ไอโอดีน สำคัญกว่าที่คุณคิด
หนึ่งในสารอาหารจำเป็นสำหรับทุกคน จนมักถูกใส่เข้าไปเป็นส่วนเสริมในอาหารประเภทต่างๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับอย่างเพียงพอ คงหนีไม่พ้น ไอโอดีน วันนี้เราจะมาว่ากันเรื่องความสำคัญของสารอาหารนี้ หากขาดจะเกิดอะไรกับร่างกายบ้าง โดยจะหยิบยกบทความจากเว็บไซต์ RAMA CHANNEL โดย ศ.เกียรติคุณ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน ที่ปรึกษาด้านบริหาร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาฝาก
สารอาหารที่ขาดไม่ได้
การขาดสารไอโอดีนไม่ใช่แค่ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคคอพอกเท่านั้น แต่ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ จากผลสำรวจของกระทรวงสาธารณสุข ในปี พ.ศ.2552 พบว่าเด็กไทยมี IQ ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล เพราะขาดสารไอโอดีน ทำให้เกิดความพิการทางสติปัญญา ทั้งยังมีงานวิจัยพบว่า หากทดสอบเชาว์ปัญญาของเด็กที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ขาดสารไอโอดีนเปรียบเทียบกับเด็กที่อยู่ในบริเวณที่ไม่ขาดสารไอโอดีน จะพบว่าเด็กกลุ่มแรกมีเชาว์ปัญญาน้อยกว่าเด็กกลุ่มหลังตามลำดับ ถึงแม้ว่าเด็กกลุ่มแรกจะมีลักษณะภายนอกปกติทุกอย่าง
ในอดีตส่วนใหญ่ผู้ที่ขาดสารไอโอดีนมักอยู่ในท้องถิ่นทุรกันดารหรือในพื้นที่ที่ดินไม่มีเกลือไอโอดีน เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคเหนือ ซึ่งโรคดังกล่าวมีมานานมากแล้ว แต่พบจริงๆ เมื่อประมาณ 50-60 ปีที่แล้ว เบื้องต้นประชาชนจะเข้าใจว่าการขาดสารไอโอดีนทำให้เกิดคอพอก ซึ่งโรคคอพอกคือการที่ต่อมไทรอยด์โตเมื่อขาดสารไอโอดีน โดยต่อมไทรอยด์ที่โตขึ้นจะถูกเรียกว่าคอพอก เพราะไอโอดีนเป็นฮอร์โมนที่สร้างจากต่อมไทรอยด์ หรือเรียกว่าไทรอยด์ฮอร์โมนมีไอโอดีนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญนั่นเอง
ช่วงแรกๆ หลายคนจะเข้าใจว่าไอโอดีนทำให้เกิดคอพอก อีกทั้งยังขาดความเข้าใจที่สำคัญไปอีกประเด็นหนึ่ง นั่นคือการบกพร่องทางสติปัญญา แม้สถานการณ์ไอโอดีนจะดีขึ้น จากการสำรวจอาการคอพอกในเด็กนักเรียนที่ลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 5 แต่เมื่อสำรวจไอโอดีนในปัสสาวะ ปรากฏว่ายังต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่
จะเป็นอย่างไรเมื่อขาดไอโอดีน
สิ่งสำคัญที่จะได้รับผลกระทบต่อการขาดสารไอโอดีนมากที่สุด คือ ทารกที่อยู่ในครรภ์มารดา เพราะฉะนั้นสตรีมีภรรค์จึงเป็นกลุ่มคนสำคัญที่จะต้องมีโภชนาการและไอโอดีนที่เพียงพอ และอีกวัยหนึ่งคือหญิงวัยเจริญพันธุ์ เพราะเป็นวัยที่พร้อมจะตั้งครรภ์และก่อนที่จะตั้งครรภ์ควรมั่นใจว่าได้รับโภชนาการและไอโอดีนที่เพียงพอแล้วจากการรับประทาน ดังนั้นจึงควรรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนสามารถขาดสารไอโอดีนได้ตลอดเวลา ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เพียงพอ
คำแนะนำ
คณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติจึงต้องมีมาตรการให้ประชาชนได้บริโภคสารไอโอดีนอย่างทั่วถึง ซึ่งได้มีการผลิตเครื่องผสมเกลือไอโอดีนที่ได้มาตรฐาน และได้มีการกระจายไปยังโรงงานการผลิตต่างๆ ตลอดจนการควบคุมคุณภาพของการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนในระดับโรงงาน ทำให้ปัจจุบันคุณภาพของเกลือเสริมไอโอดีนดีขึ้นตามลำดับ แต่ก็ควรเฝ้าระวังในทุกๆ วัน กระบวนการผลิตจึงจะได้มาตรฐาน
นอกจากนี้เราต้องเฝ้าระวังเรื่องการใช้เกลือเสริมไอโอดีนในครัวเรือน รวมทั้งส่งเสริมการกระจายที่ครอบคลุมทั่วถึง เช่นใน อาหารทะเล ซีอิ้ว น้ำปลา หรือยาเม็ดเสริมไอโอดีนในสตรีมีครรภ์ ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้ในปัจจุบัน สิ่งที่ดีที่สุดคือความเข้าใจของประชาชนโดยเฉพาะสตรีมีครรภ์มารดา และต้องระวังไม่ให้เกิดโรคขาดสารไอโอดีน และให้โรคนี้หมดสิ้นไปในประเทศไทย
ข้อมูลจาก รายการพบหมอรามา ช่วง Meet the Expert คนไทยต้องไม่ขาดไอโอดีน เดือนมิถุนายน 2559
ศ.เกียรติคุณ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน ที่ปรึกษาด้านบริหาร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เช็คอาการ คัดกรอง ป้องกัน และรู้ทัน โรคไตเรื้อรัง