เมี่ยงนพเก้า บำบัดมะเร็งเต้านม
โดย อ.วันทนี ธัญญา เจตนธรรมจักร
ฉบับนี้ดิฉันขอว่ากันด้วยภัยใกล้ตัวของสุภาพสตรีเช่น โรคมะเร็งเต้านมค่ะ ด้วยหวังใจให้ผู้ที่กำลังประสบกับโรค หรือผู้ป่วยระยะพักฟื้นจากมะเร็งดังกล่าวนี้ได้มีแนวทางปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันและส่งเสริมสุขภาพกัน
มะเร็งเต้านม ( Breast cancer ) พบว่าป็นมะเร็งอันดับ 2 ที่พบมากในสตรี รองจากมะเร็งมดลูก และมักพบในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป (อาจพบในคนที่อายุน้อยบ้าง) สาเหตุของโรคนั้นไม่แน่ชัด แต่ประมาณร้อยละ 10 ของผู้ป่วยมักพบว่ามีเรื่องพันธุกรรมมาเกี่ยวข้อง รวมถึงคนที่มีน้ำหนักเกิน ผู้ที่ประจำเดือนมาก่อนอายุ 12 ปี สตรีที่หมดประจำเดือนหลังอายุ 55 ปี คนที่มีบุตรคนแรกหลังอายุ 30 ปี และอาจพบได้ในคนที่ใช้ฮอร์โมนทดแทนหลังวัยหมดประจำเดือนนานเกินกว่า 4 ปี รวมไปถึงกลุ่มที่ใช้ยาคุมกำเนิดตั้งแต่อายุยังน้อยติดต่อเป็นเวลานาน ในคนที่สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
ระยะแรกของโรคอาจยังไม่มีอาการแสดง ต้องอาศัยการตรวจด้วยการคลำเต้านมเพื่อตรวจหาก้อนที่เต้านม หรืออาจพบแพทย์เพื่อตรวจเต้านมหรือที่เรียกว่า Mammogram ในบางคนอาจคลำพบก้อนที่เต้านมซึ่งอาจพบว่าก้อนนั้นมีผิวขรุขระคล้ายผลมะกรูด หรืออาจพบว่าหัวนมบุ๋ม มีน้ำนม เลือด หรือน้ำเหลืองไหลออกที่หัวนม เมื่อคลำที่รักแร้อาจพบต่อมน้ำเหลืองโต ถ้าคุณตรวจเต้านมด้วยตนเองและพบอาการดังกล่าวควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อทำการรักษาก่อนที่โรคจะลุกลาม เพราะมะเร็งชนิดนี้ถ้าเป็นในระยะแรกสามารถรักษาให้หายได้
การรักษานั้นต้องตัดเอาก้อนมะเร็งออกและใช้การรักษาทางเคมีบำบัด รังสีบำบัด ฮอร์โมนบำบัด (กินยาที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเอสโทรเจน) หรืออาจใช้การรักษาด้านการแพทย์ทางเลือกช่วยเสริมการรักษา เช่น การรักษาโดยใช้ยาสมุนไพร หรืออาหารบำบัด เพื่อช่วยบรรเทาผลข้างเคียงจากเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด และช่วยเสริมภูมิของร่างกาย
วิธีป้องกันโรคนี้นั้น เริ่มจากปรับพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ งดสูบบุหรี่หรืองดดื่มแอลกอฮอล์จัด ไม่ควรใช้ฮอร์โมนเอสโทรเจนเป็นเวลานาน ออกกำลังกายประจำ รับประทานผักและผลไม้มากๆ ลดการบริโภคเนื้อแดง และควบคุมน้ำหนัก
นอกจากนี้ควรงดรับประทานอาหารประเภทปิ้ง ย่าง ทอด ที่ไหม้เกรียม ตลอดจนอาหารที่มีไขมันสูง และถ้ามีบุตรควรเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านม ส่วนเรื่องการดื่มน้ำเต้าหู้เพื่อป้องกันมะเร็งเต้านมนั้นไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 แก้ว วิธีนี้จะให้ผลดีต่อการป้องกันมะเร็งและลดอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง แต่ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมกลุ่มที่ตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศควรหลีกเลี่ยงการรับประทานถั่วเหลืองในความเข้มข้นสูง เนื่องจากถั่วเหลืองมีสารไอโซฟลาโวน(Isoflavone) ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิง อาจส่งผลให้เซลมะเร็งเจริญเติบโตขึ้น
