ซานเหย้า
คือมันเทศชนิดหนึ่ง มีฤทธิ์ช่วยบำรุงม้าม กระเพาะอาหาร คนไข้โรคเบาหวาน ม้าม กระเพาะอาหาร ตับ ตับอ่อน จะอ่อนแอ เราสามารถนำซานเหย้ามาทำอาหารเพื่อบรรเทาโรคเบาหวานได้หลายอย่าง เช่น คุกกี้ ซานเหย้านึ่ง หรือชาซานเหย้า โดยการนำมาต้มกับน้ำ ใส่หญ้าหวานลงไป จากนั้นนำมากินทั้งน้ำและเนื้อ
ในเมืองไทยหาซื้อซานเหย้าได้ตามตลาดขายอาหารและสมุนไพรจีนใหญ่ๆ เช่น เยาวราช ส่วนในเมืองจีน คนจีนนิยมกินซานเหย้าก่อนกินข้าว เพื่อช่วยเจริญอาหาร ช่วยย่อย ไม่ทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เมนูที่คนจีนชอบกินคือ นำซานเหย้ามาผัดกับเห็ดหูหนูดำ ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู ซอสเปรี้ยว ผัดเสร็จแช่ให้เย็นแล้วจึงนำออกมากิน
ฟักทอง ถั่วเขียวต้ม
ใช้ฟักทอง 500 กรมั ถั่วเขียว 250 กรมโดยหั่นฟักทองเป็นชิ้นเล็ก นำถั่วเขียวต้มกับน้ำให้สุก จากนั้นใส่ฟักทองลงไป ใส่หญ้าหวานเล็กน้อย ต้มให้ฟักทองสุก กินน้ำและเนื้อ วันละ 2 ครั้งเช้า – เย็น จะช่วยลดน้ำตาลในเลือด ทำให้ตัวเย็นลง เพราะถั่วเขียวมีฤทธิ์ลดความร้อน จึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน
ชาซานเหย้าแห้ง หวงฉี บ๊วยดำ
สำหรับชาสูตรนี้เราใช้ซานเหย้าตากแห้งที่ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร หวงฉี บำรุงชี่เพิ่มพลังงานร่างกาย และบ๊วยดำเพิ่มกลิ่นหอม ใช้ซานเหย้าและหวงฉีอย่างละ 30 กรัม บ๊วยดำ 1 เม็ด ชงกับน้ำร้อน 500 ซีซี จิบได้ตลอดวัน แต่ชาสูตรนี้ไม่เหมาะกับคนที่ขี้ร้อน เหงื่อออกง่าย หรือเป็นไข้หวัด
ชาเก๋ากี้ ซานจา
ชาตำรับนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานขึ้นตา เก๋ากี้บำรุงไต บำรุงตับ ส่วนซานจาบำรุงม้าม กระเพาะอาหาร วิธีชงคือ ใส่เก๋ากี้และซานจาอย่างละเท่าๆ กัน ชงกับน้ำร้อน ดื่มเพื่อควบคุมระดับน้ำตาล จะสังเกตได้ว่าชาและอาหารที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดจะมีรสเปรี้ยวและขม ซึ่งเป็นไปตามทฤษฎีปัญจธาตุที่มีเรื่องสีและรสที่สังกัดเข้ามาเกี่ยวข้อง จะเห็นได้ว่าการกินหวานมากจะทำลายตับ ตับอ่อน รสขมนั้นมีฤทธิ์เย็น จึงช่วยลดความร้อน ส่วนรสเปรี้ยวจะช่วยระบายตับที่อุดกั้น
นอกจากชาและอาหารที่ต้องดูแลแล้ว คนไข้ต้องควบคุมเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกด้วย เพราะเกี่ยวพันกับอวัยวะตับ โกรธ โมโห เสียใจมาก ก็ทำให้ตับทำงานผิดปกติได้เช่นกัน รวมถึงต้องหม่นั ออกกำลังกายด้วยเพื่อให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานอย่างสมดุล
จาก คอลัมน์หมอจีนประจำบ้าน นิตยสารชีวจิต ฉบับ 462
บทความน่าสนใจอื่นๆ
เปิดตำราสมุนไพรจีนตามหาคุณค่าถั่งเช่า