3 คนดังสุดน่ารัก กตัญญูรู้คุณ ต่อบุพการีและผู้อื่น
3 คนดังแห่งวงการบันเทิงโพสต์ภาพและเขียนแคปชั่นแสดงการมีความ กตัญญูรู้คุณ บางท่านอาจกล่าวถึงหรือแสดงกตัญญูต่อผู้อื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่ ซึ่งแสดงออกถึงการเป็นผู้รู้คุณผู้อื่น
หนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม หลายคนอาจรู้จักและคุ้นกับคุณหนึ่งในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินจากรายการ I Can See Your Voice หรือ รายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านดนตรีในวงการเพลงมานงนาน ล่าสุดได้โพสต์ภาพและเขียนแคปชั่นในไอจีว่า
jakkawal_1บ้านเราใกล้เสร็จแล้วนะแม่ ถึงแม้วันนี้พ่อไม่ได้อยู่กะเรา นู๋จะดูแลแม่เองนะ❤️😊😊😊🙏🏻 #หนึ่งจักรวาล #1jakkawal #ภูมิใจ #รักแม่นะ
เป็นข้อความแคปชั่นที่น่ารักและประดับใจมาก แสดงถึงความเป็นบุตรที่ดี บำรุงอุปถัมภ์พระในบ้าน (คุณแม่) ทั้งยังระลึกถึงบุพารีอีกท่านที่จากไปคือ คุณพ่อ แสดงให้เห็นว่าแม้บุพการีอีกท่าน ถึงจะจากไปแล้ว ลูกคนนี้ก็ยังระลึกถึงท่านอยู่เสมอเพราะมีคุณความดีต่อกัน พร้อมกับบ้านหลังใหม่ที่จะนำพระในบ้าน (คุณแม่) มาเลี้ยงดูและอยู่ร่วมกันที่กำลังจะเสร็จในไม่ช้านี้
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากไอจี หนึ่ง จักรวาล jakkawal_1
annethongความจำสั้น แต่รักฉันยาว❤….
ถามลุงว่า ลุงรู้ไม๊นี่ใคร?..(แอนชี้มาที่ตัวเอง)
ลุง: คุณแอน (คุณ!!??..มาจากใหน?😂)
แอน: แล้วลุงรู้ไม๊แอนเป็นไรกะลุง?
ลุง: อ๋อ..น้องสาว(ยิ้มฟันหลอ)
แอน :…???!!!
**ไงหล่ะ?!..พี่ชายแอนหล่อไม๊?😂❤
#สุภาพบุรุษผู้ซึ่งขับรถสิบล้อส่งเราไปโรงเรียนทุกวัน😊❤**
แอน ทองประสม เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงไทย นางเอกระดับต้นของประเทศ ที่ฝากผลงานละครไว้มากมาย อาทิ เช่น สามีตีตรา แรงเงา รัตติกาลยอดรัก มณีหยาดฟ้า เสื้อสีฝุ่น อุ้มรัก ฯลฯ และภาพยนตร์รักที่สร้างความประทับใจไปตลอดกาลอย่างเรื่อง ” เดอะ เลตเตอร์ จดหมายรัก” ได้โพสต์ภาพคู่กับคุณลุงคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เป็นโรคความจำเสื่อม คุณลุงคนนี้เป็นคนขับสิบล้อที่ขับพาแอนไปส่งที่โรงเรียนทุกวัน แสดงให้เห็นว่า แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดก็ตาม กาลเวลาทำให้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไป แอนกลายเป็นนางเอกเบอร์หนึ่งของประเทศ เป็นดาวค้างฟ้า และผู้จัดละครมือทอง (ผลงานละครล่าสุด ลิขิตรัก The Crown Princess ) ในวันนี้ ส่วนคุณลุงถึงจะกลายเป็นคนความจำเสื่อม จำแอนไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งสองมีไม่เปลี่ยนแปลงเลยคือ ความดีที่มีต่อกัน แอนยังจดจำและรำลึกถึงเสมอ แสดงถึงความเป็นผู้รู้คุณของผู้อื่น ถึงแม้คุณลุงคนนี้จะไม่ได้เป็นบุพการี หรือญาติร่วมสายโลหิตเดียวกันก็ตาม
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก annethong
keaw_jungเสาร์แซ่บ สองพ่อลูกใจตรงกัน 5555 ร้อนแรงๆๆๆๆ แข็งแรงๆๆๆ นะครับ 💪💪💪❤️❤️❤️❤️ #nadech #nadechactivity