จบเรื่องมะเร็งเต้านมและการดูแลรักษาร่างกายกันไปแล้ว ครานี้ดิฉันขอแนะนำเมนู “เมี่ยงนพเก้า” ที่รวมเอาผลไม้และธัญพืช 9 ซึ่งอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยป้องกัน และยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไว้ด้วยกัน เพื่อไว้ใช้ป้องกันและยับยั้งโรคในกรณีที่ป่วยแล้ว ส่วนคนที่ยังไม่ป่วยจะรับประทานเป้องกันโรคดังกล่าวก็ได้ผลดีไม่น้อยค่ะ
เมี่ยงนพเก้า
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 30 นาที ปรุง 20 นาที
ข้าวตอกคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
ลูกเดือยต้มสุก 3 ช้อนโต๊ะ
ทับทิมแดงแกะเอาแต่เม็ด 4 ช้อนโต๊ะ
มะม่วงสุกหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
มะละกอสุกหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
แคนตาลูปหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
แอปเปิ้ลเขียวหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
ฝรั่งหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
เนื้ออินทผลัมอบแห้งหั่นเต๋า 4 ช้อนโต๊ะ
กุ้งสดหั่นชิ้นพอคำลวกสุก 4 ช้อนโต๊ะ
ใบผักกาดแก้วหรือผักกาดหอมสำหรับรับประทานเป็นผักแบบเมี่ยง
ส่วนผสมน้ำเมี่ยง
เสาวรสผ่าเอาแต่เนื้อและน้ำ 2 ผล น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผงขมิ้น 1/4 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ ใบสะระแหน่สับ 2 ช้อนชา
วิธีปรุง
ตีส่วนผสมน้ำเมี่ยงรวมกันในอ่างผสมจนเข้ากันดี แล้วใส่เครื่องเมี่ยงต่าง ๆ ลงเคล้ากบส่วนผสมข้อ 1 แต่ให้ใส่ข้าวตอกลงไปคลุกเป็นลำดับสุดท้าย จากนั้นหั่นผักกาดแก้วเป็นชิ้นพอคำ ตักส่วนผสมข้อสองใส่ลงไปเป็นคำ ๆ รับประทานทันที
Tip
อาหารจานนี้ควรปรุงสดใหม่ แล้วรับประทานทันที เพื่อป้องกันวิตามินซีสลายตัวเร็วและไม่ควรใส่ข้าวตอกคลุกทิ้งไว้เพราะจะทำให้ข้าวตอกนิ่ม ดูไม่น่ารับประทาน
ล้อมกรอบ
เมี่ยงนพเก้า อุดมไปด้วย วิตามินซีจากผลไม้ ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดและช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อง่าย ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสสระ พร้อมกันนันยังมีเบต้าแคโรทีน ช่วยต้านอนุมูล-อิสระ เสริมภูมิต้านทานได้อีกทาง ส่วนฟลาโวนอยด์ในผลไม้สีส้มและแดง นั้นช่วยลดการเกิดมะเร็งได้โดยตรง และสารเคอคูมินอยด์จากขมิ้นชัน ช่วยป้องกันมะเร็ง ต้านอนุมูลอิสสระ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีทีเดียว และสารสำคัญทั้งสามชนิดหลังยังช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 276.40 กิโลแคลอรี โปรตีน 7.10 กรัม ไขมัน 7.20 กรัม คาร์โบไฮเดรต 47.66 กรัม ไฟเบอร์4.55 กรัม