คู่มือป้องกัน อ้วน เฉพาะวัย ทำตามง่าย ได้ผลจริง
อ้วน โรคที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันการดูแลสุขภาพมีแนวโน้มจะได้รับการใส่ใจมากขึ้นทั้งในระดับปัจเจกและในระดับสังคม โดยเฉพาะปัญหาพฤติกรรมที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรค หรือที่ อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต เรียกว่า “โรคที่ไม่ใช่โรค”
หนึ่งในนั้นคือโรค อ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับ 1 ต่อการเกิดโรคและภาวะแทรกซ้อนของคนไทยทั้งชายและหญิง
ชีวจิต ขอนำเสนอสาเหตุก่อโรค อ้วน ของคนแต่ละวัยพร้อมวิธีป้องกัน เพื่อให้ผู้อ่านใช้เป็นข้อมูลในการดูแลสุขภาพและช่วยสร้างหุ่นฟิตเฟิร์ม
ทั้งนี้จะขอแบ่งเป็น 4 ช่วงวัย คือ วัยเด็ก อายุ 0 – 12 ปี วัยรุ่น 13 – 19 ปี วัยทำงาน 20 – 59 ปี และวัยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
วัยเด็ก
กินให้สมวัย เพื่อคุณค่าทางโภชนาการ
วัยเด็กคือช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 12 ปี เป็นวัยที่ต้องอาศัยการดูแลจากพ่อแม่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแม่ที่เป็นคนเลี้ยงดูและควบคุมการกินอาหาร เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการ ซึ่งทำให้เด็กเจริญเติบโตและมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์
เหตุทำเด็กอ้วน
รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์วีรพันธุ์ โขวิฑูรกิจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาวิชาต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้อธิบายถึงสาเหตุสำคัญของโรคอ้วนในวัยเด็ก สรุปได้ดังนี้
- เด็กกินอาหารมากเกินความจำเป็น (Overfeeding) โดยเฉพาะเด็กเล็กก่อนวัยเรียนที่กินอาหารเสริมหรือนมผงมากเกินไป จนได้รับพลังงานเกินความต้องการของร่างกาย
- ทัศนคติของสังคมไทยชอบให้เด็กอ้วน สังคมไทยมองเด็กอ้วนจ้ำม่ำว่าเป็นเด็กน่ารัก เมื่อโตแล้วเด็กจะผอมเอง เราควรทำความเข้าใจและปรับทัศนคติดังกล่าวเสียใหม่ เพราะเด็กอ้วนมีโอกาสจะกลายเป็นผู้ใหญ่อ้วนในอนาคต
- การกินอาหารไม่มีประโยชน์ เด็กวัยเรียนต้องเผชิญกับสิ่งยั่วยุมากมาย โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง เช่น ขนมกรุบกรอบ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลปริมาณสูง อาหารที่มีไขมันและโซเดียมเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่ายมาก ส่งผลให้เด็กอ้วนง่าย
กินให้สมวัย
โรคอ้วนในเด็กเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วย ทั้งในระดับนโยบายของรัฐบาล โรงเรียน และชุมชน แต่ที่สำคัญที่สุดคือครอบครัว ที่จะเป็นหน่วยหลักในการสรรหาอาหารสุขภาพให้เด็ก รวมถึงควรทำกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กๆ ได้ใช้พลังงาน
นอกจากนี้องค์การอนามัยโลกได้แนะนำวิธีป้องกันโรคอ้วนในเด็กไว้ดังต่อไปนี้
- ควรให้ลูกกินนมแม่ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เกิดมา
- ควรให้ลูกกินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน
- ควรจำกัดอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลปริมาณสูงให้น้อยลง
- กินผัก ผลไม้ เมล็ดถั่ว และธัญพืชไม่ขัดสีเป็นประจำ
- ออกกำลังกายหรือมีกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อยวันละ 60 นาที
นอกจากนี้ ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนคลินิก (เบาหวาน หัวใจ โรคกลุ่มเมตาบอลิก) ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แนะนำการให้เด็กๆ กินอาหารตามหลักธงโภชนาการ คือ กินอาหารให้เหมาะสมกับอายุ เพศ ขนาด รูปร่าง และการใช้พลังงานในแต่ละวัน โดยเน้นกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และมีความหลากหลาย เพื่อช่วยสร้างสุขภาพ เสริมภูมิต้านทาน และป้องกันโรค