4 อาหาร ต้านโรคภัย ที่คุณอาจคาดไม่ถึง

การหมั่นสังเกตตัวเอง ดูแลเรื่องอาหารการกินอยู่เสมอ เป็นอีกตัวช่วยที่ทำให้ร่างกายเราแข็งแรง เพราะถ้ามีความผิดปกติ เราจะได้หาทางรักษาได้ทัน และอย่างที่ทุกคนพูดกันมานักต่อนักว่า โรคภัยอยู่ใกล้เราแค่ปลายช้อนที่ตัก อาหาร เข้าปาก ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่เกินเลยไปเสียทีเดียว บทความนี้เราจึงอยากแนะนำ 4 อาหาร ต้านโรคภัย ดีต่อสุขภาพ ที่คุณอาจคาดไม่ถึง

กะหล่ำปลี

ข้อมูลจาก คุณจอร์จ มาเทลแจน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์สำหรับคนรักสุขภาพ The World’s Healthiest Foods ได้เผยคุณประโยชน์ของกะหล่ำปลี ว่าเป็นผักที่มีเส้นใยอาหาร รวมถึงวิตามินบี 6 โฟเลต และแมงกานีสสูงมาก เมื่อกินเข้าไปจะทำให้อยู่ท้องได้นาน

นอกจากนี้กะหล่ำปลียังมีกรดทาร์ทาริกที่ช่วยยับยั้งและขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายเป็นไขมัน จึงมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักและลดคอเลสเตอรอล (หากร่างกายมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง อาจเป็นอันตรายต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดได้) แต่ทั้งนี้ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะและผ่านการปรุงสุก เพราะหากกินกะหล่ำปลีดิบในปริมาณมากและเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อต่อมไทรอยด์ได้

แซลมอน

อาหารสีสันสดใส ซาบซ่าหัวใจของใครหลายคน แถมยังเต็มไปด้วยโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อหัวใจ การทำงานระบบต่างๆ ในร่างกาย และช่วยการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง ตลอดจนชะลอความเสื่อมและคงความกระปรี้กระเปร่า

ส่วนใครนอนหลับยาก ปลาแซลมอน ก็สามารถบรรเทาความเครียด ช่วยให้นอนหลับสบาย กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น โดยมีงานทดลอง แบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้รับประทานปลาแซลมอน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ อีกกลุ่มรับประทานอาหารจำพวกเนื้อไก่ เนื้อหมู และเนื้อวัว เป็นเวลา 6 เดือน พบว่า กลุ่มที่ให้ทานปลาแซลมอน มีส่วนช่วยเพิ่มระดับวิตามินดี ที่อาจเกี่ยวข้องกับการเพิ่มคุณภาพในการนอนหลับ

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ

ในโยเกิร์ตมีโปรตีนสูง ช่วยให้ระบบขับถ่ายของคุณทำงานได้ดีขึ้น ส่วนโพรไบโอติกในโยเกิร์ตธรรมชาติจะช่วยให้ระบบขับถ่ายของคุณทำงานได้ดีขึ้นไปอีก และโยเกิร์ตยังนับว่าเป็นเมนูที่เต็มไปด้วยสารอาหาร ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน ที่จะทำให้คุณอิ่มนาน อิ่มยาว มีแคลเซียม ที่จะช่วยให้กระดูกแข็งแรงและลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระดูกพรุนเมื่ออายุมากขึ้น และยังช่วยป้องกันการเกิดความดันโลหิตสูง เนื่องจากโยเกิร์ตจะช่วยกำจัดโซเดียมส่วนเกินในร่างกายส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงไปด้วย นอกจากนั้นในโยเกิร์ตยังมีแมกนีเซียม วิตามินบี12 และกรดไขมันจำเป็นบางตัวอีกด้วย ซึ่งโยเกิร์ตที่ส่งผลดีที่สุดก็คือโยเกิร์ตรสธรรมชาตินั่นเอง

ถั่ว

สารพัดถั่วที่เรารู้จัก ไม่ว่าจะเป็นถั่วลิสง งา เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เรื่อยไปถึงขนมปังโฮลวีต ล้วนมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพได้เช่นกัน เพราะมีคุณค่าทางอาหารสูง อีกทั้งยังมีส่วนผสมของน้ำมัน โปรตีน และวิตามินอี ไม่ว่าจะเป็น อัลมอนด์ พิสตาชิโอ แต่อย่าลืมคำนึงว่าบรรดาถั่วเหล่านี้มีแคลลอรี่สูง เนื่องจากถั่ว เป็นแหล่งอาหารที่ให้พลังงาน อาทิเช่น อัลมอนด์ หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ปริมาณ 1 ถ้วย อาจให้พลังงานสูงถึง 200 กิโลแคลอรี่ได้เลยทีเดียว

นอกจากนี้ ถั่วบางชนิดอาทิ เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ วอลนัท ยังให้กรดโอเมก้า 3 เช่นเดียวกับเนื้อปลา ยังมีวิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยมที่ช่วยชะลอการเสื่อมสมรรถภาพของเซลส์และปกป้องปอดจากมลพิษทางอากาศได้อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม