เสาวรส
เสาวรส เป็นผลไม้ประเภทหนึ่ง หรือคนบางคนอาจเรียก “กะทกรกฝรั่ง” ก็ว่าได้ แหล่งกำเนิดนั้นอยู่ที่ทวีปอเมริกาใต้ ผลจะมีลักษณะกลม ผลอ่อนจะมีสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะมีหลายสีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ บางทีก็อาจมีสีอมม่วง อมเหลือง ก็สุดแล้วแต่สายพันธุ์นะครับ…
ถึงหน้าตาออกจะดูแปลก แต่แฝงด้วยประโยชน์มากมายมหาศาล! เลยนะจ่ะ
ประโยชน์ของเสาวรส
เมื่อพูดถึง…ประโยชน์ของเจ้าเสาวรสนั้น มีจนนับไม่ถ้วนเลยครับ โดยเฉพาะใครที่อยากลดไขมัน บำรุงสายตา และผิวพรรณ ไม่ควรพลาด!! แต่ประโยชน์ของเสาวรสไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ มาดูกันเลยจ้า…
บำรุงสายตา
เสาวรสอุดมไปด้วยวิตามินเอ และมีสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีน (Betacarotene) ซึ่งถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยป้องกันเซลล์ประสาทตาถูกทำลาย และช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี
กระตุ้นระบบขับถ่าย
เสาวรสมีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบขับถ่าย เนื่องจากอุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร ทั้งยังมีส่วนช่วยในการขจัดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีที่อยู่ในร่างกาย รวมทั้งสามารถขจัดสารพิษ จึงเหมาะสำหรับใช้ในการดีท็อกซ์ของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ด้วย
เสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง
ใครที่เจ็บป่วยบ่อยๆ แนะนำให้รับประทานผลไม้ชนิดนี้เป็นประจำ เพราะในเสาวรส 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 30 มิลลิกรัม คิดเป็น 36% ของปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน จึงช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซีในปริมาณที่เพียงพอ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันหวัด และป้องกันการกำเริบของโรคภูมิแพ้ได้
บำรุงหัวใจ
เสาวรส 100 กรัม มีโพแทสเซียมสูงถึง 348 มิลลิกรัม ซึ่งแร่ธาตุชนิดนี้เป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อเซลล์และของเหลวในร่างกาย นอกจากนี้เมื่อร่างกายได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่พอเหมาะ ก็จะช่วยให้การทำงานของหัวใจและความดันโลหิตเป็นปกติ
ป้องกันกระดูกพรุน
เสาวรสมีสรรพคุณในการป้องกันโรคกระดูกพรุน เนื่องจากมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง วิธีการรับประทาน ให้คั้นเอาน้ำจากผลแก่จัด ใส่เกลือหรือน้ำตาลลงไปตามชอบ สามารถดื่มเรื่อยๆ ได้ทั้งวัน นอกจากนี้น้ำเสาวรสยังช่วยป้องกันโรคเหงือกอักเสบและช่วยให้ฟันแข็งแรงอีกด้วย
ช่วยให้นอนหลับง่าย
การดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น โดยการจะดื่มให้ได้ประโยชน์นั้น ควรดื่มน้ำคั้นสด เติมน้ำตาลหรือเกลือลงไปเล็กน้อย เพียงแค่นี้ก็ทำให้นอนหลับสบายขึ้นแล้ว
ช่วยลดน้ำหนัก
เนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำ รับประทานแล้วไม่อ้วน แต่ให้สารอาหารที่ดีต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังมีกากใยสูง ทำให้รับประทานแล้วรู้สึกอิ่ม ช่วยลดความอยากอาหาร ลดการสร้างไขมันใหม่ และช่วยสลายไขมันเก่าได้เป็นอย่างดี
ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด
สารสกัดจากเปลือกเสาวรสสีม่วงนั้นอุดมไปด้วยสารไบโอฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย โดยมีงานวิจัยพบว่า การรับประทานสารสกัดชนิดนี้วันละ 150 มิลลิกรัม เป็นเวลา 4 สัปดาห์ จะทำให้ผู้ป่วยโรคหอบหืดมีอาการดีขึ้น ความถี่ในการไอลดลง นอกจากนี้ยังไม่พบผลข้างเคียงใดๆ แต่ผู้ป่วยโรคหอบหืดที่ต้องการรับประทานเพื่อสรรพคุณนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง และไม่ควรหยุดรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งโดยพลการ
- อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุรวมอยู่หลายชนิด ซึ่งได้แก่ วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 กรดโฟลิก
- มีแร่ธาตุมากมาย อาทิ ธาตุแคลเซียม ธาตุเหล็ก ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโพแทสเซียม ธาตุสังกะสี
- มีใยอาหารในปริมาณที่สูงมากรวมอยู่ด้วย ซึ่งนิยมนำมารับประทานเป็นผลไม้สด
- บำรุงสายตาได้ดีเยี่ยม เพราะไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยวิตามินเอเท่านั้น ยังพบว่ามีสารฟลาโวนอยด์ อย่างเบต้าแคโรทีนและคริบโทแซนทินเบต้า (cryptoxanthin-ß) ซึ่งผ่านการศึกษามาแล้วว่า สารเหล่านี้มีคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคู่ไปกับวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี
- ป้องกันมะเร็งปอดและมะเร็งช่องปาก ผลไม้ที่อุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์ และวิตามินเอมีส่วนช่วยป้องกันความเสี่ยงมะเร็งทั้ง 2 ชนิดนี้ได้
- เสาวรสดีต่อการขับถ่าย ด้วยความที่มีไฟเบอร์สูง จึงสามารถช่วยขจัดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษในลำไส้ ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ไปได้ในตัว
- ห่างไกลจากไข้หวัด เพราะเสาวรส 100 กรัม พกวิตามินซีมาด้วยถึง 30 มิลลิกรัม การันตีได้ว่า กินเสาวรสเป็นประจำแล้วจะห่างไกลจากไข้หวัด แถมมีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรงแน่นอน
ความปลอดภัยในการรับประทานเสาวรส
การรับประทานเสาวรสในปริมาณปกติที่พบจากในอาหารค่อนข้างมีความปลอดภัย สำหรับการรับประทานในรูปแบบอื่นอย่างชาหรือมีวัตถุประสงค์เพื่อการรักษาโรคควรใช้ติดต่อกันน้อยกว่า 2 เดือน ทั้งนี้ ยังมีข้อควรระวังบางประการ ดังนี้
- การรับประทานเสาวรสอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น วิงเวียนศีรษะ รู้สึกสับสน กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงไป หลอดเลือดอักเสบ บางรายพบรายงานว่ามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ง่วงซึม หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดปกติ
- การใช้เสาวรสกับผิวหนังยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัย ก่อนการใช้จึงควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
- หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานเสาวรส เนื่องจากสารเคมีบางตัวในเสาวรสอาจทำให้มดลูกหดตัว
- ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงในการรับประทานเสาวรส เพราะยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัยเพียงพอหรือหากต้องการรับประทานควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
- ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดควรหยุดรับประทานเสาวรสอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากเสาวรสอาจมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งอาจไประงับฤทธิ์ยาสลบหรือยาตัวอื่นต่อสมองในช่วงผ่าตัดและหลังจากผ่าตัด
เคล็ดลับสามัญประจำบ้านวันนี้!! คลายร้อนด้วย น้ำแข็งเสาวรสโซดา อยากชื่นใจมาดูกันเลย…