บุญทันตาเห็น เรื่องเล่าบุญติดจรวดครั้งสมัยพุทธกาล
คิดว่าคงคุ้นเคยกับคำว่า “กรรมติดจรวด” กันมามากแล้ว เป็นคำฮิตในยุคปัจจุบันมาก แต่ยังไม่เคยได้ยินคำว่า “บุญติดจรวด” บ้างเลย บุญให้ผลช้าหรืออย่างไร แต่หากท้าวความไปในสมัยพุทธกาลเรื่องบุญติดจรวด หรือ บุญทันตาเห็น มีอยู่จริง ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาปรากฏเรื่องของบุคคลที่ทำบุญแล้ว บุญส่งผลทันตาเห็นได้อย่างเหลือเชื่อ
นายสุมนมาลาการ
เป็นผู้เก็บดอกไม้ของพระเจ้าพิมพิสาร มีหน้าที่เก็บดอกไม้ถวายพระเจ้าพิมพิสารในวังทุกวัน วันหนึ่งนายสุมนมาลาการได้พบกับพระพุทธเจ้าเสด็จบิณฑบาตพร้อมด้วยพระสาวก เขาบังเกิดจิตเลื่อมใส จึงตัดสินใจถวายดอกมะลิที่กำลังนำไปถวายพระเจ้าพิมพิสารแด่พระพุทธเจ้า แม้จะทราบดีว่าเป็นการทำความผิดต่อพระเจ้าแผ่นดินก็ตาม แต่ยินดีสละชีวิตเพื่อได้สร้างบุญกับพระพุทธเจ้า
ดอกมะลิจำนวน 8 กำ 8 ทะนานที่นายสมุนมาลาการถวายนั้น กลายเป็นตาข่ายล้อมพระพุทธเจ้าไว้อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงทราบดังนั้น ก็ทรงเลื่อมใสในการทำบุญของนายสุมนมาลาการ ได้พระราชทานทรัพย์สมบัติมากมายแก่นายสุมนมาลาการ
พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ว่า นายสุมนมาลาการยอมสละชีวิตเพื่อได้สร้างบุญกับเรา ด้วยการบูชาเราด้วยดอกมะลิเหล่านี้ หลังจากสิ้นบุญไปแล้วจะเกิดเฉพาะโลกมนุษย์และโลกสวรรค์ จากนั้นก็จะตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
พระนางมัลลิกาเทวี
เดิมพระนางมัลลิกาเทวีเป็นธิดาของช่างดอกไม้ในกรุงสาวัตถี ได้นำขนมถั่วไปถวายพระพุทธเจ้า โดยจัดตกแต่งอย่างสวยงามในตระกร้า พอใส่ขนมถั่วลงในบาตรของพระพุทธเจ้าบังเกิดความปีติ แล้วระลึกพระพุทธเจ้าเป็นสมาธิ (พุทธานุสติ) จากนั้นพระพุทธเจ้าตรัสขึ้นว่า
“กุมารีคนนี้จะได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศลในวันนี้ เพราะผลแห่งบุญที่นางถวายขนมถั่ว”
ในวันนั้นเองขณะที่กุมารีกำลังเก็บดอกไม้พร้อมกับร้องเพลงไปด้วย พระเจ้าปเสนทิโกศลซึ่งทรงเหนื่อยล้าจากการรบกับพระเจ้าอชาตศัตรูมาทางนี้พอดี ได้ยินเสียงของกุมารีก็เกิดจิตปฏิพัทธ์ขึ้น เมื่อพระราชาทรงทราบว่ากุมารีนางนี้ยังไม่มีสามี จึงนำนางขึ้นหลังม้าแล้ว มุ่งสู่พระนครแต่งตั้งเป็นพระอัครมเหสี
พระนางโคปาลมาตาเทวี
