ชามะละกอ ประโยชน์ และล้างลำไส้ได้ชัวร์หรือมั่ว
ชามะละกอ ล้างพิษลำไส้ กลายเป็นกระเเสที่เเชร์ออกไปมากมายบนโลกออนไลน์ ถึงคุณสมบัติที่น่าอัศจรรย์และเหลือเชื่อ ว่าสามารถช่วยดีท็อกซ์ ล้างพิษลำไส้ ขับเมือกมันที่ที่ติดอยู่ได้ออกหมด โดยไม่ต้องสวนหรือล้างลำไส้ ความจริงแล้ว ชามะละกอที่ล่ำลือกันนั้นสามารถช่วยได้หรือไม่ ความจริงเเล้วมีสรรพคุณอย่างไรกันเเน่ เราลองมาดูกันนะคะ
ดีท็อกซ์ หรือการกำจัดสารพิษ
ดีท็อกซ์ (Detox) มาจากคำว่า Detoxification หมายถึงการกำจัดสารพิษ (Toxic Substances) ออกจากร่างกาย ส่วนการสวนล้างลำไส้ คือการเอาน้ำเข้าไปในลำไส้แล้วล้างเอาอุจจาระออกมา ซึ่งคนมีความเชื่อว่าการสวนล้างลำไส้เป็นวิธีการหนึ่งที่จะเอาสารพิษออกจากร่างกาย จึงใช้ปะปนกันว่าการทำดีท็อกซ์เป็นการสวนล้างลำไส้ และมีการนำสารอย่างอื่นเข้ามาใช้ในน้ำที่ใช้สวนล้างลำไส้ด้วย เช่น น้ำผึ้ง น้ำชา เหล้า สบู่ หรือ กาแฟ เป็นต้น
สำหรับวิธีการดีท็อกซ์ แบบชีวจิต ทำอย่างไร ทุกวันนี้คนเราเผชิญความเจ็บป่วยกันมากขึ้นอย่างน่าตกใจ สาเหตุก่อโรคที่สำคัญประการหนึ่งคือ ร่างกายของเรามี ท็อกซิน เกิดขึ้นนั่นเอง ท็อกซินที่ว่านี้เกิดได้จากทั้งปัจจัยภายนอก คือ อาหารและสิ่งแวดล้อม และปัจจัยภายใน คือ ความเครียด
อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต กล่าวว่า เราสามารถกำจัดท็อกซินออกจากร่างกายได้ด้วยการทำดีท็อกซ์ (Detoxification) ซึ่งมีทั้งสิ้น 5 วิธี ได้แก่ การสวนทวาร การอบไอน้ำหรืออบซาวน่า การออกกำลังกายและการนวด การใช้ยา – สมุนไพรและเอนไซม์ และการถ่ายเลือด
การทำดีท็อกซ์แบบสวนทวาร เป็นการล้างท็อกซินในลำไส้ใหญ่ โดยใช้สูตรน้ำกาแฟเป็นหลัก และอาจใช้น้ำสูตรอื่นๆ ได้บ้างในบางโอกาส เช่น น้ำมะขาม น้ำมะนาว หรือน้ำอุ่นเปล่าๆ
ข้อมูลจาก FDA Thailand ระบุว่า ในทางการแพทย์การสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำสะอาดผ่านทางทวารหนัก เพื่อล้างเอาอุจจาระออกมา ซึ่งจะทำก็ต่อเมื่อต้องล้างลำไส้ก่อนผ่าตัด หรือ ล้างลำไส้ในผู้ที่มีภาวะลำไส้อุดตันที่ไม่สามารถถ่ายอุจจาระได้เอง และมีการสะสมของอุจจาระในลำไส้ ผู้ที่สามารถทำหัตถการต้องเป็นบุคคลทางการเเพทย์เท่านั้น คือเเพทย์ และ พยาบาล
ดังนั้นบุคคลทั่วไปไม่ควรทำเองที่บ้านเพราะมีความอันตราย และมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ นอกจากนี้การสวนล้างบ่อยๆจะทำให้ไม่สามารถขับถ่ายอุจจาระได้เอง คือทำให้ลำไส้เฉื่อยได้
ชามะละกอ ประโยชน์ และคุณสมบัติ
มะละกอสุก อุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารและมีรสชาติอร่อย ประกอบด้วย สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ เช่น ไลโคปีน ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีแนวโน้มที่จะมากับอายุ เช่นโรคหัวใจและมะเร็ง นอกจากนี้ยังอาจป้องกันสัญญาณที่มองเห็นได้ของริ้วรอยช่วยให้ผิวของคุณยังคงเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ มะละกอ มีเอนไซม์ปาเปน สามารถทำให้โปรตีนย่อยง่ายขึ้น คนทั่วไปกินมะละกอเป็นยาแก้อาการท้องผูกและอาการอื่น ๆ ของอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) มีข้อมูลวิจัยที่น่าสนใจระบุว่า ในการศึกษาหนึ่งคนที่ใช้สูตรมะละกอเป็นเวลา 40 วัน ส่งผลให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอาการท้องผูกและท้องอืด
