการผลิต
พิสูจน์ผลลัพธ์
ผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามจากเมือกหอยทากว่า ช่วยชะลอวัยได้เท่าที่มีการกล่าวอ้างกันในท้องตลาดหรือไม่ ให้ความชุ่มชื่นบํารุงผิวได้มากกว่าสารที่มาจากธรรมชาติตัวอื่นๆ หรือเปล่า หรือมีการผสม ว่านหางจระเข้ โสม หรือสารอื่นๆ ที่ช่วยบํารุงผิวจึงทําให้เกิดผลลัพธ์ดังกล่าว แทนที่จะเป็นผลลัพธ์จากเมือกหอยทากของจริงหรือไม่
ระยะหลังจึงมีการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการชะลอวัยของผลิตภัณฑ์จากเมือกหอยทาก เช่น ข้อมูลจาก วารสาร Drugs Dermatology ค.ศ. 2013 ยืนยันว่า เมือกจาก หอยทากสายพันธุ์คริปตอมพาลัสแอสเปอร์ซา(Cryptomphalusaspersa) ในรูปแบบทา ให้ผลดีในการลดริ้วรอยรอบดวงตา รวมถึงใบหน้า เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม แต่ทั้งนี้หลายคําถาม ที่ยังคาใจ ก็ต้องอาศัยการเก็บข้อมูลและการศึกษาเพิ่มเติม
ฉะนั้น ถ้าใครต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากเมือกหอยทาก เพื่อช่วยชะลอวัย ก็ควรเลือกตัวที่มีการรับรองคุณภาพมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา ดูแหล่งการผลิตและปัจจัยที่ทําให้ได้เมือกหอยทากที่มีคุณภาพ ดูส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ว่า มีเมือกหอยทากมากน้อยเพียงใด และส่วนผสมอื่นคืออะไร ส่วนใครจะใช้วิธีนําหอยทากตัวเป็นๆ มาคลานบนใบหน้าก็ต้องระวังนะคะ เพราะยังไม่มีการรับรองและหอยทากก็มีพยาธิ เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือทําให้ผิวหนังอักเสบเป็นผื่นแพ้ และอาจกระตุ้นการเกิดสิวได้
Tip หน้าใสด้วยโซดา
สำหรับผู้ที่อยากมีผิวหน้าใสๆ เคยลองใช้โซดาล้างหน้าหรือยังคะ
-ให้ลองนําโซดามาทาที่ผิวเพื่อทดสอบอาการแพ้ดูเสียก่อน
-หากพิสูจน์แล้วว่าไม่แพ้ สามารถนําโซดามาผสมกับน้ําธรรมดาในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 แล้วใช้ล้างหน้าในชีวิตประจําวัน
-น้ำและโซดาจะช่วยทําความสะอาดผิวและรูขุมขน ผลัดเซลล์ ผิวที่เสื่อมสภาพได้
บทความอื่นที่น่าสนใจ
เคล็ดลับดูแลผิวให้สวยสุขภาพดี เมื่อต้องเผชิญมลภาวะ PM 2.5
ดูแลผิวหน้า ผิวกาย ให้เหมาะสมกับวัยของตัวเอง
7 วิธีชะลอวัย จาก 7 ผู้เชี่ยวชาญอเมริกัน