ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เมื่อไรดี
คำถามจากทางบ้าน : คุณแม่ของดิฉันอายุ 75 ปีแล้ว อยากทราบว่ายังจำเป็นต้องไป ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก อยู่อีกหรือไม่
แพทย์ตอบ
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีคุณป้าชื่อสมศรี(นามสมมุติ) อายุ 65 ปีมาตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือแปปสเมียร์(Pap Smear)ตามนัดทุกปี คุณป้าถามฉันว่า
“คุณหมอ ป้าจะเลิกตรวจภายในได้หรือยัง ปกติเขาจะเลิกตรวจหามะเร็งปากมดลูกตอนอายุเท่าไรกัน” ฉันคุ้นเคยกับป้าสมศรีมาก เพราะตรวจกันมานานกว่า 20 ปี จึงพูดกับป้าว่า
“เลิกตรวจภายในเมื่อป้าเบื่อชีวิต” ป้าสมศรีหัวเราะ ตอบว่า “ป้าคงไม่เบื่อชีวิตง่ายๆหรอกหมอ”
สำหรับการตอบคำถามที่ว่า… เมื่อไรจึงจะเลิกตรวจแปปสเมียร์ ก่อนอื่นขออธิบายเรื่องการตรวจภายในกับการตรวจคัดกรองหามะเร็งปากมดลูก(แปปสเมียร์)ก่อนนะคะ การตรวจภายในคือการตรวจอวัยวะสืบพันธุ์ โดยแพทย์จะตรวจดูอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก แล้วใส่เครื่องมือที่เรียกว่าสเป็คคูลัม ซึ่งมีลักษณะเหมือนปากเป็ด เข้าไปตรวจดูอวัยวะสืบพันธุ์ภายใน ได้แก่ ช่องคลอดปากมดลูก และคลำดูขนาดมดลูกรวมถึงคลำตรวจปีกมดลูกด้วยส่วนแปปสเมียร์คือการตรวจคัดกรองหามะเร็งปากมดลูกผ่านการตรวจภายใน โดยใช้ไม้ง่ามหรือพู่กันป้ายเอาเซลล์ที่ปากมดลูกไปตรวจทางเซลล์วิทยา
ดังนั้นคุณสามารถตรวจภายในได้โดยไม่ต้องตรวจแปปสเมียร์ แต่คุณไม่สามารถตรวจแปปสเมียร์โดยไม่ตรวจภายในได้แปปสเมียร์นั้นมีประโยชน์ เพราะสามารถตรวจพบมะเร็งปากมดลูกได้
ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ช่วยให้รักษาได้ทันท่วงที ลดการเกิดมะเร็งปากมดลูกระยะลุกลาม ลดอัตราการตายและอัตราทุพพลภาพจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้ตัวอย่างเช่น ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกไม่ติดอันดับการเสียชีวิต 1 ใน 5 ของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง พบว่าเพราะมีการรณรงค์ให้ทำแปปสเมียร์ในปีค.ศ.1950 – กลางปีค.ศ. 1980 ตามโปรแกรมของรัฐจึงสามารถลดการเกิดมะเร็งปากมดลูกไปได้ถึงร้อยละ 70
ในประเทศไทยการรณรงค์ให้ตรวจแปปสเมียร์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ส่งผลให้จำนวนและอัตราตายของคนไข้มะเร็งปากมดลูกลดลงจากอันดับที่ 1 เป็นอันดับที่ 2 รองจากมะเร็งเต้านม
โปรแกรมการคัดกรองของประเทศสหรัฐอเมริกาที่พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์มีดังนี้
1. เริ่มทำแปปสเมียร์เมื่ออายุ21 ปี ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ โดยตรวจทุก 3 ปี ให้เหตุผลที่ไม่คัดกรองในคนอายุต่ำกว่า 21 ปีไว้ว่า เพราะโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูกระยะลุกลามในวัยรุ่นมีน้อยมาก แค่ 1 ในล้านคน
2. เมื่ออายุ30 ปีขึ้นไปให้ตรวจหาไวรัสเอชพีวีร่วมกับการตรวจแปปสเมียร์ทุก 5 ปี
3. หยุดตรวจที่อายุ 65 ปีในคนที่ทำตามโปรแกรมการคัดกรองอย่างเคร่งครัด ภายใน 10 ปีที่ผ่านมา มีผลการตรวจไวรัสเอชพีวีร่วมกับการตรวจแปปสเมียร์เป็นลบอย่างน้อย 2 ครั้ง หรือการตรวจแปปสเมียร์เป็นลบอย่างน้อย 3 ครั้ง และตรวจครั้งสุดท้ายภายในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเพราะหากทำตามโปรแกรมการคัดกรองโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกหลังอายุ 65 ปีจะมีน้อยมาก
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยแนะนำให้ตรวจคัดกรองแปปสเมียร์ตั้งแต่อายุ 21 ปี ทุก 3 ปีจนถึงอายุ65 ปี
(ที่มา :คอลัมน์ Ask GURU นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 426)
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รู้จัก การตรวจมะเร็งปากมดลูกทางปัสสาวะ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนขี้เขิน
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เรื่องดีๆ ที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้
ประสบการณ์สุขภาพ : เอาชนะโรคมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิถี “ชีวจิต”