ท่านสุดท้าย ณเดชน์ คูกิมิยะ หนุ่มน้อยเข้าสู่วงการบันเทิงจากละครเรื่องแรก “เงารักลวงใจ” ในบทบาทของนาวา กำธรภูวนาท และพระเอกเต็มตัวในเรื่อง “ดวงใจอัคนี” ละครชุดสี่หัวใจแห่งขุนเขา ตอนนี้กลายเป็นพระเอกซุป’ตาร์ไปเสียแล้ว และมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องอย่างผลงานออนแอร์ล่าสุดคือ “ลิขิตรัก The Crown Princess” ในบทบาทของนาวาตรีดวิน สมุทรยากร แม้ณเดชน์ จะเป็นซุป’ตาร์มีงานและคิวล้นมืออย่างไร ก็ไม่ทอดทิ้งบุพการี ล่าสุดคุณพ่อโยชิโอมีอาการความจำเสื่อม ณเดชน์ ก็สละเวลาว่างเท่าที่มีดูแลคุณพ่อโยชิโอเสมอ เราจะเห็นภาพความมีกตัญญูเช่นนี้ในไอจีของคุณแม่แก้ว คุณแม่ของณเดชน์เสมอ 3 วันที่ผ่านมาคุณแม่แก้วโพสต์ภาพณเดชน์คุยกับคุณแม่โยชิโอ เป็นภาพที่น่ารักและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่พบเห็นอย่างมาก ซึ่งคุณพ่อโยชิโอป่วยมาตั้งแต่ 2559 แล้ว และณเดชน์ก็ยังปฏิบัติตนในฐานะลูกที่ดีเสมอมา
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก keaw_jung
สมเด็จพระสังฆราช (สา) ได้กล่าวธรรมภาษิตหนึ่งไว้ว่า “นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทิตา” มีความหมายว่า “ความกตัญญูรู้คุณผู้อื่นเป็นเครื่องหมายของคนดี” สอดคล้องกับคติทางพระพุทธศาสนาที่กล่าวถึงคุณของการเป็นผู้รู้คุณ และโทษของการเป็นผู้เนรคุณไว้อย่างน่าสนใจ มักปรากฏเป็นนิทานชาดก เช่น ชายคนหนึ่งหลงป่าหลายวัน ได้รับการช่วยเหลือจากลิงพระโพธิสัตว์ แต่ด้วยความหิวจึงจะฆ่าลิงเพื่อกินเป็นอาหาร สุดท้ายผลที่ชายคนนี้ได้รับคือ การป่วยเป็นโรคเรื้อน ผิวหนังเต็มไปด้วยตุ่มหนองน่ารังเกลียด หรือนิทานชาดกอีกเรื่องที่เล่าถึงชายคนหนึ่งได้มนต์วิเศษสามารถเสกผลมะม่วงได้ ทั้งที่ไม่ใช่ฤดูกาลของมัน พระราชาทราบจึงให้ชายคนนี้มาแสดงมนต์ให้พระองค์ทอดพระเนตร ปรากฏว่าชายผู้นี้ทำได้จริง พระราชาจึงตรัสถามว่า ใครเป็นอาจารย์ที่สอนมนต์นี้ให้ ชายหนุ่มอายไม่กล้าตอบว่า ตนเรียนมาจากคนที่เป็นจัณฑาล (ชนชั้นที่ต่ำด้อยที่สุดในระบบชนชั้นของอินเดียโบราณแล้วยังมีคตินี้มาจนถึงปัจจุบัน เกิดจากการที่พ่อแม่แต่งงานข้ามชนชั้นหรือวรรณะ) จึงตอบพระราชาว่าเรียนมาจากอาจารย์ที่ตักศิลานคร ผลปรากฏว่ามนต์นั้นได้เสื่อมไป ชายคนนี้ไม่สามารถใช้มนต์บทนี้เสกผลมะม่วงได้อีกต่อไป เป็นต้น
นิทานชาดกที่ยกมาเพียงสองเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า พระพุทธศาสนาเห็นโทษของการเป็นคนเนรคุณ ไม่รู้จักบุญคุณผู้อื่น พระพุทธเจ้าทรงเป็นถึงพระศาสดา รู้แจ้งในโลกนี้และโลกอื่น ทรงเห็นคุณของผู้อื่นว่าต้องทดแทน เช่น พระองค์หลังจากตรัสรู้แล้ว หวังจะนำสิ่งที่ค้นพบไปสอนพระอาจารย์คืออาฬารดาบส และอุทกดาบส แต่พอเสด็จไปก็ทรงทราบว่าพระอาจารย์สิ้นบุญไปเสวยทิพย์ยังพรหมโลกแล้ว จึงทรงระลึกถึงคุณของปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ที่คอยดูแลพระองค์ในช่วงแรก จึงเสด็จไปโปรดปัญจวัคคีย์ยังป่าอิสิปนมฤคทายวัน ผู้มีพระคุณต่อพระองค์ พระองค์ได้ทดแทนจนหมดสิ้น เช่น พระนางสิริมหามายา พระมารดาผู้ให้กำนิด พระองค์เสด็จโปรดพระมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์จนบรรลุเป็นพระโสดาบัน สงเคราะห์พระน้านางปชาบดีโคตมี ผู้เลี้ยงดูแลและถวายน้ำนมมาตั้งแต่เยาว์วัย ด้วยการมอบพระธรรมอันประเสริฐในพระนางได้กำเนิดในทางธรรมเป็นพระอรหันต์ เป็นต้น
การเป็นผู้รู้คุณคน ไม่ว่าจะเป็นบุพการี บิดามารดา ญาติร่วมสายโลหิตเดียวกันก็ตาม หรือผู้อื่นที่มีความเป็นปิยมิตร กัลยาณมิตรก็ตาม การที่เราระลึกถึงหรือทดแทนด้วยการกระทำความดีต่างๆ แก่เขา ล้วนเป็นกุศลและความดี
บทความน่าสนใจ
รอดภัยอย่างปาฏิหาริย์! เพราะบุญกตัญญู [ เรื่องจริง จากซีเคร็ต ]
ข้าวสวย หนึ่งทัพพี นิทานสอนธรรมเรื่อง ความกตัญญูกตเวที – ท่านว. วชิรเมธี
ความสุขหลังคราบน้ำตา! หนูเล็ก ก่อนบ่าย มีวันนี้ได้เพราะกตัญญูสุดพลัง