งดกินแป้ง ลดพุง ได้จริงหรือ

LOW-CARB DIET งดกินแป้ง ลดพุง ได้จริงหรือ

ปัญหาหนักอกหนักใจของหลายคน อ้วน มีพุง กินอย่างไรจึงจะ ลดพุง ลดอ้วนได้ ปัจจุบันนี้มีทฤษฎีการลดน้ำหนักหลากหลายวิธีด้วยกัน หนึ่งในทฤษฎีฮิตคือการงดกินแป้งเพื่อลดน้ำหนัก หมอ (พญ.สาริษฐา สมทรัพย์) จึงหยิบประเด็นการงดกินแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรตเพื่อลดความอ้วนมาอธิบายให้ผู้อ่านได้ฟังกันว่า แท้จริงแล้วมีความเป็นไปได้หรือไม่

คาร์โบไฮเดรต คือสารอาหารชนิดหนึ่ง เมื่อกินเข้าไปแล้วร่างกายจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสและไขมันเพื่อเป็นพลังงาน โดยส่วนใหญ่ร่างกายจะดึงพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตมาใช้ก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งในการกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งของแต่ละคนนั้นมีปริมาณไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราการเผาผลาญและกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานในแต่ละวันของแต่ละบุคคล โดยค่าเฉลี่ยความต้องการคาร์โบไฮเดรตอยู่ที่ประมาณวันละ 1,200 – 2,000 กิโลแคลอรี

ถึงแม้ว่าคาร์โบไฮเดรตที่ได้จากแป้งจะเป็นอาหารหลักที่สามารถแปลงเป็นพลังงานให้ร่างกายได้ แต่อาหารจำพวกโปรตีนและสารอาหารกลุ่มไขมันก็สามารถให้พลังงานได้เช่นเดียวกันกับคาร์โบไฮเดรต เพียงแต่ว่าร่างกายนำมาใช้ได้ยากกว่าเท่านั้นเอง

กระบวนการย่อยสลายคาร์โบไฮเดรตให้เป็นพลังงานคือ เมื่อกินเข้าไปจะเกิดการย่อยกลายเป็นน้ำตาลกลูโคส และส่งเข้าในกระแสเลือดเพื่อส่งต่อไปยังเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย การดูดซึมของเซลล์จะเกิดขึ้นโดยมีฮอร์โมนอินซูลินซึ่งถูกผลิตขึ้นที่ตับอ่อนเป็นตัวกระตุ้น บางส่วนของกลูโคสถูกใช้เป็น

พลังงานของร่างกายในการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวัน ส่วนที่เหลือจากการใช้งานจะถูกลำเลียงมาเก็บไว้ที่ตับ กล้ามเนื้อ และเซลล์ต่างๆ และส่วนสุดท้ายที่เหลือจากการใช้งานจะถูกแปรสภาพให้เป็นไขมันเพื่อเก็บไว้เป็นพลังงานสำรองนั่นเอง

หลักการของการงดกินแป้งหรือวิธีโลว์คาร์บไดเอต จึงสามารถควบคุมระดับอินซูลินให้ทำงานคงที่ปกติ และป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกินในร่างกาย โดยจำกัดให้ระดับน้ำตาลเพียงพอแค่ใช้เป็นพลังงานจำเป็นเท่านั้น

กินโลว์คาร์บอย่างไรดี

หมอแนะนำว่าไม่ควรงดการกินคาร์โบไฮเดรตไปเลย เพราะในระยะยาวจะทำให้ระบบการทำงานของอินซูลินนั้นเสียหาย อินซูลินจะไม่ได้รับการกระตุ้น เนื่องจากระดับน้ำตาลในร่างกายไม่ขึ้น ทำให้ระบบการควบคุมน้ำตาลในเลือดผิดปกติ เพราะฉะนั้นร่างกายต้องรับคาร์โบไฮเดรตเข้าไปบ้างเพื่อให้อินซูลินทำงานปกติ

ส่วนคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงแต่ให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อโครงสร้างและการทำงานของเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะอีกด้วย

