ระวัง! โรคหน้าหนาว By กูรูต้นตำรับชีวจิต

ปัจจุบัน เคลอไมเดีย พัฒนาตัวเองมากขึ้นไม่อยากจะไป ยกย่องว่าเก่งมากขึ้น เอาเป็นว่ามันร้ายร้ายมากขึ้นดีกว่า  เดี๋ยวนี้เจ้าเคลอไมเดียไม่ได้เล่นงานมนุษย์ แต่ในเรื่องนิวมอเนีย หรือปอดบวม เท่านั้น แต่ยังเล่นงานผู้ป่วยในโรคถึง 3 กลุ่ม ด้วยกัน คือ

1. C.TRACHOMATIS (อ่านว่า ซี.ทราโคมาติส)

นั้นย่อมาจาก เคลอไมเดีย และทราโคมาติส คือ โรคประเภท เกี่ยวกับการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กามโรค หรือโรคเริม หรือ โรคอื่นๆ จากการติดต่อทางเพศไม่ว่าจะหนักหรือเบาล้วน แต่ เจ้าเคลอไมเดียเป็นต้นเหตุ

2. C.PSITTACI (อ่านว่า ซี.ซิสตาซี)

ซึ่งเกี่ยวกับไข้หวัดนกโดยตรง และว่ากันที่จริง ไข้หวัดนกนี้เริ่ม จากพวกฝรั่งก่อน โดยเฉพาะในยุโรป แต่หวัดนกของฝรั่งนั้นมักจะเกี่ยวกับนกเลี้ยง เช่น นกแก้ว นกพิราบ เป็นต้น

3. C.PNEUMONIAE (อ่านว่า ซี. นิวมอเนีย)

เชื้อตัวนี้ก็อย่างที่เล่าไว้ตอนต้นแหละครับว่าเจ้า เคลอไมเดียนี้ แต่ต้นมันก็ทำมาหากินแต่กับเจ้านิวมอเนียหรือปอด บวม แต่เดี๋ยวนี้มันจะพยายามครองโลก โดยฆ่าสิ่งมีชีวิต ทั้งหมดโลกเลย

เห็นไหมครับว่ามันร้าย จะแก้จะป้องกันอย่างไร

เพราะโรคหวัดบางอย่าง เช่น ไข้หวัดนก เป็นโรคร้ายที่สามารถคร่าชีวิตคนได้อย่างง่ายดาย หากไม่เฝ้าสังเกตอาการอย่างใส่ใจ การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโรคหวัดจึงเป็นเรื่องควรทำ ซึ่งวิธีการก็ง่ายนิดเดียว กูรูต้นตำรับชีวจิต มีสูตรยาป้องกันมาบอกค่ะ

ป้องกันโรคหวัดด้วยสูตรชีวจิต

ตัวร้ายอีกตัวซึ่งเป็นเชื้อโรค ซึ่งเกิดจากการกลายพันธุ์และการผสมพันธุ์ของครอบครัวเชื้อโรคสองครอบครัว คือ เคลอไมเดีย (CHLAMYDIA)

เพราะเป็นเชื้อโรค ซึ่งเกิดจากการผสมพันธุ์จึงกลายเป็นเชื้อโรคที่น่ากลัว การผสมพันธุ์ของตัวร้ายสองตัวแล้วทำให้เกิดพันธุ์ใหม่นี้เป็นเรื่องน่ากลัวนะครับ?ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ เช่น ปลาเป็นสัตว์น้ำอยู่ในน้ำ อย่างปลาฉลามจะเป็นอันตรายก็ต่อเมื่ออยู่ในน้ำ ถ้าขึ้นบก ฉลามก็สิ้นฤทธิ์ แต่สมมติว่าฉลามกลายเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอย่างจระเข้ ลองนึกสิครับว่ามันจะเป็นอันตรายแค่ไหน บนบกก็ฆ่าคนได้ ในน้ำก็ฆ่าคนได้

เคลอไมเดีย เป็นเชื้อโรคผสมระหว่างแบคทีเรียกับไวรัส พิษร้ายของมันจึงรุนแรงมาก แต่เพราะเป็นแบบหัวมังกุท้ายมังกรดังกล่าวแล้ว โรคต่างๆ ซึ่งผมระบุไว้สี่กลุ่ม ในนิตยสารชีวจิตจึงกลายเป็นสี่กลุ่มที่เป็นโรคแบบดื้อด้าน และร้ายแรงจนทำให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็วและอย่างไม่คาดฝัน

เฉพาะตอนนี้ และคราวนี้ ยังไม่ขอพูดถึงความร้ายแรงของโรคต่างๆ สามกลุ่ม แต่จะขอพูดเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคระบาดที่ต้องควรระวังดังที่ได้กล่าวมาแล้ว คือ ไข้หวัดนก หรือ CHLAMY DIA PSITTACI หรือที่ออกเสียงว่า ซี. ซิสตาซีนั่นเอง

ไข้หวัดนกยี่ห้อนี้ เริ่มจากพวกฝรั่งก่อนโดยเฉพาะฝรั่งที่ชอบเลี้ยงนก เช่น นกแก้วนกพิราบ หรือนกเลี้ยงชนิดอื่นๆ

แรกๆ จะเกิดอาการระบาดในกลุ่มนกเลี้ยงต่อมาก็จะมาถึงร้านขายนก สมัยแรกๆ ไม่มีใครสนใจ แต่จู่ๆ นกเลี้ยงเกิดตายพร้อมๆ กันหมดทุกร้าน มีคนสนใจ แต่นึกว่าเป็นโรคระบาดชั่วครั้งชั่วคราว

จนกระทั่งจู่ๆ ขึ้นมาก็เกิดโรคหวัดระบาดไปถึงเล้าสัตว์ปีกที่เลี้ยงไว้ทำอาหาร เช่น เล้าไก่ เล้าเป็ด เล้าไก่งวง แล้วเลยระบาดมาถึงเอเชียหลายประเทศพร้อมๆ กัน ซึ่งเราเริ่มรู้จักโรคของมันในชื่อไข้หวัดนกเมื่อประมาณ 4 – 5 ปีที่ผ่านมาแล้ว

ระยะแรกๆ ดูเหมือนจะไม่ตื่นเต้นกันเท่าไร จนกระทั่งกลายมาเป็นไข้หวัดนกที่ติดมาถึงคนเข้าด้วย ตอนนี้สิครับ เป็นเรื่องใหญ่กันแล้ว

ที่ร้ายแรงจนทำให้คนเสียชีวิตนั้นก็คือ ไข้หวัดนกที่ทำให้คนที่ติดนั้นป่วยหนัก และเสียชีวิตด้วยเชื้อประเภทเคลอไมเดียในกลุ่มของ C. PSITTACI และ C. PNEUMONIAE นั่นก็คือเชื้อที่ทำให้เสียชีวิตด้วยปอดบวมหรือนิวมอเนียนั่นเอง

<< อ่านต่อหน้าที่ 3 >>