เดิมเป็นธิดาเศรษฐี หลังจากบิดาสิ้นบุญก็ตกยาก อาศัยอยู่กับพี่เลี้ยง แต่นางเป็นสตรีที่มีเส้นผมยาวสวยงดงาม ธิดาเศรษฐีอีกนางมีความมั่งคั่งแต่เป็นคนมีผมน้อย จึงให้นางใช้ไปซื้อผมจากธิดาเศรษฐีตกยากแต่นางไม่ยอมขาย จนกระทั่งนางศรัทธาในพระมหากัจจายนะ จึงสละเส้นผมของตนเองขายให้ธิดาเศรษฐีที่ร่ำรวย แล้วนำเงินจัดซื้ออาหารให้พี่เลี้ยงไปถวายพระมหากัจจายนะ นางไม่ไปถวายด้วยตนเองเพราะอายที่นางตเองมีผมที่สั้นกุด แต่ด้วยผลบุญทำให้เส้นผมของนางกลับมายาวงดงามดังเดิม พอพระมหากัจจายนะรับอาหารแล้วก็เหาะมาฉันอาหารยังพระอุทยานของพระเจ้าจัณฑปัชโชต พระราชาทรงเห็นพระเถระมาฉันอาหารภายในพระอุทยานจึงเสด็จไปคอยรับใช้ พระราชาถามพระเถระว่าอาหารที่ท่านรับมานั้น ผู้ใดเป็นผู้ถวายเพราะเป็นอาหารที่ประณีตงดงาม พระเถระจึงเล่าเรื่องของธิดาเศรษฐีผู้ตกยากปาลถวาย พระเจ้าจัณฑปัชโชตชอบในการสละเส้นผมของนาง จึงรับนางมาเป็นพระอัครมเหสี
นางสุปิยอุบาสิกา
นางและสามีคือ สุปิยอุบาสก ทั้งสองมีความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า อุปถัมภ์พระสาวกของพระพุทธเจ้าอยู่เป็นนิจ วันหนึ่งพระภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ อยากฉันแกงเนื้อ นางสุปิยอุบาสิกาจึงรับปากพระเถระว่าจะนำแกงเนื้อมาถวาย แต่แล้วก็ไม่ร้านไหนในตลาดมีเนื้อขายเลย นางสุปิยอุบาสิกาจึงนำเนื้อต้นขาของตนเองมาปรุงเป็นอาหารแล้วให้คนรับใช้นำแกงเนื้อไปถวายพระเถระ พอนายสุปิยอุบาสกกลับมาก็ถามหาภรรยาที่รัก เมื่อทราบว่านางแล่นเนื้อขาของนางเองปรุงเป็นอาหารถวายพระสงฆ์จึงนอนป่วยอยู่ที่เตียง สามีเข้าไปดูแลอาการของภรรยา ต่อมาสุปิยอุบาสกจึงนิมนต์พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสามีมาฉันพระกระยาหารที่บ้าน แต่นางสุปิยอุบาสิกาลุกขึ้นมาไม่ไหว ด้วยอำนาจของพุทธคุณและผลบุญของนางที่แล่นเนื้อต้นขามาปรุงเป็นอาหารถวายพระ ทำให้แผลหายและเนื้อกลับมาเต็มดังเดิม
เรื่องเล่าบุญติดจรวดทั้ง 3 เรื่องนี้ ทำให้เรารู้ว่า ผลบุญให้ผลทันตาเห็นคือการทำบุญกับพระอริยบุคคล คือ พระพุทธเจ้า และพระสาวกผู้เป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ
ที่มา : มิลินทปัญหา โดย วัฒนไชย
บทความน่าสนใจ
ทำบุญง่าย ๆ เพียงแค่คลิก ปันบุญ by TMB
Dhamma Talk : ช่วยอย่างไร ไม่ให้ได้บาปมากกว่าบุญ
True Story : บุญครั้งสุดท้าย….ของลูกสาวผู้จากไป
บุญมากหรือบาปน้อย วัดผลได้จากอะไร – ประสบการณ์ธรรมะจากผู้อ่าน
พระมาลัยสนทนากับเทวดา : ผลบุญที่ทำให้เกิดเป็นเทวดาใน พระมาลัยคำหลวง