เพราะฉะนั้นควรเลือกกินคาร์โบไฮเดรตประเภทเชิงซ้อน (Complex Carbohydrates) ในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย นอกจากจะทำหน้าที่หลักคือใพลังงานแก้ร่างกาย ยังมีคุณทางสารอาหารอื่นเป็นองค์ประกอบด้วย เช่น มีวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหารสูง หรือแม้กระท่งัมีไขมันและโปรตีน คาร์โบไฮเดรตกล่มุ นี้ ได้แก่ ข้าวกล้อง โฮลวีต เผือกมัน ข้าวโพด ฟักทอง ถั่วเมล็ดแห้ง เป็นต้น

ส่วนคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ดีเป็นกลุ่มคาร์โบไฮเดรตประเภทที่ให้พลังงานเพียงอย่างเดียว มีสารอาหารอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายน้อยและไม่มีกากใยที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ ข้าวขาว แป้งและน้ำตาลต่างๆ หรือเรียกกันอีกอย่างว่า คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว

ไฮคาร์บ (High-carb) ก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ผลเสียของการกินแป้งและน้ำตาลที่มากเกินความต้องการของร่างกาย ทำให้ตับเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเป็นน้ำตาลและไขมัน และเก็บเข้าร่างกายในลักษณะของไขมันสะสม โดยสะสมเป็นไขมันส่วนเกินบริเวณเส้นเลือดและอวัยวะต่างๆ เช่น หน้าท้อง ต้นขาแต่ถ้าลดหรืองดการกินคาร์โบเดรตไป ร่างกายจะทำปฏิกิริยาโดยการดึงพลังงานออกมาจากไขมัน (FAT) ที่สะสมตามร่างกาย เมื่อร่างกายดึงไขมันที่สะสมตามส่วนเกินออกมา จึงทำให้เห็นว่าสรีระร่างกายดูผอมลง หรือในบางคนน้ำหนักลดลง

สรุปนะคะ การทำโลว์คาร์บไดเอตถือเป็นการฟื้นฟูและช่วยรักษาปัญหาด้านสุขภาพเฉพาะช่วง หรือเป็นการลดน้ำหนักในช่วงหนึ่งเท่านั้น ส่วนสิ่งสำคัญที่สุดของทุกวิธีการลดน้ำหนัก ร่างกายต้องได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอ ประมาณ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อให้ระบบเผาผลาญและขับของเสียทำงานเป็นปกติ

เพราะฉะนั้นสูตรลดน้ำหนักที่ไม่กินคาร์โบไฮเดรตเอให้ร่างกายได้สลายไขมันหรือเป็นการดึงพลัง งานจากไขมันมาใช้นั้น ควรงดการกินแป้งเป็นช่วงระยะเวลาเท่านั้น ประมาณ 1 – 2 เดือน เพื่อให้ระบบการทำงานของอินซูลินไม่เสียหายมากค่ะ

เคล็ดลับอีกอย่างที่อยากแนะนำคือ ถ้าร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรต ควรกินโปรตีนที่มีคุณภาพเพียงพอ เช่น ปลา อาหารทะเล ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ และกินไขมันดีจำพวกปลาทะเลน้ำลึกหรือปลาน้ำจืด และต้องเพิ่มแร่ธาตุเพื่อเป็น Co-factor ในการย่อย โดยเฉพาะแร่ธาตุกลุ่มแมกนีเซียม แมงกานีส และคอปเปอร์เพื่อให้ร่างกายได้พลังงานทดแทนและช่วยเรื่องการเผาผลาญ

สรุปคือ กิน Low-carb ได้ แต่ต้อง High Protein และ High Fat จะเป็นวิธีการที่ไม่ทำร้ายร่างกายจนเกินไปค่ะ

ข้อมูลจาก พญ.สาริษฐา สมทรัพย์ กุมารแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม

คอลัมน์ ACTIV BEAUTY นิตยสารชีวจิต ฉบับ 509

บทความน่าสนใจอื่นๆ

วิธีลดน้ำหนัก แบบธรรมชาติ ไม่มีวันโยโย่

รวม FAD DIETS เทรนด์อาหารลดน้ำหนัก หุ่นดี ไม่เสียสุขภาพ

ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่