4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
น้ำเป็นสารอาหารสำคัญที่เราจะลืมไม่ได้หากดื่มน้ำน้อยเกินไป ระบบเผาผลาญจะลดลงเหมือนการขาดอาหาร โดยตับจะเก็บน้ำไว้ แทนที่จะใช้ไปในการเผาผลาญไขมันเพราะเป็นตัวช่วยในการไหลเวียนและการดูดซึมของสารอาหารต่างๆ ในร่างกายผ่านเลือดเมื่อดื่มน้ำเพียงพอ การไหลเวียนเลือดจะดีส่งผลให้การเผาผลาญพลังงานดีขึ้นด้วย
น้ำยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาสมดุลของการเผาผลาญพลังงาน รักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ ช่วยให้ร่างกายขับของเสียออกมาเป็นเหงื่อทางผิวหนังปัสสาวะ หรือทางลมหายใจ ช่วยลดการสะสมของไขมัน โดยช่วยแบ่งเบาภาระของตับและช่วยลดอาการบวมน้ำในเนื้อเยื่ออีกด้วย
ดังนั้น การที่เราดื่มน้ำเป็นประจำสม่ำเสมอ เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจะช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานทำงานได้โดยไร้อุปสรรค
5. เลี่ยงอาหารไขมันสูง
รู้หรือไม่ว่า ร่างกายจะสะสมไขมันจากอาหารได้รวดเร็วยิ่งกว่าการสะสมโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต และนี่เองเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
คุณหมอสุวินัยอธิบายว่า ไขมันเป็นอาหารที่ทำให้ระบบเผาผลาญอาหารทำงานช้า เนื่องจากร่างกายเผาผลาญไขมันได้ช้าที่สุด ใช้เวลาในการย่อยและดูดซึมนานประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง ถ้ากินอาหารที่มีไขมันมาก ร่างกายต้องเผาผลาญนาน ก็เท่ากับไปเร่งให้ระบบเผาผลาญเสื่อมลง เมื่อการเผาผลาญไม่ดีก็จะเหลือพลังงานส่วนเกินให้ร่างกายต้องเก็บไว้ในรูปไขมันตามอวัยวะต่างๆ มากขึ้น ดังนั้นควรเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันเป็นประจำ
6. เลี่ยงน้ำตาลและของหวาน
มีการศึกษาพบว่า การกินน้ำตาลและของหวาน ในปริมาณมากเป็นประจำเป็นตัวส่งเสริมให้ระบบเผาผลาญอาหารเก็บสะสมไขมันมากกว่าจะเผาผลาญไขมันออกมาใช้ ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น