ขั้นตอนง่ายๆ ช่วยรักษาคน โกหก จากสมองป่วยและนิสัยส่วนตัว
จาก คำถามที่ว่า คนชอบ โกหก โกหกแทบจะทุกเรื่อง ไม่กล้าแสดงตัวตนที่แท้จริงให้ใครรู้ และมักระแวงคนรอบข้างท่าทางภายนอกดูปกติดี แต่เมื่อสนิท ได้พูดคุย พบว่าไม่เคยยอมรับผิด และมักโยนความผิดให้ผู้อื่นเสมอ บางครั้งเหมือนเขาสะกดจิตตนเองจนเชื่อว่าสิ่งที่ตนเองโกหกเป็นเรื่องจริง แบบนี้เรียกว่าเป็นโรคทางจิตหรือไม่ และถ้าเป็นจะมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล อาจารย์ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เชี่ยวชาญปัญหาด้านจิตใจความสัมพันธ์ และโรคทางจิตเวช มาตอบคำถามนี้
การพูดโกหกเกิดจากหลายสาเหตุ
หนึ่ง คือเป็นจาก โรคทางสมองและทางร่างกายบางชนิด ทำให้สมองมีความผิดปกติในการรับรู้และการเก็บข้อมูลที่ครบถ้วน จึงมีอาการพูดไม่ตรงกับความจริงโดยไม่เจตนา หรือเกิดจากโรคทางจิตเวชบางชนิด เช่น โรคหลงผิด คนกลุ่มนี้เขาไม่ได้ตั้งใจโกหก แต่เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีที่เกี่ยวกับความคิดในสมองทำให้หลงผิด ความคิดจะบิดเบือนจากความเป็นจริงไปเองโดยที่ไม่ได้ตั้งใจโกหก แต่เขาเชื่ออย่างนั้นจริงๆ
หรือเป็น โรคอารมณ์แปรปรวน คนกลุ่มนี้ไม่ได้ตั้งใจโกหกเช่นกัน แต่เกิดจากสารเคมีในสมองด้านอารมณ์เสียสมดุล ทำให้เขามองสิ่งต่างๆ ในแง่บวกหรือลบเกินความเป็นจริง เป็นไปตามอารมณ์ที่ขึ้นหรือลงของเขา เช่น ถ้าอยู่ในช่วงขั้วอารมณ์คึกคัก เขาจะรู้สึกมั่นใจตนเองเกินจริง จะพูดถึงตนเองดีเกินจริง หรือถ้าอยู่ในขั้วเศร้า เขาจะขาดความมั่นใจ พูดถึงตนเองในแง่มุมที่แย่เกินความเป็นจริง และเมื่ออารมณ์กลับมาเป็นปกติ พฤติกรรมการพูดไม่ตรงกับความจริงก็จะหายไป
อีกหนึ่งสาเหตุ เกิดจากปัญหาด้านบุคลิกภาพบางชนิด หรือที่เรียกว่าเป็นนิสัย ดังนี้ คือชอบพูดเท็จจนเป็นนิสัย ซึ่งมักพบได้กับคนที่ชอบสร้างภาพลักษณ์ให้ตนดูดีเสมอ ไม่ชอบให้ตนดูแย่ในสายตาของคนอื่น ไม่ชอบรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
หรือ เกิดจากอุปนิสัยที่ชอบแก้ตัว คือไม่กล้ายอมรับว่าตนเองผิดคนกลุ่มนี้ไม่ใช่แค่โกหกคนอื่นเท่านั้น จริงๆ เขาเองก็โกหกตัวเอง เพราะจิตใจเขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าตนเองก็สามารถทำผิดได้หรอื เกดิ จากการขาดความเชอื่ มนั่ ในตนเอง ความกลวั ข้กี งั วลจนไม่กล้ารับความจริงบางอย่างที่ตนต้องรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป ไม่มั่นใจว่าตนจะมีความสามารถในการจัดการปัญหานั้นได้ จึงโกหกเพื่อหลบเลี่ยงปัญหา
คนเหล่านี้อาจจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไม่ค่อยมีศีลธรรมประกอบด้วย จึงทำให้ใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องนี้เพื่อเอาตัวรอด
ถ้าคนที่ไม่มีคุณธรรมประจำใจเลย อาจพูดโกหกเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เพื่อหลอกลวง โดยคนกลุ่มนี้อาจพูดโกหกโดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจใดๆ หรือไม่รู้สึกผิด ซึ่งคนที่มีพฤติกรรมโกหกสม่ำเสมอ ด้านหนึ่งเขาจะระแวงใจอยู่เรื่อยๆ ว่าคนจะจับได้ทำให้ต้องโกหกต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพื่อซ่อนความผิด และพอโกหกไปเรื่อยๆ เพื่อให้ตนดูดี บางทีก็ติดภาพความดูดีที่ตนสร้างขึ้นมานั้นไปด้วย ทำให้เกิดอาการหลงเชื่อคำโกหกที่ตนสร้างขึ้นมาว่าเป็นเรื่องจริง