เตรียมตัวเอ๊าะ เดินหัวเราะในวัยเกษียณ
คุณวาดภาพตัวเองใน วัยเกษียณ ไว้อย่างไรคะ หลายคนเห็นตัวเองออกเดินทางรอบโลกไปยังสถานที่ที่เคยวาดฝันในวัยหนุ่มสาว บางคนมีความสุขกับอิสรภาพเพราะได้ทํางานอดิเรก ตลอดจนสิ่งต่างๆ ที่อยากทํามานาน หลายคนมองเห็นรอยยิ้ม ความกระฉับกระเฉง และพลังความเป็นหนุ่มสาวในตัวเอง
ความปรารถนาเหล่านี้เป็นจริงได้ค่ะ หากคุณมีกระดูกที่แข็งแรง ซึ่งต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อไม่ว่าจะวัยยี่สิบต้นๆ หรือห้าสิบปลายๆ ก็พร้อม “เอ๊าะ” กันได้ใน วัยเกษียณ ชีวจิตวันนี้เราจึงอยากชวนคุณมากินเพื่อฟิตกระดูกอย่างถูกวิธีเพื่อต้อนรับความแข็งแรงในวัยแห่งอิสรภาพที่กําลังใกล้เข้ามาค่ะ
กระดูกสําคัญอย่างไร
กระดูกมีความสําคัญต่อการดํารงชีวิต เพราะทําหน้าที่ปกป้องอวัยวะภายใน เป็นที่ยึดเกาะของเอ็นและกล้ามเนื้อ ช่วยรับน้ำหนัก และทําให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้เป็นปกติ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น กระดูกที่แข็งแรงจะช่วยให้เราเดินเหินคล่องแคล่ว ลดอุบัติเหตุ และอันตรายจากการหกล้ม ทําให้ร่างกาย มีศักยภาพสําหรับทํากิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น
กระดูกเริ่มสลายตั้งแต่เมื่อไร
แพทย์หญิงสิรินทร ฉันศิริกาญจน หัวหน้าหน่วยเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ข้อมูลว่า กระบวนการสร้างและสลายกระดูกเกิดขึ้นตลอดเวลา โดยกระดูกจะถูกสร้างจนแข็งแรงสูงสุดเมื่ออายุ 30-35 ปี หลังจากนั้นอัตราการสลายจะมากกว่าการสร้าง โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยหมดประจําเดือน (อายุประมาณ 50 ปี) จะพบการสลายของกระดูกมากกว่าผู้ชายในวัยเดียวกัน
หากปล่อยให้ร่างกายสูญเสียเนื้อกระดูกไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการป้องกัน อาจต้องจินตนาการภาพในวัยเกษียณเสียใหม่ ทั้งหลังค่อมฟันหลุดร่วง กระดูกเปราะบาง แถมต้องคอยระวังตัวทุกย่างก้าวขณะเคลื่อนไหว เพราะเพียงสะดุดก้อนหินก็อาจทําให้หกล้มจนกระดูกหัก และอาจเสียชีวิตได้ง่ายๆ
อยากกระดูกแข็งแรงต้องเร่งสะสม
แม้ว่ากระดูกจะสลายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่หากรู้จักวิธีสะสมแคลเซียมเพื่อเพิ่มเนื้อกระดูกและชะลออัตราการสลายของกระดูก เมื่ออายุเพิ่มขึ้นร่างกายก็จะมีกระดูกที่แข็งแรง และสามารถทําหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ตราบสิ้นอายุขัย
แคลเซียม เป็นส่วนประกอบสําคัญของกระดูกและฟัน ช่วยควบคุมการทํางานของกล้ามเนื้อ การเต้นของหัวใจ การแข็งตัวของเลือด และกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนบางชนิด เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสร้างแคลเซียมได้ จึงจําเป็นต้องได้รับจากอาหารอย่างเพียงพอ มิเช่นนั้นร่างกายจะสลายแคลเซียมจาก กระดูก ส่งผลให้เนื้อกระดูกบางลง ทําให้เกิดภาวะกระดูกพรุน กระดูกทรุดตัว และอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
อาหารไทย แคลเซียมสูง
หากกินอาหารที่มีแคลเซียมสูงทุกวัน โดยเฉพาะอาหารตามสูตรชีวจิตที่มีส่วนประกอบของกุ้งแห้ง กุ้งฝอย งาดํา ถั่วเหลือง เต้าหู้ และผักใบเขียว รับรองว่าร่างกายจะได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอสําหรับสะสมและชะลออัตราการสลายของกระดูกแล้วค่ะ
4 พฤติกรรมกินเสี่ยงสูญเสียแคลเซียม
กินแคลเซียมอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจเร่งให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียมเพิ่มขึ้น ดังนี้ค่ะ1.กินเนื้อสัตว์ปริมาณมาก โปรตีนจากเนื้อสัตว์จะกระตุ้นให้ไตขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะเพิ่มขึ้น
2.กินอาหารรสเค็ม เกลือโซเดียมขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมในอาหาร ทําให้ร่างกายได้รับแคลเซียมลดลง
3.ดื่มน้ำอัดลม น้ำอัดลมมีส่วนผสมของกรดฟอสฟอริก หากดื่มปริมาณมากจะกระตุ้นให้กระดูกสลายแคลเซียมเพิ่มขึ้น 4.ดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกําลัง และแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์และกาเฟอีนในเครื่องดื่มมีฤทธิ์ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมและกระตุ้นให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะเพิ่มขึ้น
กินอาหารที่มีแคลเซียมสูงและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงแล้วคุณจะพบว่าเมื่ออายุมากขึ้นคุณจะมีกระดูกแข็งแกร่งมีร่างกายแข็งแรง และมีโอกาสทําสิ่งต่างๆ มากกว่าคนในวัยเดียวกันค่ะ
ที่มา: นิตยสาร ชีวจิต ปีที่ ฉบับที่ 319