นอกจากนี้เมล็ดใบและรากยังแสดงให้เห็นถึงการรักษาแผลในสัตว์และมนุษย์ได้อีกด้วย
ข้อเท็จจริงของ ชามะละกอ ล้างลำไส้
ตามที่มีการแชร์ทั่วอินเทอร์เน็ตว่า การดื่มชามะละกอสามารถล้างลำไส้เพื่อกำจัดสารพิษได้ ข้อมูลจาก FDA Thailand ระบุว่า ไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะไม่มีข้อมูลการศึกษาว่าชามะละกอสามารถล้างลำไส้เพื่อกำจัดสารพิษได้จริง ๆ
ความจริงเเล้วอาหารที่เรากินทุกวันก็มีผลต่อการขับถ่าย เช่น มะละกอ มีใยอาหารช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่มขับออกจากร่างกายได้ง่าย และวิธีการที่ปลอดภัยในการที่ทำให้ร่างกายขับถ่ายเป็นปกติ คือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ กินผักผลไม้ที่มีเส้นใยสูง ดื่มน้ำไม่น้อยกว่า 8 แก้วต่อวัน หลีกเลี่ยงความเครียด นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้เราจะมีร่างกายที่แข็งแรงแล้ว
แล้วใบมะละกอ ต้านมะเร็งได้จริงไหม
นอกจากชามะละกอล้างลำไส้ อีกหนึ่งกระแสที่ฮิตพอๆ กัน คือ นำใบมะละกอมาต้มน้ำดื่ม เพื่อต้านมะเร็ง ก็มาแรงไม่แพ้กัน โดยภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เกล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลว่าใบมะละกอสามารถรักษาโรคมะเร็งได้มากน้อยแค่ไหน จึงอยากให้เลี่ยงการดื่มหรือใช้ใบมะละกอรักษาโรค
ใบมะละกอสมุนไพรพื้นบ้านกับการวิจัย
ที่ผ่านมามีงานวิจัยที่ใช้ใบมะละกอคั้นสด ซึ่งต่อยอดจากองค์ความรู้ของชนเผ่าอะบอริจินในออสเตรเลีย มาใช้บำรุงเกล็ดเลือดในผู้ป่วยโรคไข้เลือดอออก แต่ก็มีข้อมูลวิจัยบางส่วนจากการศึกษาในหลอดทดลอง ที่พบฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวและต้านมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งช่องปาก มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก
โดยย้ำว่า ผลการทดลองนี้ไม่ใช่การทดสอบในมนุษย์เป็นเพียงการทดสอบในห้องทดลอง จึงสรุปได้ว่า ยังไม่มีงานวิจัยใดบนโลก ที่ชี้ชัดได้ว่าใบมะละกอมีคุณสมบัติรักษาโรคมะเร็งได้จริง การใช้ใบมะละกอจึงยังมีความเสี่ยงอยู่
สรรพคุณใบมะละกอ
- รักษาอาการไข้เลือดออก, ต้านมาลาเรีย
- ปรับระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยเกี่ยวกับการย่อยอาหาร
- ดีต่อตับ ต้านการอักเสบ
- บำรุงเส้นผม รักษาปัญหาผิว
- ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
ผลข้างเคียง
- ส่งผลให้ค่าเอนไซม์ตับสูงขึ้น
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
ข้อแนะนำในการใช้น้ำใบมะละกอต้ม
- ห้ามใช้ในเด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ ไต หรือป่วยโรคเรื้อรังบางชนิด
- ผู้ป่วยที่ใช้เคมีบำบัดห้ามดื่มเพราะอาจเกิดผลข้างเคียงหนัก
- ไม่ควรดื่มเยอะเกินไป
- ผู้ป่วยพักฟื้นสามารถดื่มได้ แต่จำกัดปริมาณ
คำเตือน ห้ามใช้ยาสกัดใบมะละกอเข้มข้นโดยเด็ดขาด! ส่งผลต่อตับและไต
การใช้สมุนไพรรักษาไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่ควรรักษาควบคู่ไปกับการรักษาหลัก และลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น คิดบวกมากขึ้น ปรับเปลี่ยนการกิน การออกกำลังกาย เพื่อช่วยให้สภาพจิตใจผู้ป่วยดีขึ้น
รู้ไว้ใช่ว่าไม่ดีนะคะ เเต่ต้องยอมรับเลยว่ามะละกอนั้นมีประโยชน์ น่าจะช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายมากกว่า การจะชำระล้างลำไส้ได้