เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักเกลือกันดีอยู่แล้ว แต่หากพูดถึง “เกลือหิมาลายัน” หรือ “เกลือสีชมพู” แล้วล่ะก็ หลายคนคงจะงงและสงสัยว่ามันคืออะไรใช่ไหมคะ? บอกเลยว่าถ้าได้ทราบถึงที่มาแล้วจะอึ้งกับความมหัศจรรย์ของมันเลยแหละ เพราะเกลือหิมาลายันมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัยในประเทศปากีสถาน ซึ่งกว่าจะได้มานั้นต้องผ่านการระเหยของน้ำทะเลเป็นเวลากว่า 250 ล้านปีก่อน จนกลายเป็นผลึกเกลือสีชมพูที่ประกอบด้วยแร่ธาตุถึง 84 ชนิด ส่งผลให้เกลือเป็นสีชมพูนั่นเอง ด้วยความพิเศษนี้เอง จึงเป็นเกลือที่ได้รับการยกย่องว่ามีประโยชน์สูงสุด และบริสุทธิ์ที่สุดในโลก
ถ้าจะถามว่าประโยชน์ของมันมีอะไรบ้างบอกเลยว่าเล่ายังไงก็ไม่หมดค่ะ ดังนั้นเอาเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเราและสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้ก็แล้วกันเนอะ อย่างแรกเลยก็คือประโยชน์ด้านสุขภาพร่างกาย เพราะเกลือหิมาลายันประกอบด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายถึง 84 ชนิด มีคุณสมบัติช่วยละลายและขจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย ปรับความสมดุลของน้ำตาลในเลือดโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน อีกทั้งยังช่วยขจัดเสมหะในปอด และกำจัดเชื้อโรคในอากาศทำให้เรานอนหลับสบาย แม้แต่วงการความสวยความงาม ก็มักจะนิยมใช้เกลือหิมาลายันในการทำสปาไม่ว่าจะเป็นการขัดผิวกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย รวมถึงช่วยแก้ปัญหาโรคผิวหนังต่างๆ ได้ด้วยการแช่ตัวในน้ำเกลือ ร่างกายจะขับสารพิษออกมาทำให้รู้สึกผ่อนคลาย บรรเทาอาการเหนื่อยเมื่อยล้า ลดปัญหาสิว ผดผื่น ทำให้ผิวชุ่มชื่นดูมีออร่าอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้เมื่อนำเกลือหิมาลัยมาปรุงอาหาร ร่างกายของเราก็จะได้รับประโยชน์จากแร่ธาตุในเกลือหิมาลายันถึง 84 ชนิดโดยตรง แถมยังช่วยให้รสชาติอาหารอร่อย กลมกล่อมขึ้น ช่วยดูดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นคาวปลา และกลิ่นคาวอื่นๆ ออกไปได้ด้วย ทำให้เหมาะที่จะนำมาปรุงอาหารสุดๆ ประโยชน์สำคัญอีกข้อหนึ่งที่เราไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลยก็คือ เกลือหิมาลัยมีคุณสมบัติช่วยเรื่องสุขภาพช่องปาก ทำให้เหงือกและฟันแข็งแรง ลดความเสี่ยงการเป็นโรคเหงือก ยับยั้งแบคทีเรีย และให้ความชุ่มชื่นในช่องปาก หรือหากใครที่มีแผลในช่องปากแนะนำให้ละลายเกลือในน้ำเปล่าแล้วอมจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น หรือผสมกับน้ำโซดาเพื่อใช้บ้วนปากจะช่วยขจัดกลิ่นปากและลดปัญหาการเกิดโรคในช่องปาก เช่น ฟันผุกร่อน เสียวฟัน ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ด้วยเหตุนี้ทำให้ปัจจุบันเริ่มมีการนำเกลือหิมาลายันมาใช้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของยาสีฟันด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อนำคุณสมบัติของเกลือหิมาลายันที่มีต่อสุขภาพช่องปากตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น มาผสานพลังกับส่วนประกอบอื่นๆ อาทิ สมุนไพรธรรมชาติ ก็จะยิ่งทวีคุณประโยชน์มหาศาลเลยล่ะค่ะ คราวนี้พอเข้าใจรึยังคะว่าทำไมเกลือหิมาลายันจึงเป็นเกลือมหัศจรรย์ เพราะประโยชน์ของมันมีดีมากกว่า…แค่ความเค็ม ควรค่าแก่การมีติดบ้านไว้จริงๆ ค่ะ
หากใครสนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถคลิ๊กเข้าไปดูกันได้ที่เว็บไซต์ www.salz.co.th ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ
