เช็ก อาการแพ้ต่างหู เรื่องใกล้ตัว ที่ไม่ควรมองข้าม

ต่างหู เครื่องประดับที่สามารถใส่ได้ทุกเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ติดตามเทรนด์แฟชั่นตลอดเวลา ยิ่งนิยมเปลี่ยนเครื่องประดับบ่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้บางคนเกิดอาการแพ้ เป็นผื่นคัน ผื่นแดงได้ ในบางรายก็มีอาการเป็นๆ หายๆ หรือหนักข้อขึ้นหน่อย ก็เป็นผื่นคันแดงเรื้อรัง จนไม่สามารถต่างหูได้อีกเลย ถ้าคุณเป็นถึงขั้นนี้แสดงว่า คุณมีอาการหูอักเสบเข้าแล้ว ฉะนั้นเรามีวิธีสังเกต อาการแพ้ต่างหู และวิธีป้องกันไว้ก่อนหูอักเสบ มาฝากกัน

เราแพ้ต่างหู เพราะแพ้โลหะที่ใช้ทำต่างหู

สาเหตุของการแพ้ต่างหู ส่วนใหญ่มาจากการแพ้ส่วนผสมที่ใช้ทำต่างหู โดยทั่วไปเครื่องประดับอย่างต่างหูผลิตจากหลากหลายวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นทอง เงิน นาก ทองคำ ขาว แพลทินัม ซึ่งวัสดุดังกล่าวส่วนใหญ่คนจะแพ้น้อยมาก โดยข้อมูลจาก พญ. สาริษฐา สมทรัพย์ กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม เปิดเผยข้อมูลว่า ร่างกายมนุษย์จะมีปัญหากับโลหะผสมบางเช่น นิกเกิล ดีบุก และยังมีสารเคมีอันตรายชนิดอื่นๆ ที่เป็นตัวเคลือบหรือตัวผสานต่างหู ซึ่งทำให้เราเกิดอาการแพ้ โดยเฉพาะโลหะนิกเกิลเป็นตัวกระตุ้นการเกิดภูมิแพ้มากที่สุด และสารดังกล่าวทำให้การทำงานของวิตามินเอและบีไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

วิธีเช็กอาการแพ้ต่างหู

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ผิวหนังบริเวณใบหูของเราจัดได้ว่าเป็นส่วนที่มีความบอบบาง และเกิดการแพ้ได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือสาวๆ หนุ่มๆ ที่มีผิวบางและแพ้ง่าย อาการเริ่มแรกสังเกตได้โดยเมื่อเราใส่ต่างหูไปสักพักแล้วมีอาการเจ็บหู บวมแดงแสดงว่ามีความเสี่ยงที่เราจะแพ้ต่างหูคู่นั้นแล้วล่ะ ซึ่งอาจมีอาการอื่นรวมด้วย เช่น เกิดหนองบริเวณที่ใส่ต่างหู มีผื่นคัน หอบหืด และน้ำมูกไหล

แล้วเราจะป้องกันอาการแพ้ต่างหูอย่างไรดี

1. สังเกตว่าคุณใส่ต่างหูที่มีสารเคมีแปลกปลอมหรือเปล่า เพราะจะทำให้กระตุ้นกลไกของร่างกายแสดงอาการแพ้ เช่นโลหะนิกเกิล ถ้าร่างกายสะสมโลหะนี้ไปนานๆ นอกจากส่งผลแพ้แล้ว ยังส่งผลต่อความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารและระบบประสาทอีกด้วย

2. ดูแลความสะอาดให้ดี ด้วยการใช้แอลกฮอล์ล้างแผลเช็ดที่ก้านต่างหูก่อนใส่ และล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสหรือใส่ต่างหู

3. ทาวาสลีนที่ก้านต่างหูก่อนใส่ และทาวาสลีนบริเวณที่ต้องเสียดสีกับต่างหูบ่อยๆ เพื่อจะช่วยลดการเกิดอาการแพ้ได้ อีกทั้งการทาวาสลีนยังช่วยลดแบคทีเรียได้อีกด้วย

4. หากมีอาการผิวหนังอักเสบแล้ว ควรใช้ยาทาเพื่อลดอาการคันและอักเสบ หรือรับประทานยาเพื่อลดอาการคัน และควรปรึกษาแพทย์ เพื่อไม่ให้อาการรุนแรงเกิดรักษา

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
นิตยสารชีวจิต 513

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –